2 กันยายน 2552 21:32 น.
คนกุลา
๐ เคียงโสมคราวส่องหล้า คืนเพ็ญ
ปานดั่งงามใสเย็น พักตร์น้อง
สวยเกินยิ่งยามเห็น นวลพี่ นางเอย
ยามสาดแสงโสมต้อง อาบเนื้อนวลสมรฯ
๐ คำรำพันที่ได้ มีมา น้องเอย
คราเมื่อครรไลลา จากเจ้า
จึงเพียงส่งวาจา สารสื่อ นางนา
กายพี่หมายคลอเคล้า หากน้องปรารถนาฯ
๐ ใจนวลคงมิให้ ใครครอง แน่นา
ใจพี่วนเวียนปอง นิ่มเนื้อ
ใจรวมภักดิ์เราสอง นานสืบ ต่อนา
เหมือนดุจเป็นบุญเกื้อ แห่งห้วงปางบรรพ์
๐ วอนลมฝนจากแคว้น แดนใด นวลเฮย
คราวรักเราแรมไกล สุดหล้า
นางเธออยู่หนไหน วานบอก พี่แฮ
ถึงสุดไกลหวังคว้า รักนั้นมาเคียงฯ
๏ กรองคำนำสู่ฟ้า วอนจันทร์ แม่เอย
หวังเมื่อใจจำนรรจ์ ส่งให้
รอคำจากสมรขวัญ คืนกลับ พี่นา
คราวฝากคงหวังได้ บอกด้วยเรียมรอฯ
.........
คนกุลา
ในวสันต์
2 กันยายน 2552 13:08 น.
คนกุลา
เคยกระซิบซึ้งคำลำนำรัก
เคยซบตักพักใจในสวนฝัน
เคยชวนชมลมบ่ายปลายตะวัน
กลางแสงจันทร์เจือหม่นเพราะฝนปรอย
เคยชื่นเคล้าคลอเคียงกันเพียงสอง
ตามลำคลองคลื่นนิ่งชมหิ่งห้อย
ในห้วงน้ำยามใจไม่ต้องคอย
เรือล่องลอยเลยหวามทุกยามใจ
น้ำในคลองนองรวมจนท่วมท่า
น้ำที่มาพาฉงนจนสงสัย
น้ำไหลหลากจากถิ่นดินแดนใด
ก่อนรินไหลหลั่งนองท้องนที
เธอตั้งกล้องส่องรับคอยจับภาพ
ยิ้มเอิบอาบอิ่มให้ใจสุขี
ช่วยกันสร้างร่างบทรสกวี
ณ ที่ที่มีเราเข้าใจกัน
มาวันนี้มีบ้างต่างโหยหา
รอเวลากลับมาใหม่เคยได้ฝัน
รอคืนค่ำย้ำเย็นของเพ็ญจันทร์
กลางตะวันนั้นต่างยังคงรอ
ใจมั่นรอขอรอก็เพราะรัก
ใจอยากถักยอมถักเพราะรักหนอ
ใจคอยสานหวานฝันวันพนอ
เพียรเติมต่อทอร้อยสร้อยรักเดิม
.............
คนกุลา
ในวสันต์
31 สิงหาคม 2552 12:19 น.
คนกุลา
๏ สายฝนพรมแหล่งหล้า โลมดิน แม่เฮย
โปรยสู่ธรณินทร์ พลิกฟื้น
มวลคนสัตว์หากิน ยังชีพ อยู่แฮ
เราก็คงใจชื้น หากได้ฝนปรอยฯ
๏ ยามฝนปรายจากฟ้า คราใด ท่านเอย
ปานดั่งฝนในใจ ฉ่ำแล้ว
ฝอยฝนฝากคนไกล เกินสื่อ แม่นา
เรียมส่งใจราวแก้ว ส่องเนื้อนวลสมรฯ
๏ เสียงฝนทนร่ำร้อง ปานคราง
เหมือนห่วงใยนวลปราง แน่งน้อง
ครืนครืนคัคนางค์ เวียนคร่ำ ครวญนา
เป็นดั่งใจหมายป้อง ปกให้นางเขษมฯ
๏ ฝนเอยเพียงบอกให้ นำคำ ไปนา
เพียรบอกเธอจงจำ กอดข้าฯ
สายฝนร่ำโรยพรำ ใจยิ่ง คิดนา
ฝนผิพาใจล้า ยิ่งให้หวังถวิลฯ
๏ หวังฝนรินตกพื้น ธาตรี
ไหลล่องนองชลธี หลากล้น
ใจครวญว่าคนดี คงคิด ฮอดแฮ
เหมือนเมื่อเรียมคราวด้น ขอบฟ้าหานางฯ
๏ วอนฝนยามหลั่งแล้ว หายตรม เถิดนา
หวังดอกฝนพรายพรม พร่างพร้อย
งามใสสดชวนชม แลโล่ง ตานา
ฝนพรั่งพรูเหมือนสร้อย สอดไว้เวียนศอฯ
๏ ฝนฤๅเลือนจากนี้ โปรยปราย
ใจพี่คราวคืนหมาย เยี่ยมเจ้า
ฝนพราวสื่อเป็นสาย นำสู่ นางเฮย
หวังว่านวลยังเฝ้า รับสร้อยสายฝนฯ
.........
คนกุลา
ในวสันต์
29 สิงหาคม 2552 14:53 น.
คนกุลา
๏ ใจดวงเดิมเริ่มสร้าง ควรเคียง
หวังว่าคอยสานเสียง กล่อมเกื้อ
ยามไกลคิดถึงเพียง เกินเอ่ย แม่นา
ลมหอบเอานวลเนื้อ รักให้เธอชมฯ
๏ วอนลมหมายสื่อเจ้า ลอยมา นางเอย
เพ็ญพร่างกลางดารา เด่นคว้าง
แสงนวลอาบนภา นานเนิ่น กาลแฮ
อวลยิ่งเหมือนราวอ้าง เร่งให้เรียมตรมฯ
๏ จันทร์เอยใครเอ่ยบ้าง ถามใจ น้องนา
จันทร์เยี่ยมมายามใด พร่างพร้อย
คืนจันทร์ส่องแสงไกล งามนัก นางเฮย
ตัวพี่เทียมดาวน้อย ภักดิ์น้องจันทร์สมร
๏ ฤๅเพียงลวงว่าให้ วอนคำ แม่เอย
หวังส่งเป็นลำนำ แด่น้อง
แปลงจินต์สื่อสารจำ- นรรย์ต่อ นวลนา
ยังกริ่งเพียงคนซ้อง แซ่ให้ใจตรอมฯ
๏ เพียงคำวอนฝากแล้ว สายลม แม่เอย
ตรงจากใจดวงตรม ฝากฟ้า
หวังเห็นสุขยามชม คราใหม่ งามแฮ
จึงฝากใจคราล้า รับด้วยถนอมกัน
๏ วานลมหวังบอกเนื้อ นัยความ
เลยลิ่วหานงราม นุชเจ้า
สานใจแว่วไหวหวาม ไปบอก เธอเฮย
หวังเมื่อคืนหวนเหย้า รับถ้อยนางมาฯ
๏ ยามลมโลมพัดไล้ เรียวจันทร์ แม่นา
เหงาอยู่เพียงบางวัน เหว่ว้า
หวังลมช่วยเชยขวัญ แทนกอด พี่แฮ
รอพี่หานานช้า กลับห้วงใจถวิลฯ
.........
คนกุลา
ในวสันต์
26 สิงหาคม 2552 18:51 น.
คนกุลา
๏ พรมฝนมาพร่างพื้น ธารา
คราเมื่อสองเรามา ร่วมเหย้า
คลอนางสุดบุญตา ใจพี่ แม่เอย
เชยชิดขวัญใจเจ้า รักแท้ยืนยงฯ
๏ สายลมพรมพัดให้ นางใด นวลเอย
หวังฝากคำลอยไกล สู่เจ้า
ลมคราหากลาไป ใจหม่น แม่เฮย
เคยเอ่ยคำเพียงเย้า ฝากให้จดจำ
๏ ลำนำคำกู่ก้อง ถามไป
ฤๅใคร่ถามใครใคร ตอบถ้อย
เพียรฝันพร่ำฝนไกล ใจบอก นางนา
หวังคนึงนวลน้อย ตอบข้าฯหายตรมฯ
๏ เคยเคียงครองจากเจ้า ยังจำ นางเอย
คราพี่เคยวอนคำ คู่น้อง
ยามคราวบอกงามขำ ใจภักดิ์ เธอนา
ฤๅว่านวลยังข้อง จิตเจ้าสงสัยฯ
๏ ใจครวญหวังฝากฟ้า ลอยลม มาเฮย
เพียงใคร่หมายเชยชม ยิ่งแล้ว
เพ็ญนวลพร่างสวยสม งามนัก แม่เอย
ใจรักวางนางแก้ว แด่น้องเพียงเดียว
.........