13 มกราคม 2555 22:15 น.
คนกรุงศรี
ใครคนนั้น ฉันซึ่ง คิดถึงเขา
เคยหยอกเย้า ล้อเล่น เป็นเพื่อนพี่
กับได้สอน กลอนกานท์ สานวลี
มิตรไมตรี ผูกพัน เมื่อวันวาน
นับถือฉัน เป็นครู ผู้สอนสั่ง
แม้บางครั้ง กวนใจ ด้วยไขขาน
แต่ก็ดู เริงร่า หน้าเบิกบาน
ช่วยสืบสาน งานกลอน ตอนปีกลาย
เธอหายหน้า ลาไป ที่ใดหนอ
เราเฝ้ารอ ห่วงหา พาใจหาย
เกรงหนาวเหน็บ เจ็บไข้ ไม่สบาย
อยู่ดีร้าย หรือไร ใจกังวล
ฝากสายลม บอกมา ว่าคิดถึง
สักคำหนึ่ง บอกครู รู้เหตุผล
ถ้าอยู่ดี มีสุข ไม่ทุกข์ทน
มาเยี่ยมยล คนเหงา ที่เฝ้าคอย
12 มกราคม 2555 23:27 น.
คนกรุงศรี
สุดไหวหวั่น พรั่นพรึง ถึงสับสน
ดูวกวน เกินกว่า มาแก้ไข
คิดมิตก อกสั่น มิมั่นใจ
จะบอกไป กลัวเขา เรากังวล
เข้าข้างตัว คิดเดา ว่าเขารัก
แจ้งประจักษ์ ใจอยู่ ดูเหตุผล
แต่เพียงยัง ฟังวาจา จากหน้ามล
กลับทุกข์ทน อัดอั้น ตีบตันใจ
กิริยา ท่าทาง ช่างเป็นมิตร
เมื่ออยู่ชิด เคียงกัน ยิ่งหวั่นไหว
อยากจะบอก ตอกย้ำ ถึงความนัย
คิดอย่างไร กับเธอ เสนอตัว
หรือดูท่า ว่าเรา เข้าใจผิด
กลับครุ่นคิด วกวน จนปวดหัว
เธอบางครั้ง ยังเฉย เลยเกรงกลัว
เงาสลัว เข้าคลุม สุมฤดี
หรือมีใคร หมายหมั้น นั้นอยู่ข้าง
ให้รู้บ้าง เผื่อใจ ไว้เต็มที่
จะเตรียมใจ ไว้เก็บ เจ็บอีกที
เพราะเคยมี ประสบการณ์ บ่อยผ่านมา
เถอะเฉลย เผยใจ ให้รู้บ้าง
อยู่เฉยอย่าง เยือกเย็น เป็นปัญหา
ตอบเป็นบวก สมหวัง ดั่งอุรา
เป็นลบก็ อีกครา ใจอาดูร
คนกรุงศรี ฯ
1 มกราคม 2555 23:00 น.
คนกรุงศรี
เปิดบันทึก เรื่องราว เมื่อคราวก่อน
พอนึกย้อน กลับไป ใจสุดหมอง
มีเรื่องหลาก มากมาย เป็นก่ายกอง
หลายอย่างต้อง จดจำ เป็นตำนาน
บันทึกเก่า เศร้ายิ่ง สิ่งที่พบ
มิเลือนลบ จากใจ สุดไขขาน
มันฝังมิด ติดไว้ ในดวงมาน
เวลากาล ผ่านไป ยังไม่เลือน
มีทั้งทุกข์ และสุข ปนคลุกเคล้า
แต่ความเศร้า ดูว่า มากกว่าเพื่อน
วาสนา ฟ้าลิขิต คอยบิดเบือน
ดูแล้วเหมือน หมายปอง จ้องแกล้งเรา
ความผิดหวัง ตั้งท่า คอยมาพบ
หากเลี่ยงหลบ มิได้ ใจก็เศร้า
จะปรับแต่ง อย่างไร ไม่บรรเทา
ตามเป็นเงา ติดมา จนชาชิน
มิตรไมตรี มีแต่ ก็แค่ครึ่ง
ยังตราตรึง อยู่ใน ใจถวิล
พอพึ่งพา อาศัย ดั่งในจินต์
แต่ชีวิน มิแกร่ง จะแข่งบุญ
คุณความดี มีไว้ ใช้ภพหน้า
ยังศรัทธา ว่าธรรม นำเกื้อหนุน
ขอลิขิต จากฟ้า ถ้าการุญ
ตอบแทนคุณ ชาติใหม่ ถ้าได้มี
ปิดบันทึก หลับตา หาวิมุต
เถอะสิ้นสุด เลิกตาม ทวงถามหนี้
มิต่อสู้ แล้วหนอ พอกันที
จนไม่มี หัวใจ ให้อาดูร
ดอกแก้ว ดวงฤทัย
31 ธันวาคม 2554 23:23 น.
คนกรุงศรี
สวัสดีปีใหม่ กับเพื่อนนักกลอน thai poem ทุกท่าน
ขอให้มีความสุข และสุขภาพดีครับ
27 ธันวาคม 2554 23:06 น.
คนกรุงศรี
มานบอบช้ำ จำทน ฝึกฝนฝืน
ให้หยัดยืน ยังอยู่ สู้ไม่ถอย
หน้าเปื้อนยิ้ม แต่ว่า นั่งตาลอย
มีบ่อยบ่อย ก้มหน้า น้ำตาริน
ใครมิเคย มิรู้ อยู่กับเจ็บ
เลิกหนาวเหน็บ เมื่อไร ใจถวิล
มิกล้ารัก มิกล้าหวัง ตามดั่งจินต์
อยากหมดสิ้น ความหลัง ที่ฝังใจ
บอกกับเขา เราหรือกล้า น่าอดสู
ถ้าเธอรู้ ชอบหรือชัง ยังสงสัย
ผู้จะกลบ รอยหม่น จนสิ้นไป
คนคาดไว้ คือเธอ แอบเผลอเดา
ยังดูใจ ไม่กล้า แต่ว่าหวัง
ถึงบางครั้ง แอบปลื้ม ลืมความเหงา
ก็หลายครา หน้าใส หายซบเซา
หวังสองเรา เธอฉัน มั่นไมตรี
แต่น้ำใจ แสนดี ที่ได้รับ
มอบให้กับ ใจคน หมองหม่นนี่
แสนซาบซึ้ง ตรึงใจ ในฤดี
ทุกข์หลายปี ลืมได้ อีกไม่นาน
ความหวังเพียง ลมล่อง สมปองหรือ
พัดกระพือ พาร้าว หนาวใจซ่าน
แล้วก็ทิ้ง หนาวไว้ ติดในมาน
หวังเศษทาน หยูกยา รักษาใจ