มือพนม ก้มวอน ขอพรพระ ลูกนี้จะ อธิษฐาน มาขานไข สิ่งมุ่งหวัง ครั้งเก่า เราตั้งใจ ยังมิได้ ตามหวัง สักครั้งครา จนใจหนอ ท้อแท้ เหมือนแพ้พ่าย ยิ่งเดียวดาย ดุจขาด วาสนา สิ่งศักดิ์สิทธ์ ท่านไย ไม่เมตตา ปล่อยเวลา เลยผ่าน จนนานเนา
อธิษฐาน สิ่งไร ก็ไร้ผล
ท้อเสียจน จิตใจ ให้อับเฉา
หมดความหวัง ดั่งคิด ชีวิตเรา อยู่กับเหงา เศร้าหมอง แต่ต้องทน
คนลุ่มน้ำ เจ้าพระยา น่าสงสาร
อธิฐาน เท่าไร ก็ไร้ผล
ขอยกเลิก คำอธิษฐาน นั้นอีกคน ไท้เบื้องบน หรือว่า มิปรานี
ทิ้งหัวใจ ดวงน้อย ลอยตามน้ำ
ลงในลำ เจ้าพระยา หาน้องพี่
เผื่อบางใคร ใจงาม น้ำใจดี
อาจจะมี ความหวัง ยังคอยปอง
สัจธรรม นำพา ให้มาถึง
พบวันหนึ่ง ซึ่งที่ มีความหมาย
ก็ถึงกับ สับสน ปนวุ่นวายยากบรรยายว่าสุข หรือทุกข์ใจ
ค่อนชีวิต ติดอยู่ เป็นผู้สอน
ทุกขั้นตอน ตั้งกฎ กำหนดให้
ส่วนมากก็ สัมฤทธิ์ผล ทุกคนไป
อาจมีไม่ สมหวัง เหมือนดั่งปอง
วิญญาณครู อยู่ใน สายโลหิต สอนลูกศิษย์ วัยเยาว์ เขาทั้งผอง เป็นเรือจ้าง กลางน้ำ ข้ามลำคลอง
ถึงคราต้องกำหนด ปลดระวาง
วันนี้หมอง ต้องลา พ้นหน้าที่
จากเพื่อนพี่ น้องน้อง พาหมองหมาง
ความผูกพัน นั้นเอ๋ย มิเคยจาง เพราะเราต่าง ร่วมงาน สานสัมพันธ์ แม้จากไป ใจก็ ขอคิดถึง
สักเสี้ยวหนึ่ง ของใจ ไม่แปรผัน
เจียดเวลา เล็กน้อย คอยแบ่งปัน จำเมื่อวัน เก่าตอน เมื่อก่อนกาล วันข้างหน้า อนาคต กำหนดไว้ก้าวต่อไป กับเวลา พาผันผ่าน
เก็บความหลัง ฝังใจ ในวันวานปิดตำนาน อาชีพครู.... ผู้สอนคน
ด้วยตั้งใจ สืบสาน งานของรัฐ สุดเคร่งครัด กติกา เพราะหน้าที่ คนตรงฉิน ซื่อสัตย์ ประวัติดี จึงได้มี ยศใหญ่ เป็นนายคน
มากอำนาจ วาสนา หาใครเท่า หลายคนเฝ้า พะนอ หวังต่อผล จะไปไหน ใครอ่อนน้อม ล้อมรอบตน ในกมล ทะนง เริ่มหลงตัว
คิดอะไร ได้สม อารมณ์หมาย เยี่ยมครับนาย ได้ครับพี่ ดีกันทั่ว ขอรับท่าน ทำได้ ไม่ต้องกลัว นายเหนือหัว สั่งไป สมใจปอง
หลังเลี้ยงส่ง วันเกษียณ เปลี่ยนสมัย ต้องจากไป ใจเรา เศร้าหม่นหมอง อำนาจเอ๋ย เคยมากมาย เป็นก่ายกอง วันนี้ต้อง เสงี่ยม เริ่มเตรียมใจ
ไม่เหมือนก่อน ตอนที่ มีอำนาจ เดินตลาด คนรู้จัก ทักกันใหญ่ วันนี้ดู แตกต่าง ห่างกันไกล คนเคยไหว้ ทำไม่เห็น บ้างเย็นชา
เป็นอดีต ผ.อ. ก็เท่านั้น เมื่อถึงวัน ถูกปลด ดูหมดค่า ตอนตำแหน่ง ยังใหญ่ ใช้ปัญญา เรียกศรัทธา ผูกใจ คนใกล้เคียง
ผ.อ.สมพิศ พระนครศรีอยุธยา ๑๗/๑๐/๒๕๕๒
รับใช้ราช ในงาน การศึกษา นานเกินกว่า สามสิบปี ที่มุ่งมั่น เลี้ยงครอบครัว ทุกข์สุข เคล้าคลุกกัน ฐานะนั้น มีแต่ แค่พอเพียง มือถือชอล์ก เขียนกระดาน เฝ้าขานไข ถือเรียวไผ่ พร้อมกับ สรรพเสียง ให้เด็กอ่าน ดังดัง ฟังสำเนียง จับยืนเรียง ไล่เดี่ยว จึงเชี่ยวชาญ เหมือนนกแก้ว นกขุนทอง ให้ท่องบ่น จำสูตรจน ขึ้นใจ ใช้คูณหาร สอนสะกด ผสมคำ นำหลักการ เด็กเขียนอ่าน ได้คล่อง จึงต้องใจ คัดลายมือ ให้สวย ด้วยลายเส้น กับนำเน้น กิริยา อัชฌาศรัย มารยาท สามัคคี มีทุกวัย ความเป็นไทย ฝังปลูก ให้ถูกทาง ศาสนา จริยธรรม พร่ำสั่งสอน เป็นไม้อ่อน เลือกดัด ตัดแต่งบ้าง รักษาศีล ครูนำ มิอำพราง อบายมุข เป็นตัวอย่าง หลีกห่างกาย อีกสามเดือน คงหมอง ต้องเกษียณ เห็นนักเรียน ทุกคน บ่นใจหาย หากเจอกัน วันใด ให้ทักทาย สิ่งทั้งหลาย สอนไว้ จำให้ดี ผอ.สมพิศ พระนครศรีอยุธยา ๑๐/๗/๒๕๕๒
คำสัญญา แม่นมั่น ในวันก่อน เธออาทร กลัวจบ พบวันหน่าย เกรงถ้อยคำ วาจา มาเสื่อมคลาย หมดความหมาย ศรัทธา พาเสื่อมลง
จะเนิ่นนาน ปานใด ไม่ลืมคิด เคยตั้งจิต บอกว่า อย่าลืมหลง เฝ้าปกปัก รักษ์ไว้ ให้มั่นคง ขอเธอจง เชื่อฉัน เถอะมั่นใจ
หากชาตินี้ จะไม่ ได้พบเห็น ก็คงเป็น ชาติหน้า มาพบใหม่ ถึงอยู่ห่าง ต่างแคว้น ถิ่นแดนไกล ก็มิใช่ ต้องพราก จากแดนทอง
วาดภาพฝัน กันไว้ ในคืนก่อน อาจสั่นคลอน ประสบ พบคืนหมอง แม้ทุกข์ตรม ขมขื่น ฝืนลำพอง ใจจึงต้อง เก็บงำ ตามลำพัง
ในความฝัน ฉันคู่ อยู่เคียงข้าง ความอ้างว้าง ทิ้งไว้ ให้อยู่หลัง อนาคต ที่ปอง ต้องจริงจัง ถึงบางครั้ง หงอยเหงา เศร้าจริงเจียว
เมื่อมีทุกข์ ช่วยแก้ เฝ้าแลหา ตรมวิญญาณ์ ท้อแท้ คอยแลเหลียว ความห่วงใย มอบเสมอ เธอคนเดียว หากเปล่าเปลี่ยว จงจำ คำคนเดิม