3 ธันวาคม 2557 21:43 น.

รออรุณจะรุ่ง

คนกรุงศรี

เย็นยะเยียบ เงียบเหงา สุดเปล่าเปลี่ยว

ตัวคนเดียว ไร้ทาง ที่ข้างหน้า

ตะวันลอย ลับหาย จากสายตา

สิ้นทิวา ราตรี มีเพียงเรา

 

รัตติกาล กรีดกราย ไปทั่วทิศ

มันมืดมิด วังเวง ดังเพลงเหงา

ดาวกระพริบ ลิบไกล ไร้แสงเงา

ซุกกายเข้า ข้างพง คงอุ่นกาย

 

แว่วเสียงเพลง ภูตไพร มันไขขาน

บอกร้าวราญ หัวใจ ไร้จุดหมาย

เหมือนโหยหวน ครวญตอน ก่อนวางวาย

ฟังแล้วคล้าย ชวนเชิญ ให้เดินทาง

 

รออรุณ จะรุ่ง วันพรุ่งนี้

อยากจะมี ชีพอยู่ ดูฟ้าสาง

แต่ว่าหวัง ดูเหมือน จะเลือนลาง

จะก้าวย่าง ต่อไป ได้ไหมเรา

2 ธันวาคม 2557 20:17 น.

คิดถึง

คนกรุงศรี

คิดถึงใคร คนหนึ่ง คิดถึงมาก

จะเอ่ยปาก ออกไป ให้ขวยเขิน

มันอัดอั้น ตันใน ใจเหลือเกิน

จึงเผชิญ ทุกข์ตรม ขมขื่นทรวง

 

คิดถึงเพื่อน ร่วมทาง ผู้สร้างฝัน

เพราะห่างกัน พาให้ ใจเป็นห่วง

ฝากเดือนดาว ผ่านฟ้า มาถามทวง

ว่าทุกห้วง แห่งวัน เรานั้นคอย

 

คืนขึ้นค่ำ เดือนเสี้ยว ซีดเซียวผอม

เหมือนตรมตรอม ฤทัย ให้เหงาหงอย

คนใต้ฟ้า อย่างเรา เฝ้ารอคอย

อยากฝากถ้อย ให้จันทร์ นั้นส่งไป

 

บอกเธอว่า ข้าคนหนึ่ง ซึ่งห่วงหา

อยากรู้ว่า มีสุข ทุกข์ไฉน

คำเก่าเก่า เฝ้าถาม ตามห่วงใย

เพราะเหตุใด ไหนเล่า ...คิดเอาเอง

30 พฤศจิกายน 2557 21:39 น.

คือดวงใจ

คนกรุงศรี

เมื่อวันวาร ผ่านผัน แสนนานเนิ่น

สองเราเดิน ร่วมทาง เพื่อสร้างฝัน

วางวิถี ชีวิต ช่วยคิดกัน

ร่วมฝ่าฟัน อุปสรรค ทั้งหนักเบา

 

ด้วบความรัก เข้าใจ หมายมุ่งสร้าง

แม้มีบ้าง หมางใจ ให้หงอยเหงา

ความอดทน อดกลั้น ช่วยบรรเทา

เพราะสองเรา เข้าใจ ในแนวทาง

 

หวังก้าวข้าม ตวามยาก จากวันก่อน

พบลุ่มดอน หนามขวาก ร่วมถากถาง

ด้วยความรัก ห่วงใย ไม่เจือจาง

สามารถย่าง ผ่านผัน อย่างมั่นใจ

 

เรือลำเดียว เกี่ยวก้อย ร่วมลอยล่อง

ช่วยสอดส่อง มองทาง สว่างใส

ถือหางเสือ คัดท้าย คุมสายใบ

พายุใหญ่ คลื่นจัด พัดไม่จม

 

เป็นนางแก้ว ในใจ หาใครเท่า

ดั่งสองเรา ฟ้าสร้าง อย่างคู่สม

ทองเนื้อเก้า เราได้ ไว้ชื่นชม

รื่นภิรมย์ ร่วมอยู่ คู่ชีวี

 

ขอขอบคุณ สิ่งดีดี ที่มีให้

ยากหาใคร ทั่วแคว้น มาแทนที่

แทนมะลิ ร้อยมาลัย ให้คนดี

ใจฉันนี้ นั่นหรือ ...ก็คือเธอ

12 พฤศจิกายน 2557 21:58 น.

ที่ปลายโลก

คนกรุงศรี

เดินถึงจุด สุดท้าย ที่ปลายโลก

สายลมโบก เหน็บหนาว ปวดร้าวแสน

ทางสายเปลี่ยว เดินเดียวดาย สุดชายแดน

แต่ขาดแคลน ไมตรี มิมีใคร

 

ฟ้าเริ่มมัว ทั่วทิศ มืดมิดแล้ว

เหมือนเสียงแว่ว คร่ำครวญ สุดหวนไห้

กับดวงตา จ้องมอง ของภูตไพร

คล้ายชวนไป ร่วมทาง อย่างพวกมัน

 

สองขายัง ยืนอยู่ ขอสู้ต่อ

ถึงจะท้อ เท่าไร ไม่แปรผัน

จะรอรุ่ง พรุ่งนี้ มีอีกวัน

จะกัดฟัน เฝ้าค้น อยู่คนเดียว

 

โลกที่ฝันนั้นมี คนที่หมาย

แม้จะคล้าย เพียงเงา ที่เปล่าเปลี่ยว

โลกความจริง ยิ่งเศร้า เหงาจริงเชียว

ได้แค่เที่ยว คาดฝัน ทุกวันคืน

 

9 พฤศจิกายน 2557 20:49 น.

เดินเดียวดาย

คนกรุงศรี

เดินเดียวดาย ปลายทาง ที่ข้างหน้า

สุดสายตา หาใคร ก็ไม่เห็น

ทางสายเปลี่ยว ปลายแดน แสนเยือกเย็น

ด้วยจำเป็น ต้องอยู่ สู้ความจริง

 

สุดทางนี้ มีใคร ที่ไหนหรือ

จะยุดยื้อ ตัวตน พ้นทุกสิ่ง

แม้มีเพิง พำนัก ขอพักพิง

อย่าทอดทิ้ง เหมือนไร้ หมดไมตรี

 

มองข้างหน้า ฟ้าดำ ใกล้ค่ำแล้ว

ยังไร้แวว จุดหมาย แห่งไหนนี่

จึงเหน็บหนาว ร้าวรวด ปวดฤดี

ก็ยากที่ จะหวัง ว่ายังคง

 

แสงริบหรี่ ที่ปลาย ทางสายนั้น

เป็นเพียงฝัน ลางลาง อย่างเศษผง

สองเท้ายัง ย่ำย่าง บนทางตรง

พบป่าดง ก็หมายว่า จะฝ่าฟัน

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี