4 พฤศจิกายน 2547 22:06 น.
ขลุ่ยหลิบ
ถ้าไกลกันเกินตาด้วยฟ้ากั้น
คงมีวันกลับมาพบกันใหม่
แต่นี่ใกล้เพียงตัวห่างหัวใจ
จนวันนี้วันไหนก็ไกลเกิน
เสียดายเอยโอ้สัมพันธ์วันเก่าเก่า
มาอับเฉาเริดร้างจนห่างเหิน
ยิ่งสบตาตาฉายประกายเมิน
หวาดสะเทิ้นหวั่นสะทกเพียงอกพัง
ทั้งที่รู้ไร้สิทธิ์แม้คิดถึง
ยังแอบซึ้งแอบหวานกับความหวัง
ห้ามหัวใจเท่าไรมันไม่ฟัง
ยิ่งยับยั้งกลับยิ่งย้ำความใยดี
ถามตัวเองก่อนหลับซบกับหมอน
จะอาทรเขาไปถึงไหนนี่
วันที่ลืมเขาลงคงไม่มี
เป็นเสียงที่ใจเน้นเหมือนเช่นเคย
แต่นั่นแหละเขาเพียงเห็นเราเป็นเพื่อน
จึงกล้าเบือนหลบตาอย่างชาเฉย
แววห่วงหาปราณีไม่มีเลย
นิจจาเอ๋ยเจ็บช้ำเหลือกล้ำกลืน
แม้วันไหนแพ้พ่ายถึงหน่ายโลก
เถอะทุกข์โศกแค่ไหนจะไม่ฝืน
ปล่อยกมลหม่นมัวชั่ววันคืน
มันอยากขื่นเพราะไม่จำก็ช้ำเอง
1 พฤศจิกายน 2547 23:11 น.
ขลุ่ยหลิบ
ร้อยเรื่องราวเหงาจิตคิดหวนให้
ใจเอ๋ยใจเงียบงันพลันไห้หวน
จะดิ้นดับเลยลับกลับคร่ำครวญ
แสนกำสรวลโศกสะอื้นฝืนรันทด
ชลนารินรดหยดลงพื้น
จนชุ่มผืนพสุธาเห็นปรากฎ
ถึงยอดเขาดินแดนเคว้นบรรพต
ชลนาท่วมหมดจรดนภา
ปาดน้ำตาอาวรณ์ทอดถอนจิต
ไม่วายคิดคำนึงรำพึงหา
เคยซาบซึ้งถึงแต่แม่กานดา
บัดนี้มาลาร้างไปห่างกาย
รอเวลา แม้เป็นชาติ ก็วาดหวัง
ดั่งฟากฟ้ารอตะวันอันส่องฉาย
จนคิมหันต์ เหมันต์ วสันต์ปราย
รักที่หวังพลันสลายไม่คลายคืน.....
30 ตุลาคม 2547 23:52 น.
ขลุ่ยหลิบ
ดวงตะวันตกต่ำอำลาฟ้า
ทอแสงลาระเยียบและเงียบเหงา
สีเรื่อรอยคล้อยหายดุจสายเงา
สวาทเราก็เริ่มจางอย่างตะวัน
ลมกระซิบซ่านเสียวกับเกลียวคลื่น
ระริกรื่นอ้อนพิไรในห้วงฝัน
พัดโลมไล้สายคลื่นทุกคืนวัน
คงสุขสันต์สมอุราอ้าสายลม
เกลียวคลื่นโอบชายฝั่งอย่างถนอม
ยอดสนกล่อมดวงขวัญอันสุขสม
พริ้วพรมจูบลูบไล้ให้คลายตรม
แล้วซบซมเคียงหาดไม่คลาดคลา
คลื่นมีลมเนานอบปลอบดวงจิต
หาดชมชิดเกลียวคลื่นรื่นหรรษา
แต่ขวัญเรามีเพียงช้ำและน้ำตา
ฉันจะหาคนปลอบใจที่ไหนกัน
25 ตุลาคม 2547 23:19 น.
ขลุ่ยหลิบ
อยากให้เธอเข้าใจฉันในวันนี้
เหมือนกับที่เคยเข้าใจในวันก่อน
ไม่ต้องเผยเอ่ยปากวากย์เว้าวอน
สายตาซ้อนเหลือบดูก็รู้กัน
ความเหินห่างสร้างกำแพงอันแข็งกล้า
สูงและหนาไกลและกว้างออกกางกั้น
เหลียวชำเลืองแอบมองสองเนตรนั้น
รู้ฉับพลันไม่เหมือนเก่าเคยเข้าใจ
ตาต่อตาผสานแล้วผ่านผาด
เกินบังอาจจะจ้องมองได้ใหม่
หลบตาต่ำนึกจะโกรธแต่โทษใคร
อยู่ใกล้ใกล้รู้สึกคล้ายไกลเหลือเกิน
อยากให้เธอเข้าใจฉันในวันนี้
ปรายไมตรีสายตาให้หายขัดเขิน
สบเนตรกันจะได้ไม่ต้องเมิน
เผื่อเผอิญเข้าใจกันเหมือนวันวาน
21 ตุลาคม 2547 20:43 น.
ขลุ่ยหลิบ
งามสถานถิ่นวังหน้าสง่าสม
งามลั่นทมออกดอกขาวพราวไสว
งามอรุณฤกษ์เบิกฟ้าอ่าอำไพ
งามสายธารน้ำใจมีให้กัน
เขียว - ขาว สถาบันอันทรงค่า
ได้ก้าวเดินเข้ามาดังใฝ่ฝัน
ไมตรีจิตที่ได้รับนับอนันต์
ความสัมพันธ์ฉันท์น้องพี่นี้ชื่นชม
ครูอาจารย์ท่านให้ความอบอุ่น
เกื้อการุณศิษย์ทั้งหลายได้เหมาะสม
สอนให้ดีมีวินัยใฝ่นิยม
สร้างสังคมให้เด่นเป็นคนดี
มาวันนี้ขอให้คำสัญญาว่า
จะรักษาตัวให้งามตามหน้าที่
สร้างศรัทธา สร้างรัก สามัคคี
เป็นคนดีเทิดค่าสถาบัน
กราบขอบคุณในไมตรีที่มอบให้
ประทับใจยิ่งนักยากจักสรร
หาถ้อยคำพร่ำเฉลยเอ่ยรำพัน
ทุกคืนวันจะเตือนอยู่ไม่รู้ลืม