27 กรกฎาคม 2548 08:41 น.
ขลุ่ยหลิบ
ถ้าเธอเกลียดที่นี่เพราะมีฉัน
อย่าเพิ่งหันหน้าหนีไปที่ไหน
ฉันเองพร้อมให้เธอเห็นเป็นฝ่ายไป
แต่......ถามใจให้แน่แท้อีกที
เพียงมีเหตุโกรธขึ้งฉันหนึ่งหน
เธอสุดทนพบกันต้องหันหนี
คิดหรือว่าถ้าพ้นพรากจากที่นี้
เธอจะมีสุขได้อย่างไรเทียว
ความหมางใจที่ทำให้ช้ำชอก
ไม่เลือนหรอกคงแอบใจแปลบเสียว
จะแบ่งทุกข์หรือจะทนเอาคนเดียว
เลิกข้องเกี่ยวกันแต่นี้ชั่วชีวิต
ก่อนฉันเคยภูมิใจในที่นี่
มีคนที่เข้าใจกันจนมั่นจิต
แต่เดี๋ยวนี้ฉันเป็นคนยากจนมิตร
ฉันเข้าใจไปผิดหรือวันนั้น
ถ้าโกรธแล้วสุขใจที่ได้โกรธ
เชิญเธอใช้ใจโหดลงโทษฉัน
ถ้าโกรธแล้วเธอจะต้องหมองเช่นกัน
จะยืดวันโกรธไปทำไมนะ
ถ้ายังเกลียดที่นี่เพราะมีฉัน
ฉันขอผันพรากพร้อมยอมสละ
แม้อาลัยก็จะฝืนคืนพันธะ
เพื่อเธอจะสุขตามความเข้าใจ
18 กรกฎาคม 2548 19:15 น.
ขลุ่ยหลิบ
สงสารใจอดทนจนทุกสิ่ง
พูดความจริงกันเสียทีจะดีไหม
ถ้าเธออยากเอ่ยเองยังเกรงใจ
ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าฉันกล้าทำ
ฉันรู้ตัวเองคิดผิดไปมาก
ผิดที่พากเพียรซึ้งถึงดื่มด่ำ
ซึ้งในตาว่ากระจ่างต่างน้ำคำ
ซึ้งในน้ำใจว่ามันนั้นมีจริง
ฉันเสียใจไม่น้อยที่พลอยเหลิง
หลงกระเจิงตามใจไปทุกสิ่ง
งอนให้ง้อพ้อให้คิดผิดให้ติง
เพราะเผลอหยิ่งว่ามีใครคอยไยดี
ฉันน้อยใจไม่หายที่หมายมั่น
หวังและฝันเอาไว้ไกลกว่านี่
ไม่ว่าอยู่ที่ไหนต่อไปนี้
มีคนที่ห่วงใยในสายตา
เมื่อคืนวันผันผ่านนานเช่นนี้
ความสนใจไยดีไม่มีค่า
ความห่างเหินเมินเลยและเฉยชา
บอกฉันว่าอัปยศหมดทั้งใจ
ฉันทุ่มเทหัวใจลงไปมาก
คงจะยากและนานกว่าฟันฝ่าได้
แต่เมื่อใจอีกหนึ่งดวงหมดห่วงใย
ไม่เป็นไรอย่างยิ่งฉันหยิ่งพอ
18 กรกฎาคม 2548 19:09 น.
ขลุ่ยหลิบ
อยากให้เธอเข้าใจฉันในวันนี้
เหมือนกับที่เคยเข้าใจในวันก่อน
ไม่ต้องเผยเอ่ยปากวากย์เว้าวอน
สายตาซ้อนเหลือบดูก็รู้กัน
ความเหินห่างสร้างกำแพงอันแข็งกล้า
สูงและหนาไกลและกว้างออกกางกั้น
เหลียวชำเลืองแอบมองสองเนตรนั้น
รู้ฉับพลันไม่เหมือนเก่าเคยเข้าใจ
ตาต่อตาผสานแล้วผ่านผาด
เกินบังอาจจะจ้องมองได้ใหม่
หลบตาต่ำนึกจะโกรธแต่โทษใคร
อยู่ใกล้ใกล้รู้สึกคล้ายไกลเหลือเกิน
อยากให้เธอเข้าใจฉันในวันนี้
ปรายไมตรีสายตาให้หายขัดเขิน
สบเนตรกันจะได้ไม่ต้องเมิน
เผื่อเผอิญเข้าใจกันเหมือนวันวาน