5 กุมภาพันธ์ 2548 00:27 น.
ขลุ่ยหลิบ
อยู่ห่างกันนั้นไซร้หทัยเศร้า
ความเงียบเหงาเยือนเยี่ยมเปี่ยมด้วยหมอง
น้ำใจเธอเหือดแห้งแล้งเกินปอง
ความขุ่นข้องฟ้องทรวงในให้กังวล
เราห่างกันเช่นนี้กี่วันแล้ว
มิเห็นแววสัมพันธ์ฉันฉงน
เฝ้ารอสาส์นนานเนาเศร้ากมล
ทุกข์ท้อทนท่วมฤทัยเรื่องไมตรี
อยากจะโลดแล่นลงตรงเบื้องหน้า
พร้อมทักว่าเพราะเหตุใดใยลืมศรี
หรือลืมแล้วรอยรักปักฤดี
หรือเธอมีคู่ใหม่ไว้แอบอิง
ได้เพียงแต่คิดว่าถ้าทำได้
แต่นี่ไม่อาจเอื้อมกลัวเสื่อมหญิง
เพราะตัวเราอยู่ไกลเกินไปชิง
ได้แต่เพียงวอนสิ่งที่กริ่งเกรง
ฝากดาวเดือนเคลื่อนคล้อยลอยสู่ขวัญ
ว่าตัวฉันนั้นทุกข์ถูกข่มเหง
ดวงชีวันครั่นคร้ามยามวังเวง
ความอวดเก่งก่อนนี้สิ้นวี่แวว
เราห่างกันนั้นมากยากจักเผย
แต่รักเอ๋ยกลับเถียงเสียงแผ่วแผ่ว
น้ำตาร่วงรินไหลไปเป็นแนว
โอ้ดวงแก้วฉันไม่เลือนยังเหมือนเดิม
2 กุมภาพันธ์ 2548 13:04 น.
ขลุ่ยหลิบ
วันนี้จะวาดภาพจากความฝัน
พรมพู่กันเป็นเรืองรายของสายรุ้ง
มีเส้นโค้งของลำคลองมีท้องทุ่ง
มีแอ่งคุ้งเวิ้งว้างธาราวน
แต้มสีเขียวระลอกไหวของใบข้าว
แต้มสีขาวเป็นละอองของหยาดฝน
แต้มสีครามเลื่อมลายในสายชล
แต้มสีหม่นในร่มเงาเถาพฤกษา
ในภาพนั้นมีจินตนาการ
จากสถานที่ห่างไกลในโลกหล้า
ที่ที่ไร้จริตริษยา
มีแนวนาขุนเขาลำเนาพฤกษ์
มีไออุ่นสัมผัสที่บริสุทธิ์
จึงผาดผุดงดงามตามความรู้สึก
ให้ดื่มด่ำรับรู้อยู่ลึกลึก
ให้ผนึกอารมณ์ไว้ในภาพนั้น
จะเติมฝูงปลาไปในน้ำนอง
จะแต้มผองสกุณาบนฟ้าฝัน
เติมแมงปอล่องลอยอีกร้อยพัน
เติมตะวันแทรกลงตรงชายเขา
และสุดท้ายจะวาดกระท่อมน้อย
จะปลดปล่อยใจไปให้คลายเศร้า
จะจับจองครองอยู่รู้เพียงเรา
เพราะจะวาด นวลเจ้า เคล้าเคียงเรียม
อยู่ในท่าม ทิวทัศน์ ตวัดแปรง
ซ่อนในแสงรุ้งหลบสงบเสงี่ยม
สรวงสวรรค์ไหนเล่าจะเท่าเทียม
เพราะตระเตรียม จับจอง เพื่อสองเรา
วันนี้จะวาด อนาคต
ให้ปรากฏ กลางอุรา ว่าไม่เหงา
วาดเสียง แห่งสายลม พรมเบาเบา
และวาดเงาไม้งาม ตามตะวัน
วาดสาย เส้นยาว ขาวสะอาด
พิรุณสาด เส้นไหม ในฟ้าฝัน
พรูพร่าง เป็นทาง กลางแวววัน
เสมือนสาย สัมพันธ์ อันชุ่มเย็น
โปรดเถิด นวลพี่ ที่เรียมหวัง
ภาพพี่ตั้งตรงใจให้นางเห็น
คำหวานหวาน หว่านอ้อน ที่ซ่อนเร้น
ภาพนี้เป็น ดั่งคำพ้อ เพื่อขอรัก
14 มกราคม 2548 10:47 น.
ขลุ่ยหลิบ
จ ว น จ ะ ย่ำ ส น ธ ย า อี ก ค ร า ห นึ่ ง
ที่ ที่ ซึ่ ง เ ป็ น แ ด น ดิ น ถิ่ น ค ว า ม ฝั น
ณ แ ห่ ง นี้ คื อ ที่ เ ร า พ บ กั น
โ อ้ คื น วั น ผั น ผ่ า น ไ ป เ ห มื อ น ส า ย ล ม
เมื่อแรกรักรักนั้นหวานปานน้ำอ้อย
พอรักคล้อยจากไปใจขื่นขม
เหลือซากรักฝังรากฝากระทม
ในความสมสุขนั้นฉันเดียวดาย
ณ ที่ นี้ ชี้ ชื่ น คื น ปี ก่ อ น
เ ร า อ อ ด อ้ อ น ฟู ม ฟั ก รั ก ส ม ห ม า ย
เ ค ย เ ย้ า ห ย อ ก ห ล อ ก ไ ล่ ไ ม่ เ ว้ น ว า ย
เ ดี๋ ย ว นี้ ปร า ย นั ย น์ ดู ไ ม่ รู้ ใ ค ร
ลืมหมดแล้วใช่ไหมในรักเก่า
ให้ฉันเหงาเศร้าหมองไม่ผ่องใส
หากลืมสิ้นถิ่นเคยเห็นไม่เป็นไร
ฉันจะจำเอาไว้แต่ผู้เดียว
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
13 มกราคม 2548 10:19 น.
ขลุ่ยหลิบ
เ ห น็ บ เ นื้ อ เ ห ลื อ ห น า ว ร้ า ว จิ ต
ชี วิ ต ดำ เ นิ น เ ดิ น เ ป ลี่ ย ว
ค้ น ห า จุ ด ห ม า ย ด า ย เ ดี ย ว
โ ด ด เ ดี่ ย ว บ น ท า ง ร้ า ง ร ก
แ ล ไ ห น มื ด มิ ด ไ ป ทั่ ว
ห ว า ด ก ลั ว เ ก ร ง ภั ย ใ ห้ ต ร ะ ห น ก
เ ห น็ บ ห น า ว ร้ า ว ไ ห ว ใ จ ส ะ ท ก
ใ น อ ก นิ จ จ า อ า ดู ร
ห วั ง ใ จ ห วั ง ไ ว้ วั น ห นึ่ ง
วั น ซึ่ ง ค ว า ม เ ศ ร้ า เ สื่ อ ม สู ญ
วั น ที่ มี ค น เ กื้ อ กู ล
เ พิ่ ม พู น จิ ต เ อื้ อ เ จื อ ใ จ
ร อ วั น แ ห่ ง แ ส ง ส ว่ า ง
ส่ อ ง ท า ง ก ร ะ จ่ า ง ส ด ใ ส
ขั บ ไ ล่ ค ว า ม ห น า ว ร้ า ว ไ ป
ส ร้ า ง ค ว า ม อุ่ น ไ อ ท ด แ ท น . . . . . . .
5 มกราคม 2548 14:46 น.
ขลุ่ยหลิบ
เหินห่าง.....ร้างไกล.....ใจเศร้า
ความเหงา.....เป็นเพื่อน.....ยามหมอง
เจ็บจิต.....คิดใคร่.....ไตร่ตรอง
น้ำตา.....อาบนอง.....ห้องใจ
ห่างเห.....เรรวน.....ป่วนจิต
คิดคิด.....ยิ่งช้ำ.....ไฉน
ห่างหาย.....ห่างรัก.....หักใจ
ห่างเหิน.....เกินใจ.....ใฝ่ปอง
มีคนเคยบอกว่า...การห่างหายอาจจะเป็นการเพิ่มพูนความห่างเหิน
ในวันนั้นยังเถียงว่าไม่เป็นไรถ้าใจถึงกัน
แต่
ในวันนี้เริ่มจะเห็นจริงกับสิ่งที่ครั้งหนึ่งมีคนบอกไว้
และไม่แน่ว่าสักวันอาจจะเชื่อในคำพูดนั้นก็ได้