31 ตุลาคม 2554 21:58 น.

หนักใจ

คนกรุงศรี

อยากบอกเขา เราหนอ ทดท้อนัก
สุดอึกอัก หนักใจ ไม่ประสา
ตั้งหลายคำ เตรียมไว้ ในอุรา
แต่มิกล้า บอกเขา ให้เข้าใจ

ความรู้สึก นึกคิด ผิดสังเกตุ
หาสาเหตุ ที่แท้ อยากแก้ไข
คิดถึงบ่อย คอยหา มาเมื่อใด
สุดห่วงใย ไม่เจอ นั่งเหม่อลอย

แต่พบหน้า คราใด ยิ่งไหวหวั่น
มือไม้มัน เกะกะ อยากจะถอย
เขาไม่ถาม ไม่ไถ่ ดั่งใจคอย
สุดเหงาหงอย รู้ว่า น้ำตาริน				
30 ตุลาคม 2554 22:12 น.

รักแล้วเจ็บ

คนกรุงศรี

เมื่อรู้ว่า รักใคร ใจก็เจ็บ
ทนกักเก็บ เอาไว้ จนไหม้หมอง
เคยห้ามมาน บอกว่า อย่าหมายมอง
หากจะต้อง ตัดรัก แสนหนักทรวง

พบเธอช้า กว่าเขา เราจึงหม่น
แต่จะทน ต่อไป ให้ลุล่วง
ขอเพียงรัก เห็นใจ ไม่หลอกลวง
แค่บอกห่วง และคิดถึง ก็ซึ้งพอ				
29 ตุลาคม 2554 22:45 น.

เพื่อเราที่รัก

คนกรุงศรี

เพราะว่าฉัน  เธอจึงกล้า  บอกว่ารัก
แจ้งประจักษ์  จริงใจ  ไม่แปรผัน
เพื่อเธอ  จึงได้ตอบ  มอบสัมพันธ์
รักเธอนั้น  ห่วงหา  และอาทร

รู้แล้วนะ  ว่าเรา  เฝ้าคิดถึง
แสนสุดซึ้ง  ฤทัย  ที่ไหวอ่อน
เรามีเดือน  และดาว  คอยเว้าวอน
มิสั่นคลอน  เพราะเรา  เข้าใจกัน
				
7 ตุลาคม 2554 22:36 น.

ด้วยวิญญาณ

คนกรุงศรี

ตาชะแล แก่ชรา อายุเยอะ
เดินงกเงอะ บางครั้ง ยังมิไหว
สังขารแย่ แพ้พิษ ผิดกับใจ
ที่สดใส แสนดี มีคารม

ด้วยโรคภัย ไข้เจ็บ มาเหน็บแหนบ
เหมือนปวดแสบ ทนทุกข์ มิสุขสม
อีกทั้งข้อ แขนขา ซาระบม
จะลุกก้ม ลมตี มีอาการ
			
จึงห่างหาย ลายสือ เคยสื่อถ้อย
อยากเรียงร้อย แต่แย่ แพ้สังขาร
เมื่อหวนคิด ผิดกัน กับวันวาน
เคยสืบสาน ขีดลาก ปลายปากกา
				
ด้วยวิญญาณ การกลอน เหมือนหลอนหลอก
กระซิบบอก ตอกย้ำ คำครหา
ฤๅแสงไฟ ไม่กรุ่น แล้วคุณตา
ทิ้งภาษา สู่ดิน ดั่งสิ้นมนต์
			
เขาเยียวยา มาก็ พอเบาบ้าง
เมื่อไข้สร่าง ทรงกาย ก็ได้ผล
ดินสอดำ กำใส่ ในมือตน
ขีดเขียนบน กระดาษ วาดวจี
				
อย่างเขาว่า ลาห่าง ทางอักษร
คารมกลอน กร่อนหาย มันหน่ายหนี
สมองทึบ อึบอับ ขับวลี
หากมิดี ตาก็ขออภัย

ขรัวตา
กลุ่มวรรณกวีศรีอยุธยา

				
7 ตุลาคม 2554 22:24 น.

มากันเถอะ

คนกรุงศรี

นักเลงกลอน นอนเปล่า เขาว่าคร้าน
ก็เพราะงาน เงินทอง ต้องรีบหา
ซื้อข้าวสาร กรอกหม้อ ต่อชีวา
เห็นเรียงหน้า ตาดำดำ จำฝ่าฟัน

กายก็ล้า แรงใจ ให้ท้อแท้
อยากยอมแพ้ แม้คิด ผิดมหันต์
ชีวิตยัง มิสิ้น ต้องดิ้นกัน
รอถึงวัน เวลา บุญมาเยือน

หยุดเขียนกานต์ นานนัก ใจชักคิด
ถึงมวลมิตร เมื่อวัน ฉันมีเพื่อน
สุขครั้งเก่า เฝ้าบอก ตอกย้ำเตือน
มิได้เลือน ลาพราก จากดวงมาน

หยิบปากกา หากระดาษ วาดอักษร
ร่างบทกลอน ตอนจิต คิดไขขาน
ด้วยทิ้งห่าง ร้างรา มาเนานาน
จึงมิหวาน ไพเราะ เสนาะเลย

สนามกลอน ตอนนี้ มีน้อยนัก
อนุรักษ์ สืบไป ได้ไหมเอ่ย
ผิดกับตอน ก่อนเก่า ที่เราเคย
ร่วมเอื้อนเอ่ย คารม คมปากา

มาเถอะนะ นักกลอน อย่านอนเขลง
ช่วยบรรเลง วรรณกรรม นำภาษา
ลับสมอง ของเรา เรียงเข้ามา
รจนา กลั่นกรอง ทำนองกานท์				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี