26 ธันวาคม 2548 19:30 น.
ขาว-กรมท่า
วันเอ๋ยวันคริสต์มาส
จากอยู่สุขสู่ครุ่นคิด
วุ่นวายว้าวุ่นจิต
กึ่งก็สุขกึ่งก็ทุกข์
ครามาถึงวันนี้
จิตบ่ดีต้องกระตุก
บ้างก็อยากสนุก
บ้างก็อยากเครียดหัวใจ
สุขที่ได้ของขวัญ
มาแลกกันเปลี่ยนกันให้
ทุกข์ที่ไร้ขวัญใจ
ชวนแล้วเล่าแต่ไม่มา
ญาติสนิทมิตรสหาย
อยุ่กับฉันพาหรรษา
แต่คำจำนรรจา
ที่เธอรับดันไม่ตรง
สงสารเรื่องตนเอง
ใจโทงเทงทำท้อปลง
สติตั้งไม่ตรง
เพราะเธอไปไร้แม้เงา
หรือเธอแสนสุดอาย
ซ่อนเร้นกายมัวให้เดา
ลับหลังอาจสองเรา
อยู่ฉลองสองต่อสอง
ดาวเดือนเอ๋ยดาวเดือน
เจ้ามาเยือนหาข้าหรือ
ถ้างั้นจงเป็นสื่อ
ให้สองเราฉลองกัน
ของขวัญที่เป็นของ
ยังเป็นรองแม้ไม่พลั้ง
ของขวัญใจเท่านั้น
ที่จะมาให้ข้าสุข
ขอให้ไดขวัญใจ
มาหาใกล้ไม่งั้นทุกข์
อย่าแฝงฝังรักคุด
เข้ามาอุดมากวนตา
ขอได้เดทกับเธอ
อย่าให้เพ้อแค่ฝันบ้า
ขอเทพไท้จากฟ้า
ได้เธอมาฉลองกัน
26 ธันวาคม 2548 18:28 น.
ขาว-กรมท่า
ถามไถ่ทั่วโลกหล้า จงจำ
สิ่งสื่อซึ่งว่าคำ รักนั้น
นิยามนั้นจะนำ คำใด
ที่สื่อว่ามีคู่หมั้น คลาดแคล้วคู่หมาย
ครบวันที่ห่างร้าง ตัวเธอ
ใจรับน้อมละเมอ ร่ำ ไห้
แม้แต่พักพร่ำเพ้อ อนิจจัง
โอ้เหล่าทวยเทพไท้ กลั่นแกล้งทำไม
เธอให้ใจหวั่นครั้น พรากสุข
เธอที่ทำอมทุกข์ มากได้
เธอจากก่อถวิลสุด คณณา
เธอนี่ที่อยากใกล้ ชั่วฟ้าดินสลาย
โหยหวนครวญรักแท้ ที่ลา
หาล่าให้กลับมา จากลี้
ไม่เลิกมุ่งแม้นบ้า ยังยอม
สิ้นชีพยังไม่ยี้ ห่างให้ไกลนาง
ช่างเช่นเป็นนกน้อย ต้องกล
บินเดี่ยวคู่เงาตน เปี่ยมเศร้า
ไร้ซึ่งคู่ผจญ ว่ายฟ้า
ถ้าหากเป็นตัวเจ้า อยู่ได้ฉันใด
มุ่งมั่นให้ต่างต้อง ประจักษ์
มุ่งยึดในเรื่องรัก ต่อหล้า
มุ่งให้ต่างคนทัก ขานไข
มุ่งก่อตำนานท้า ฟากฟ้ายังเกรง
คิมหันต์กรรมก่อร้อน เผาอก
วสันต์เฉกน้ำตาตก เปี่ยมเศร้า
เหมันต์ดั่งหนาวดก วังเวง เหตุเหงา
หวนปีหวนมาซ้ำ ชอกช้ำซ้ำซาก
ตรอมตำทำด่ำย้ำ ยามพราก
ใจจึ่งจำใจจาก จากเจ้า
ลาเลิกละแรงลาก เล็งเพ่ง
ตาตกจากตามเฝ้า แต่ต้องตนตรม
สลดสุดโศกเศร้า หดหู่
เชื่อรักแท้คงอยู่ นั่นนั้น
แต่ไม่รักษาดู จึ่งจาก
พลัดพรากยากอดกลั้น นิ่งน้ำเนตรเท
อย่าปลงปลูกต้นรัก ให้เฉา
อยู่คู่รักสองเรา สืบหน้า
อย่างที่พาใครเขา อิจฉา
อยากนี่แค่หวังกล้า แต่เศร้ายามจริง
ใฝ่ฝันหวังกอดอุ้ม ทายาท
ที่เกิดจากประสาน รักแท้
ขอครองคู่ชั่วกาล แม้นม้วย
รักมั่นคงมุ่งแม้ ชาตินี้ชาติหน้า
ที่ใดในตอนนี้ เธออิง
ที่นั่นจะตามติด ติดตื้อ
ที่นี้จะละทิ้ง เพื่อนาง
ที่นั่นที่นี้รื้อ หมายต้องจ้องกาย
10 ธันวาคม 2548 14:47 น.
ขาว-กรมท่า
จิตวิญญาณแกร่งกล้า ทรหด
แม้เลือดไหลหยาดหยด ก่อก้อ
แรงกายจิตไม่ลด ยามล้า
คนต่างชมและล้อ แล้วแต่บุคคล
ยืนยงคงมั่นตั้ง ให้เป็น
เด็ดเดี่ยวผู้โดดเด่น จากหล้า
ฝืนสู้อยู่แม้นเข็ญ ยังหยัด
จักเรียกหรือบ้า ที่ท้ากล้าตรง
ต่างห่างปลงปลีกทิ้ง เบี่ยงหนี
แต่นี่นั้นคงที่ หย่อนไร้
แทนที่ย่ำเพื่อลี้ บ่มี
ควรชอบหรือเกลียดไซร้ จึ่งได้เข้าใจ
ดุจดั่งเสาหลักตั้ง ตัวตรง
เหมือนหยิ่งอย่างทรนง มั่นตั้ง
คือคนใคร่ความคง ควรฤา
ทำถูกแล้วกระมั้ง ผิดได้บางที
บินเดี่ยวมั่นยึดพร้อม เป็นศรี
เขาเด็ดสะระตี่ แบบนี้
บุกบั่นอย่างบ่บัดสี ส่อยวน-ย่าเหล
ใคร่ยกย่องหรือยี้ ที่เค้ายรรยง
เขาคงเปรียบดุจคล้าย ภูผา
ยืนเพื่อหวังรอครา พรุ่งนี้
หาไป่หวั่นนภา ราตรี
จักร่วมหรือลาลี้ พี่น้องลองติ
ทำเด่นชวยผิดพ้อง- หมองใจ
ดูดั่งแฝงเล่ห์ไป แต่งแต้ม
ขอดูนิดเพื่อไข น้ำใส-ใจจริง
ควรคิดครบก่อนแย้ม รับยิ้มไมตรี
ดรรชนีที่ชี้ นำทาง
ควรต่อหรือลบลาง ลับสิ้น
เขาร่างอาจรางชาง เป็นได้
หรือจักพาดับดิ้น จึ่งต้องไตร่ตรอง
ยังคงฝืนซ่าบ้า สุดสู้
ไม่หวั่นหน่ายจากผู้- ล่ามล้าง
ไม่เหมือนตุ่นมุดรู เผ่นโผน
แทนที่หนีให้กว้าง ติดตื้อตั้งตัว
ลูกผู้ชาย แห่งเชื้อ เลือดธรรม
ฆ่าได้ ถ้าเป็นกรรม ก่อนหน้า
หยาม เข้ากระดูกดำ ไม่ยอม ใครนา
ไม่ได้ ให้ใครท้า บีบบี้ศักดิ์ศรี
เสีย แรงรุกดับแล้ว กาลนาน
ชีพ อาจสิ้นสังขาร ย่อมได้
อย่าเสีย สิ่งในการ- เป็นคน
สัตย์ นั่นอย่าทิ้งไซร้ โปรดค้ำสถิตคง
เขา ดีมีพลาดบ้าง โปรดอภัย
เขา ชั่วแต่กลับใจ เลิศแท้
เขา ชวนปลุกขวัญให้ ไตร่ตรอง ก่อนเทอญ
เขา ถ่อยถ้าไป่แก้ จึ่งต้องบอกบาย
10 ธันวาคม 2548 13:58 น.
ขาว-กรมท่า
ปีสองสี่เจ็ดห้า ชวนนึก
เป็นเหตุชวนระลึก ก่อนหน้า
เป็นปีที่ก่อปึก ประชา-ธิปไตย
คณะราษฎร์หาญกล้า เปลี่ยนเหง้ารากสยาม
ยี่สิบสี่ย่างเข้า เดือนหก
วันที่ประชาชน ทั่วแคว้น
เปลี่ยนรูปปกครองตน แปรยุค
สู่อีกสมัยเหมือนแกล้ง เริ่มต้นตามนั้น
สิบธันวาเริ่มใช้ รัฐธรร-มนูญ
แม้กษัตริย์สุดใหญ่ล้ำ ดิ่งใต้
ประชาชนเดิมต่ำ ได้สิทธิ์ เสรี
อันรัฐก็เกิดได้ เกิดพร้อมปวงชน
เลือกรัฐโดยเลือกตั้ง คัดคน
เลือกห่วยพาอับจน แน่แท้
เลือกดีย่อมเป็นผล รุ่งโรจน์
เลือกพลาดก็สายแก้ จึ่งต้องรอใหม่
ใครใครก็ใคร่ได้ คนดี
ยามมืดมัวคงมี อยู่บ้าง
สลัดทุกข์พาสุขี มีไหม
หวังมั่นอย่าเผลอพลั้ง แต่งตั้งคนถ่อย
ทว่าไทยในช่วงนี้ ดีเลิศ จริงหรือ?
คนถ่อยเริ่มกำเนิด ช่างเศร้า
คนดีกลัวแจ้งเกิด มัวบัง
แล้วที่ถวิลเฝ้า จักได้ฉันใด
คนแอบรวยต่างต้อง ฉ้อราษฎร์-บังหลวง
คนดีดีตามวาด แต่น้อย
คนชั่วขอด่า"สาด" "ไอ้เปรต" "ปรสิต"
คนฝ่ายกลางอย่าคล้อย อย่าเข้าตามมัน
ยุติธรรมอยู่เฝ้า หนใด
ความสุขพิงที่ใด ทราบแจ้ง
สามัคคีที่ใคร่ใกล้ เคลื่อนออก หรอกหรือ
สันติมิมัวแค้น อยู่บึ้งบนไหน
หลังจบโคลงเรื่องนี้ จงตรง ซึ่งคำ
คนที่ดีขอคง สัตย์ไว้
คนที่ถ่อยขอปลง เริ่มใหม่ เถิดนา
ชาติจักอยู่มั่นได้ หมดสิ้นโศกา
5 ธันวาคม 2548 20:48 น.
ขาว-กรมท่า
ฝนตกตามทั่วแคว้น แดนดิน
จากท่านนครินทร์ โปรดเกล้า
ให้ไทยอยู่นอนกิน ร่มเย็น เป็นสุข
ทรงช่วยหายเคืองเศร้า รุ่มเร้าราญรอบ
ธ ท่านทรงทุ่มให้ ปวงประชา
องค์ท่านทรงกรุณา สดับร้อน
ไทยได้รับพระเมตตา เปี่ยมสุข
ไฉนยังไม่รวมก้อน ร่วมเคล้าสมานฉันท์
อยากให้เป็นหนึ่งก้อน ผนึกชาติ
ถวายมอบมหาราช แด่ให้
สันติภาพอย่าวาด แค่ฝัน
ร่างร่ายให้เกิดไซร้ กว่าได้ไม่นาน
ขอให้ทำเพื่อเจ้า- อยู่หัว
มุ่งมั่นกั้นความชั่ว ที่ท้า
อธรรมจักเกรงกลัว หนีลี้
โปรดทุ่มทำอย่างกล้า ทั่วหล้าช่วยเถิด
ถ้าชาติช่วยทุ่มล้วน เศรษฐกิจ-พอเพียง
สำเร็จชาติมีสิทธิ์ อยู่ยั้ง
แต่อย่าลืมที่คิด ประยุกต์
รอบคอบอย่าเผลอพลั้ง จึ่งคว้าความเจริญ
จงทุ่มเพื่อท่านท้าว- ขวัญสยาม
อยากชาติคงงดงาม ทั่วสิ้น
ไตรรงค์ขอคงยาม ภาคหน้า
ถ้าไม่ชาติคงดิ้น ถิ่นสิ้นสูญมลาย