คนบ้านกลอน นอนแกร่ว อีกแล้วหนอ
สู้เฝ้ารอ ผลงาน ที่ขานไข
หยิบดินสอ ปากกา มาเร็วไว
กลั่นหัวใจ เรียงถ้อย บทร้อยกรอง
หน้ากระดาน งานสะดุด เหมือนหยุดนิ่ง
เพื่อนชายหญิง ยุ่งงาน การทั้งผอง
แม้เหนื่อหนัก นักหนา หันมามอง
แล้วก็ลอง หลับตา หาวลี
ไม่แว่วหวาน งานเขียน แต่เพียรสร้าง
แข็งกระด้าง ห่วงใย กระไรนี่
อยากจรรโลง โครงถ้อย ร้อยวจี
มาเร็วรี่ อย่าช้า มาไวไว
อย่าเอาแต่ อ่านอ่าน หยุดงานเขียน
เจ้าสังเวียน ทุกท่าน คร้านไฉน
เจ้าคารม คมถ้อย ร้อยรำไพ
มาจากไกล อีกแล้ว เกลอแก้วเอย
ใต้สำนึก ของจิต เมื่อคิดถึง
ในก้นบึ้ง ของใจ ที่ไหวหวาม
มีเหตุใด ซ่อนอยู่ ดูเนื้อความ
พินิจยาม โดดเดี่ยว เมื่อเดียวดาย
สงสารจัง ใจตน นะคนนี้
เหมือนคนที่ รื่นรมย์ สุขสมหมาย
แต่ส่วนลึก ลึกลึก นึกละอาย
มันก็คล้าย หลอกตน มนต์มายา
อยากหาคน สักใคร ให้สงสาร
จะไหว้วาน ขอร้อง เฝ้ามองหา
เป็นน้ำทิพย์ ชโลมใจ ในวิญญาณ์
แม้รู้ว่า หลอกตน ก็ทนยอม
อยากจะลืม วันเก่า ที่เราชื่น
อยากจะคืน ภาพฝัน อันสุขสม
ลืมวันเก่า เราเอ๋ย เคยรื่นรมย์
เพราะโศกซม เมื่อวัน เธอผันแปร
หรือเพราะเรา เขลาขาด จึงพลาดพลั้ง
มิเคยฟัง คำใคร ไม่แยแส
คนซื่อใส ใจยัง โดนรังแก
จนดวงแด เดียวดาย เจียนวายปราณ
อยู่กับเหงา เขาเมิน เดินหนีจาก
มิเหลือซาก ความหลัง ครั้งหอมหวาน
สัญญายัง จำมั่น เมื่อวันวาน
ทุกเหตุการณ์ ในใจ ไม่อยากจำ
อยากจะลืม รอยหมาง ล้างรอยหม่น
ให้หลุดพ้น มนต์ร้าย ที่กรายกล้ำ
ใต้สำนึก จิตนี้ เป็นสีดำ
แต่จะทำ ใจได้ หรือไม่เรา
อยากตะโกน ก้องฟ้า ว่าคิดถึง
ใครคนหนึ่ง ที่เรา เฝ้าห่วงหา
จำมิเลือน เหมือนเคย เอ่ยสัญญา
วันเวลา เปลี่ยนใจ หรือไรกัน
จำได้ไหม ใครเอ๋ย เคยปลุกปลอบ
หลายคำมอบ ตอบกลับ เพื่อรับขวัญ
ใครคอยซับ น้ำตา เมื่อจาบัลย์
เขาคนนั้น วันนี้ อยู่ที่ใด
ลืมเดือนเสี้ยว เกี่ยวฟ้า เวลาค่ำ
หลายถ้อยคำ สัญญา ว่าไฉน
พอเดือนลับ ลมเหนือ หนาวเหลือใจ
ผ้าคลุมไหล่ ใครเล่า ห่มเจ้านาง
เดือนดวงผอม ตรอมใจ หรือไรนี่
ดั่งคนนี้ ที่ตรม ซมไม่สร่าง
เมื่อเดือนลา เรไร คล้ายครวญคราง
ตาสองข้าง ชลนัย เริ่มไหลริน
ลืมหรือยัง ครั้งหนึ่ง เคยซึ้งจิต
ได้ผูกมิตร เพื่อนรัก ชาวนักฝัน
จดหมายส่ง คงย้ำ ความสัมพันธ์
แต่ว่าวัน นี้เหมือน ร้างเลือนไป
งานที่หนัก มากล้น เป็นต้นเหตุ
หรือว่าเจตนา เลิกปราศรัย
หรือจดหมาย ฉบับนั้น เป็นหมันไป
จึงมิได้ ตอบถ้อย คนคอยรอ