7 ตุลาคม 2547 15:47 น.

สดุดีปูชนีย์ศรีแผ่นดิน

ขลุ่ยหลิบ

         ประดุจแผ่นศิลาที่กล้าแกร่ง
ประดุจแสงแห่งดวงสุริยฉาย
ประดุจจันทร์แจ่มกระจ่างกลางดาวราย
ประดุจสายฝนหลั่งพรั่งพรมดิน

ประดุจแสงเทียนทองส่องชีวิต
นำปวงศิษย์ข้ามห้วงกระแสสินธุ์
ประสบความรุ่งโรจน์แห่งชีวิน
ด้วยดวงจินต์เปี่ยมเมตตาและปรานี

ตราบชีวิตศิษย์รำลึกนึกคุณท่าน
ที่สร้างสรรค์ให้ศิษย์งามตามหน้าที่
รู้ผิดชอบ   รู้รอบ   กอปรกรรมดี
สมศักดิ์ศรีปูชนียบุคคล				
5 ตุลาคม 2547 22:52 น.

อย่าใจร้าย....อย่าไปลับ....จงกลับคืน

ขลุ่ยหลิบ

	        สายฝนหลั่งพรั่งพรูดูชุ่มฉ่ำ
	ลมกระหน่ำพัดผ่านก้านไม้ไหว
	ฟ้าก็แลบแปลบเปรี้ยงยินเสียงไกล
	สายฝนในความมัวน่ากลัวนัก

	ฝนสร่างซาฟ้าสลัวไปทั่วฟ้า
	แต่ฝนใหญ่ในอุรายังตกหนัก
	หัวใจเราเศร้าสร้อยคอยคนรัก
	เมื่อไรจักกลับคืนมาชื่นเชย

	อยากอยู่ในอ้อมกอดยอดชีวิต
	เฝ้าเชยชิดร่วมเรียงเคียงเขนย
	ต้องทนหนาวเศร้าใจไปเช่นเคย
	สุดจะเอ่ยรำพัน.........ฉันเดียวดาย

	ทุกวันคืนขืนข่มตรอมตรมนัก
	คนเคยรักจากไกล......โอ้......ใจหาย
	รักสุดซึ้งคิดถึงอยู่มิรู้คลาย
	อย่าใจร้าย.......อย่าไปลับ........จงกลับคืน				
4 ตุลาคม 2547 11:27 น.

ขอบคุณความคิดถึงที่ซึ้งจิต

ขลุ่ยหลิบ

         แสนยินดีที่คิดถึงคิดถึงฉัน
ใจฉันนั้นก็คิดถึงรำพึงหา
ยิ่งยามต้องห่างไปไกลสายตา
ยิ่งคิดถึงเจียนว่าจะขาดใจ

แสนดีใจที่เธอไม่หน่ายรัก
ฉันก็จักไม่หันห่างร้างไปไหน
แม้เธอนั้นจะรอฉันนานเพียงใด
ก็ยังรอไม่ท้อใจไม่อาดูร

คำว่าห่วงแสนห่วงจากดวงจิต
มันฝังติดในหทัยไม่เสื่อมสูญ
เธอห่วงฉันฉันห่วงเธอทวีคูณ
ยิ่งเพิ่มพูนความรักสลักใจ

ใจของฉันมีหนึ่งใจไม่เป็นสอง
ยังคงครองรักมั่นมิหวั่นไหว
ยามไกลห่างสุดตาแสนอาลัย
ได้แต่ฝันถึงดวงใจทุกคืนวัน

จะเก็บความรักคิดถึงที่ซึ้งจิต
เก็บแนบชิดในหทัยยามไกลขวัญ
จะเก็บไว้ให้ถึงซึ่งวันนั้น
วันที่เคียงคู่กันนิรันดร				
2 ตุลาคม 2547 12:55 น.

สอนใจ

ขลุ่ยหลิบ

        เก็บน้ำตา เอาให้ ไหลออกมา
เผื่อทว่า วันใด ที่ใจเหงา
ซ่อนขื่นขม สิ้นหวัง ไว้หลังเงา
บังความเศร้า เอาไว้ ในใจตัว

เก็บความหม่นให้จมไว้ในดวงจิต
นำชีวิตให้พ้นจากแสงสลัว
เก็บความเศร้าความรานร้าวความหมองมัว
ให้จมลึกลงสุดขั้วของหัวใจ

เอาหัวใจ เปียกปอน ซ่อนสนิท
ใครจะคิด ค้นมา ก็หาไม่
ให้มันตก ผลึก ลึกข้างใน
คอยยิ้มไว้ ฉาบหน้า อุราตรม

ปั้นรอยยิ้มสดใสอาบใบหน้า
หัทยาหมองไหม้ให้ขื่นขม
สะกดเศร้าลึกร้าวเหงาระทม
ซ่อนเก็บบ่มมิให้ใครได้รู้ความ

แล้วหันขวับ กลับไป ถามใจตัว
จะมืดมัว ใจเสาะ เพราะเกรงขาม
เพียงหัวใจ คิดเลยเถิด เกิดนิยาม
หรือจะถาม ใจเจ้า  เศร้าทำไม

จะสร้อยเศร้าอยู่ใยกับใจหนึ่ง
ใจที่ซึ่งเหยียบย่ำทำหวั่นไหว
ซ้ำกายฝากความระกำที่ช้ำใน
เราเองไซร้ทุกข์ท้อทรมา

จงกล้ำกลืน ยืนอยู่ สู้ความจริง
แม้เป็นสิ่ง ร้ายดี  ที่หนักหนา
จะผ่านมัน ความทุกข์ท้อ ทรมา
หยัดกายา ยืนยง ทะนงตน				
30 กันยายน 2547 16:40 น.

ไม่มีคำตอบ...จากหัวใจ

ขลุ่ยหลิบ

	         เฝ้าถามใจของเราเท่าที่คิด
ถามว่าสิทธิ์มีไหมที่ใจฝัน
ถามความนัยจากกมลจนทุกวัน
แต่สิ่งอันจะตอบมันชอบกล

เฝ้าครวญคิดว้าวุ่นครุ่นแต่คิด
ว่าถูกผิดฉันใดให้สับสน
คำว่าพี่ยังซึ้งตรึงกมล
มิควรรนคิดออกนอกลู่ทาง

เราคงถือตนเป็นเพียงเช่นน้อง
มิกล้าปองเกินหวังดังที่อ้าง
เราเทิดทูนเขาไว้ไม่อำพราง
รักมิจางฝังซึ้งตรึงหทัย

แต่ทำไมใจหนึ่งจึงเผลอฝัน
สิ่งที่มันไม่หวังดังจะได้
พยายามปรามจิตอย่าคิดไกล
แต่อีกใจสิรั้นฝันไปเอง

เราคงถือเขาเป็นเพียงเช่นพี่
ที่ไม่มีดวงใจใฝ่ข่มเหง
มีความดีเปี่ยมล้นจนเราเกรง
เกลียดตัวเองที่คิดผิดจากเดิม

เฝ้าถามใจของเราเท่าที่คิด
ถามว่าสิทธิ์มีไหมที่ใจเริ่ม
แต่คำตอบมันไกลจะได้เติม
ไม่อาจเพิ่มมากกว่าคำว่าน้อง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขลุ่ยหลิบ
Lovings  ขลุ่ยหลิบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขลุ่ยหลิบ
Lovings  ขลุ่ยหลิบ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟขลุ่ยหลิบ
Lovings  ขลุ่ยหลิบ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงขลุ่ยหลิบ