12 กันยายน 2547 23:02 น.
ขลุ่ยหลิบ
แม้ว่ากาลผ่านไปไม่หวนกลับ
สายน้ำจะไหลลับดับแห้งหาย
พื้นทะเลบางแห่งแห้งเป็นทราย
รักอมตะฉันไม่คลายไปจากเธอ
จะรักเธอต่อไปชั่วนิรันดร์
รักแท้ฉันจะคงอยู่คู่เสมอ
เมื่อเริ่มรักคนเดียวเพียงตัวเธอ
ฤดีเพ้อคร่ำครวญหวนรำพัน
ดวงสุรีย์จะสว่างกลางฟ้าใส
ตราบเท่าที่ดวงใจเป็นของฉัน
จะรักเธอคนเดียวชั่วนิรันดร์
ใครอื่นนั้นผ่านไปไม่นำพา
ยอดรักเอ๋ยแม้ฟ้าจะถล่ม
หรือว่าลมจะหยุดพัดสะบัดหนา
ฉันก็ยังรักเธอเสมอมา
ชั่วชีวารักเธอมั่นนิรันดร
11 กันยายน 2547 21:38 น.
ขลุ่ยหลิบ
ขอฝากใจดวงนี้แด่ที่รัก
อยากได้พักห้องใจนั้นมั่นเสมอ
แม้นหนึ่งในสี่ห้องของใจเธอ
คงละเมอด้วยปลื้มจิตที่คิดมา
ใยพระพรหมนำเธอมาเจอฉัน
ซ้ำยังสรรค์ความซึ้งตรึงแน่นหนา
วงพักตร์เธอยังซึ้งตรึงอุรา
มิรู้ว่าเธอมีคู่ผู้ผูกพัน
บ้านอยู่เคียงมองเห็นกันทุกค่ำเช้า
แสนปวดร้าวดวงจิตไม่คิดผัน
เมื่อได้ยลยินสำเนียงเธอเคียงกัน
ความสุขนั้นพลันหายมลายไป
รักของฉันเปรียบเป็นเช่นต้องห้าม
ถูกไฟลามเผาใจให้มอดไหม้
พิศดวงหน้าเธอแล้วช้ำระกำใจ
เหมือนตกในอเวจีมีแต่กรรม
10 กันยายน 2547 22:26 น.
ขลุ่ยหลิบ
ครูเป็นเช่นแสงโคมทอง สุกใสเรืองรอง
สว่างหนทางชีวิน
ครูเป็นเช่นฝนหลั่งริน จากฟ้าสู่ดิน
โลมหล้าพาให้ชื่นบาน
ครูเป็นเช่นคำกล่าวขาน มีมาช้านาน
เรือจ้างรับข้ามฝั่งชล
เมตตาต่อศิษย์ทุกคน ชี้นำเหตุผล
ให้รู้ผิดชอบชั่วดี
ครูคือผู้นำชีวี ให้ศิษย์นั้นมี
คุณค่าของความเป็นคน
พระคุณครูนั้นมากล้น เลิศล้ำอำพน
สุดที่จักกล่าวพรรณนา
สิบนิ้วยกขึ้นวันทา ธูปเทียนมาลา
แทนใจมาบูชาครู
10 กันยายน 2547 17:24 น.
ขลุ่ยหลิบ
อันความรักภักดีที่มอบให้
ถึงฟ้าไกลขัดขวางเข้ากางกั้น
สุดฟากฟ้าถ้าเราสองปองรักกัน
สุดฟ้านั้นสั้นนักแพ้รักเรา
รักเธอที่มอบให้นั้นฉันซาบซึ้ง
คือที่พึ่งพักพิงไม่มีเหงา
แม้แสนไกลแพ้ใจของสองเรา
แอบแนบเนาว์เคล้าคลอเคลียเสมอใจ
รักที่ฉันมอบให้เธอเพ้อเฝ้าฝัน
มิมีวันผันแปรเปลี่ยนไปที่ไหน
กาลเวลาแม้หมุนวนว่ายเวียนไป
มิอาจหยุดดวงใจภักดิ์รักนิรันดร์
รักที่เธอมอบให้ฉันนั้นมีค่า
จะรักษาตลอดไปไม่แปรผัน
แม้หากสิ้นสูรย์ดาวและแสงจันทร์
รักคงมั่นมิเสื่อมคลายสลายไป
ไม่มีความรักใดอุ่นใจฉัน
มาเทียมทันเท่าเธอเสนอให้
และกับความอบอุ่นละมุนละไม
อ้อมแขนใครอื่นเขาไม่เท่าเธอ
ความรักใครไหนหวานปานน้ำผึ้ง
คงไม่ครึ่งรักเราสองสนองเสนอ
ระหว่างวันต่อวันฉันได้เจอ
มั่นเสมอรักสมานนานนิรันดร์
น้ำคำซึ่งซึ้งใจของใครอื่น
มิหวานชื่นเท่าเธอปรนเปรอฉัน
เหมือนเกิดมาเพื่อซึ้งถึงคำนั้น
ตลอดวัน ตลอดปี ชั่วชีวิต
เสมือนมีพรสวรรค์สั่งฉันว่า
ให้เกิดมารักเธอเสมอจิต
ตราบเดือนดับดาวสลัวทั่วทุกทิศ
ฉันใช้สิทธิ์รักแท้แต่เธอเดียว
ขอฟากฟ้าอ้าแขนรับรักเราสอง
ฟ้าปกป้องรักสองเราโปรดแลเหลียว
ขอหัวใจสองดวงหลอมเป็นดวงเดียว
สองดวงเกี่ยวก้อยร้อยรักปักใจปอง
7 กันยายน 2547 20:14 น.
ขลุ่ยหลิบ
อันความรักภักดีที่มอบให้
ถึงฟ้าไกลขัดขวางเข้ากางกั้น
สุดฟากฟ้าถ้าเราสองปองรักกัน
สุดฟ้านั้นสั้นนักแพ้รักเรา
ถึงสิ้นดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ถึงสิ้นสุดพฤกษาทั้งป่าเขา
ศรัทธารักจักประคองรักของเรา
ให้คู่เคล้าเคียงกันจนวันตาย