28 พฤษภาคม 2556 21:47 น.

แผลเก่า กับเงาใจ

คนกรุงศรี

เงียบเสงี่ยม เจียมตน เป็นคนเหงา

หาใครเขา สนใจ ร่วมไขขาน

ปลีกตัวห่าง ร้างคน อยู่จนนาน

คิดถึงการณ์ ก่อนเก่า แล้วเศร้าจัง

อยากจะลืม เรื่องราว ที่เราพบ

แต่ยากลบ ความจริง ส่ิ่งหนหลัง

มิเอื้อนเอ่ย  เผยเล่า ใครเขาฟัง

เป็นเหมือนดั่ง แผลเก่า ของเงาใจ

ทนปวดเจ็บ เก็บกด รันทดแท้

หวังเลียแผล เยียวยา รักษาให้

เวลากาล ผ่านผัน คงวันใด

รอฤทัย สร่่างซา หรือชาชิน

หวังมิตรใหม่ ไมตรี จะมีมอบ

รอคำตอบ ใครเล่า เขาถวิล

มิต้องซับ น้ำตา ที่บ่าริน

อยากได้ยิน ถามบ้าง เป็นอย่างไร

อยากทุเลา เบาปวด ความรวดร้าว

เพื่อย่างก้าว หลุดพ้น ความหม่นไหม้

แอบมุ่งหวัง ตั้งจิต คิดการไกล

ส่วนลึกใน ใจหวั่น แสนพรั่นพรึง

มรสุม คุ้มคลั่ง  เมื่อครั้งก่อน

มันตามหลอน ขุดค้น จากก้นบึ้ง

แต่หมายว่า ฝ่าฟัน จะดันดึง

สักครั้งหนึ่ง ขอสุข ซุกหัวนอน

23 พฤษภาคม 2556 23:05 น.

อยากบอก

คนกรุงศรี

เหมือนอัดอั้น ตันใจ อยู่ในอก

แสนวิตก  วุ่นวาย  กระไรนี่

ด้วยใจยัง หวังไว้ ในไมตรี

แต่ยากที่ จะพร่ำ คำอันใด

ทั้งค่อนคืน ตื่นตา หาหลับฝัน

ถ้อยจำนรรจ์ นั้นยาก อยากขานไข

ถามจริงสิ มิรู้ ดูกระไร

สักนิดใน ใจผัน นั้นมิเคย

17 พฤษภาคม 2556 21:55 น.

คืนฟ้าใส

คนกรุงศรี

ใครระบาย ป้ายสี ที่ขอบฟ้า

กลบดารา และเดือน ให้เลือนหาย

ลมกระโชก โบกพัด โอบรัดกาย

พร้อมกับสาย ฝนพรำ เมื่อค่ำคืน

หนาวสะท้าน ซ่านซุก ทุกขุมขน

พิรุณหล่น จากฟ้า ก็พาชื่น

สิ้นแสงแปลบ เสียงฟ้า ก็ผ่าครืน

พืชไพรยืน ซับน้ำ ที่ฉ่ำดิน

วสันต์มา คราใด ใจสับสน

สัญญาคน อยู่ไกล ใจถวิล

วันฝนลา ฟ้าใส เคยได้ยิน

จะคืนถิ่น เมื่อฝน มิหล่นลง

หลายวสันต์ ผ่านไป ยังหมายมั่น

เฝ้าคอยวัน ฝันใฝ่ ใจประสงค์

ยังเชื่อคำ สัญญา ว่ายืนยง

จะมั่นคง จงคอย อย่าน้อยใจ

จะรอวัน ฝนลา เมื่อฟ้าแจ้ง

เฝ้ามองแสง จันทรา คืนฟ้าใส

หวังเพียงนิด คิดถึง ซึงคนไกล

กลับมาให้ ได้ชม ภิรมย์ปอง

ดาราล้อม เดือนเสี้ยว ที่เกี่ยวฟ้า

คืนนภา ผ่องใส แต่ใจหมอง

เสียงกรีดปีก เรไร ให้ทำนอง

ปล่อยเรามอง เดือนลับ ...ไปกับตา

14 พฤษภาคม 2556 21:50 น.

ที่พักใจ

คนกรุงศรี

แม้เหนื่อยนัก พักลง ที่ตรงนี้

ฟังวลี ลำนำ ที่ฉ่ำหวาน

มธุรส บทอ้อน ของกลอนกานท์

ปลอบดวงมาน ให้คลาย หายกังวล

บทกวี ที่กราย ร่ายอักษร

ของนักกลอน  หลากแหล่ง ทุกแห่งหน

ร่วมเรียงร้อย ภาษา มาให้ยล

ดุจดั่งมนต์ เทียมเทียบ เปรียบดนตรี

มาร่วมงาน สานฝัน วรรณศิลป์

ให้โลกยิน ลือไกล ไปทุกที่

ท่องโลกฝัน บรรเลง เพลงกวี

ปล่อยฤดี ตามมนต์ ของกลกลอน

13 พฤษภาคม 2556 21:57 น.

คอยหวังจากบางใคร

คนกรุงศรี

เมื่อค่อนแจ้ง แสงเดือน ยังเยือนหล้า

ส่องลงมา สาดเงา ให้เราเห็น

คนหนึ่งนี้ เหน็บหนาว ร้าวลำเค็ญ

หลายประเด็น ทุกข์ถม เกินข่มตา

หวนคะนึง ถึงยัง เมื่อครั้งเก่า

ภาพและเงา หลอกหลอน ย้อนตามหา

แม้เดือนวัน ผันผ่าน เนิ่นนามมา

แต่เหมือนว่า ดั่งเป็น เช่นคืนวาน

ในชีวิต ผิดหวัง เกือบทั้งหมด

ยังจำจด เก็บไว้  มิไขขาน

เฝ้าแนะนำ คำตอบ ปลอบดวงมาน

อย่าร้าวราญ ละวาง เหมือนอย่างเคย

เริ่มต้นใหม่ ไม่ท้อ ต่อชีวิต

ผู้ลิขิต ตัวเรา เขาเมินเฉย

กติกา กฏใด ไม่รับเลย

จะลงเอย ด้วยตน คนนำทาง

ใจด้านชา ชินกับ ความอับเฉา

มีหงอยเหงา ปลอบใจ อยู่ไม่ห่าง

หวังพึ่งใคร  ไหนหนอ ก็เลือนลาง

เลยอยู่อย่าง เดียวดาย  ท้าทายดี

เมื่อรุ่งแจ้ง แสงเดือน  ก็เลือนลับ

ตามิหลับ  ข่มใจ กระไรนี่

เก็บความหวัง  ยังหลอก  บอกชีวี

ว่าอาจมี บางใคร ...เห็นใจเรา

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟคนกรุงศรี
Lovings  คนกรุงศรี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงคนกรุงศรี