15 เมษายน 2549 21:23 น.
ขุนเขาในเงาน้ำ
ฟ้าเบื้องบนส่งฝนโปรยโรยหยาดใส
แต่เพลิงใจกลับร้อนรุ่มกลุ้มกลัดหนอง
โอ้ตัวเราเศร้าตรมมิสมปอง
น้ำตานองอาบหน้าโทษฟ้าดิน
ไยลิขิตชีวิตเราให้เหงานัก
ปัญหาหนักรุมรังแกเกือบแดดิ้น
หาคำปลอบประโลมใจไป่ได้ยิน
ตราบชีพสิ้นคงไร้สุขทุกข์ทรมาน
จะมีแรงสู้ไปไหวหรือนั่น
เสียซึ่งขวัญโศกรัดประหัตประหาร
มรรคามืดมองมิเห็นเช่นวันวาน
ดังขอทานพเนจรร่อนเร่ไป
เพียงสักคำย้ำเราให้เศร้าสร่าง
เพียงสักมือชี้ทางสว่างไสว
เพียงสักคนร่วมทางอย่าห่างไกล
เพียงสักใจเห็นค่าอย่าหมางเมิน
สายฝนลับสุริยามาแทนที่
สายนทีล้นหลั่งหลังตื้นเขิน
เกิดเป็นคนล้มแล้วลุกทุกทางเดิน
มุ่งเผชิญฝ่าฟันภยันตราย
-----------------------------
พอดีฝนมันตกง่ะ
11 เมษายน 2549 13:32 น.
ขุนเขาในเงาน้ำ
ดอยสุเทพแข็งแรงแหล่งขุนเขา
พินิจเงาผ่านอ่างแก้วแล้วสงสัย
ณ ผืนน้ำภาพยอดเขาอ่อนละไม
ความยิ่งใหญ่กลับกลายคล้ายอ่อนโยน
คือ หน้ากากบังความจริงสิ่งเที่ยงแท้
คือ พักตราอ่อนแอแพ้หัวโขน
คือ ผ้าขาวรายล้อมย้อมสีโคลน
คือ ทโมนเล่นไปใช่ตัวเรา
ยิ้มสดใสแต่ข้างในใจร้องไห้
รู้มากมายแต่ข้างในใจโง่เขลา
เหมือนมีสุขแต่ข้างในใจมืดเทา
ไร้ความเศร้าแต่ข้างในใจทุกข์ทน
เห็นเงาตัวสงสัยใครกันนั่น
สิ่งใดฝันหรือจริงยิ่งสับสน
เราเกิดมาทำไมในร่างคน
ตอบตัวตนไม่ได้ไร้ปัญญา
ง่วนงมเข็มในสมุทรสุดยากยิ่ง
แต่ความจริงจนใจหากใฝ่หา
ใครคือเราเราคือใครในโลกา
วิสัชนาสิ้นชีพไปไป่เจอะเจอฯ
11 เมษายน 2549 13:29 น.
ขุนเขาในเงาน้ำ
ดวงอาทิตย์ลับลงตรงขอบฟ้า
ผืนนภากลายกลับสลับสี
วิหคหวนรังใหญ่ในไพรี
เริ่มราตรีเดือนขับประทับจันทร์
ตัวเรานี้เหนื่อยหนักอยากพักผ่อน
หลังจากรอนแรมไกลตามใจฝัน
แต่หนทางสร้างไว้ไยตีบตัน
มิให้ฉันประสบพบทางไป
เดือนดวงดาวดาราข้าอยากถาม
เที่ยวเดินตามใต้กรอบเจ้าชอบไหม
วงโคจรกำหนดหมดทางใหม่
คือกลไกกีดฝันตามมรรคา
อธิษฐานผ่านคืนนี้ที่ทนทุกข์
ได้โปรดปลุกปลอบขวัญที่ฝันหา
เติมความหวังกำลังใจใส่ชีวา
ผลักดันข้าให้อยู่และสู้ทน
ทินกรร้อนแรงเปี่ยมแสงสี
เหล่าราตรีเคลื่อนกลับลับไพรสนณ์
สกุณาเริงรื่นชื่นกมล
เฝ้าบอกตนต้องก้าวไปไม่หยุดยอม...