ฝนหลาก จากฟ้าผักหญ้า ชุ่มเย็นคนกรุง แสนเข็ญเช้าเย็น ทุกข์ทนเหวยเหวย เทวาคุมฟ้า คุมฝนรู้ไหม หลายคนเขาก่น ด่าแกจัดฝน หล่นกรุงท้องทุ่ง ไม่แลนาแห้ง แหงแก๋น้ำแผ่ ท่วมเมืองใครว ะ ด่ากูคนไม่ รู้เรื่องผู้ว่าคุย คุยเขื่องทำเรื่อง เชลาซีขุดลอก คูคลองต้องทำ ก่อนนี้อย่างงั้น ทุกปีทุกที่ วุ่นวายทนไป อีกพักแล้วจัก สบายหน้าฝน พ้นหายน้ำหาย แห้งกรังเลิกว่า เทวาผู้ว่า จงฟังแกน่า เบื่อจังเลือกตั้ง อย่าลง
การศึกษา พื้นฐาน สำคัญนักรัฐตระหนัก รีบรัด เร่งจัดสรรประชาชน ยากไร้ ดีใจกันสิบห้าชั้น เรียนไป ไม่เสียตังค์เรายากจน มิต้อง กลุ้มหมองหม่นลูกทุกคน สดใส สมใจหวังวันมอบมัว ครูแจ้ง แจงให้ฟังเหลือที่ยัง ต้องจ่าย บางรายการค่าจ้างครู ชาวฝรั่ง โด่งดังสุดค่าปรับปรุง ห้องสมุด ห้องอาหารค่าซื้อคอม เครื่องใหม่ ไว้พิมพ์งานค่าสมภาร ที่วัด จัดบอกบุญค่ากั้นรั้ว ค่าตีฝ้า ค่าทาสีค่าดนตรี ค่ากีฬา ค่าเลี้ยงรุ่นมีค่ารถ ค่าศิษย์เก่า เขาเจือจุนค่ากองทุน ช่วยสังคม ชมรมเราก็มีเพียงเท่านี้ ที่ต้องเพิ่มตัดค่าเทอม ออกไป ไม่จ่ายเขาสงสารรัฐ ภาระใหญ่ มิใช่เบาช่วยบรรเทา ทุกข์ได้ เป็นก่ายกองแถมยังให้ ค่าเสื้อผ้า ค่าหนังสือสบายบรื๋อ เลยเรา เลิกเศร้าหมองการศึกษา เฟื่องฟู ดูเรืองรองผู้ปกครอง สบายใจ ไปหลายปี
เกรงแดด แผดเผา เราไหม้เข้าใต้ ชายคา หาร่มพ้นแสง ตะวัน ดวงกลมพัดลม เล่าหนอ พอคลาย
สุริยัน วันนี้ ดูทีท่าคล้ายดังว่า เคืองใคร จากไหนเล่าส่งลำแสง ส่องปราด สาดพวกเราฤๅจะเผา โลกให้ ไหม้เป็นจุลเมื่อร้อนกาย หน่ายนัก อยากพักร่มรอสายลม จากไหน ก็วายวุ่นแม้พืชพง ป่าไพร มิให้คุณปฐพี มีฝุ่น พาขุ่นใจทั้งแม่น้ำ บึงหนอง คลองเหือดแห้งดินระแหง เริ่มแยก แตกกันใหญ่กอหญ้าเขียว เหี่ยวเฉา ดุดเถ้าไฟมองไปไกล ให้เห็น แดดเป็นตัวพอบ่ายคล้อย ค่อยผ่อน กว่าตอนเที่ยงตะวันเลี่ยง เขาบัง ค่อยยังชั่วลัดชายทุ่ง มุ่งมา หาบึงบัวช่างหน้ากลัว น้ำแล้ง กอแห้งตายตะวันลับ เหลี่ยมเขา ก็เบาร้อนสายลมอ่อน ผ่อนอ้าว ให้เบาหายพอค่ำลง คงจะ เย็นพระพายชอบนั่งปลาย ชายนา เมื่อคราเย็นตะวันค่ำ ขับแสง แดงส่องฟ้าหมู่นกกา กลับรัง ยังพอเห็นขลุ่ยใครเป่า เศร้าจัง ฟังลำเค็ญที่นี่เป็น บ้านไพร .....ใช่ในกรุง
แม้จะเพรียก เรียกใคร ก็ไม่ขานลืมตำนาน กาลเก่า พวกเราหรือสิ้นไฟฝัน ลับลาง จึงวางมือทุกอย่างคือ ความหลัง ไม่ยั่งยืนวรรณศิลป์ สิ้นสาย ลายอักษรนักเลงกลอน นอนเปล่า เศร้าสะอื้นเฝ้ารอรอ รอวัน นั้นหวนคืนปลุกให้ตื่น นักกลอน ที่นอนซมจะเด็ดเดี่ยว เดียวดาย มิหมายละไร้วันจะ ท้อแท้ แม้้ขื่นขมเก็บดินสอ แท่งเก่า เหลาให้คมค่อยผสม ผสาน งานร้อยกรอง