26 กันยายน 2550 17:18 น.
ขนมบนดอย
..........คือเรื่องหนึ่งที่อยากจะเอ่ย ถาม ........แต่ก็ไม่กล้าทุกทีไป
เป็นเพราะเราที่ทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง อาจจะทำให้ใครบางคนเกิดความรู้สึกหนึ่ง
การที่เราดึง หรือรั้งใครเขาไว้ โดยที่ความรู้สึกนั้นไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป...
คุณเคยรู้สึกเหมือนกันไหม ?.....กับคำถามข้างในใจ...."รัก"
ห่วงใยในทุกถ้อยคำ แฝงด้วยอะไรบางอย่าง ก็ (คงจะคิดถึง) รึป่าวนะ
ต้องขอโทษ หากว่าเป็นความรู้สึกของฝ่ายนี้เท่านั้นเอง...ก็คิดถึงน่ะ...
ไม่มีอะไรมาก....บางครั้งที่รู้ตัวเองว่าเกิดความเหงาเข้ามาแทรกซึมภายใน
ก็อยากจะมีใครสักคน เพียงแค่คนเดียวก็พอ ที่คอยรับฟัง คอยอยู่ข้างๆ กัน
.....ให้ใจได้อุ่นขึ้นสักนิดหนึ่ง ก็เท่านั้น....
แต่.....ความเป็นจริง มันไม่ใช่ ตอกย้ำกับถ้อยคำอยู่เสมอ ๆ ว่ามันไม่ใช่
ก็เข้าใจ แล้วก็ต้องเข้าใจ...มีคำถามกับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง...ว่าเพราะอะไร ?...
ทำไม ต้องเป็นเขา...? บางครั้งก็เบื่อตัวเอง เบื่อกับคำถาม สรุปแล้ว "น้อยใจ"
เป็นธรรมดาของคนมาทีหลัง...(อย่างตัวเรา)...
เป็นเรื่องราวอีกวันหนึ่งที่จะข้ามผ่านขอบฟ้าของอาทิตย์อัศดง ค่อย ๆนะ...
แสงอันเรืองรอง กับม่านหมอกบางๆ ลมเย็นๆ พัดมากระทบผิวกายอีกครั้ง....
คิดถึง คุณ จัง จะรู้ไหม ?......
....
21 กันยายน 2550 08:15 น.
ขนมบนดอย
.
...ใต้ขอบฟ้ากว้าง เรายังคงยืนอ้างว้างเพียงลำพัง....
.......แสงอาทิตย์เริ่มแผ่ขยายวงกว้างโผล่จากขอบขุนเขา น่านฟ้าของไทย
หมอกบางๆ ปกคลุมทั่วทุกทิศ ลมเย็นๆกระทบผิวกายในยามเช้า......
ถึงแม้ว่าวันนีนั้นจะไม่สายฝนพรำเหมือนเช่นวานนี้ก็ตามที แตทว่าสิ่งที่เป็นนั้น
คือความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเมื่อวาน....เพราะตรงที่เรายืนแล้วมองออกไปนั้น
เป็นแสงสีทองเรืองรอง ด้วยพลัง และไออุ่นจากแสงอรุณในยามเช้า
ลมหนาวเริ่มมาแล้วซินะนี่ สังเกตุเห็นต้นไม้ใบหญ้าที่เติบโตตามกาลเวลา
สีเขียวนวลมองแล้วชวนให้สบายตา สบายใจเป็นที่สุด โชคดีนะที่เราเกิดที่นี่...
ความสงบหายากยิ่ง แต่ก็ไม่มีที่ไหนสุขเท่าบ้านเรา ถิ่นที่รักษ์.....เรารักษ์....
ขอบคุณประเทศไทย ขอบคุณเมืองเชียงใหม่ ขอบคุณดินแดนบนยอดดอย
เสียงเพลงเบาๆยังคงเล่นกล่อมจิตใจให้นิ่งได้ทุกวัน นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่กับ
ผู้หญิงขี้เหงาคนนนี้มาโดยตลอด สมุดไดอารี่ ปากกา และเสียงเพลง หากมีของ
สามสิ่งนี้ ให้ผู้หญิงคนนี้อยู่ ณ แห่งหนตำบลใด ก็สามารถอยู่ได้ทั้งนั้น จริงๆ....
แล้วคุณล่ะ.....สิ่งใดที่อยู่ข้างๆกายคุณ
20 กันยายน 2550 08:31 น.
ขนมบนดอย
กับเช้าวันใหม่....ถึงแม้ว่าท้องฟ้าอาจจะดูไม่สดใสสักเท่าไหร่
มีเมฆหมอกหนาปกคลุมอยู่ทั่วทั้งบริเวณ มีสายฝนพรำๆ เสียงนกกระจิบเล่นร้อง
ลืมตาตื่นรับวันใหม่ ด้วยความรู้สึกเหงาๆ ภายในห้องสี่เหลี่ยม ที่เดิม..เงียบ....
หลังจากนอนคิดถึงใครอยู่สักพัก ก็ได้เวลาที่ร่างกายพร้อมที่จะดำเนินชีวิตต่อไป
เก็บผ้าห่มจัดที่นอนให้เข้าที่ตามแบบฉบับ คลุมด้วยผ้าผืนเดิม ยาวห้าฟุต
มองดูตุ๊กกาหมีตัวใหญ่ที่ให้คอยซุกนอน คอยให้ไออุ่นทุก ๆ คืน ยิ้มหวานหน่อย
เดินออกจาห้อง เปิดซีดีเล่นเพลงบรรเลงที่จำติดความรู้สึก หากว่าใครที่ชอบฟัง
ในแนวเดียวกันคงจะพอนึกออก เป็นเพลงของคุณบอยโกสิยพงษ์ ชุดสอง.....
เปิดไฟดวงที่อยู่กลางห้องโถง แล้วเดินไปหยิบเจ้าไดอารี่เล่มเดิมปกดำ
เขียนระบายถึงความรู้สึกที่ผ่านมา ด้วยเนื้อหาคงเดิม ดีกรีคงความเหงาไม่เปลี่ยน
อาจจะดูเรียบง่ายสบาย ๆ ไม่เน้นเรื่องราวทุกข์ร้อนอะไรมากมาย ก็เท่านั้น
ต่อจากนั้นก็เล่นโยคะต่ออีกประมาณ ยี่สิบกว่านาที ได้เหงื่อพอควรแล้ว
พักหนึ่ง เปิดรินน้ำแอปเปิ้ลหนึ่งแก้วโต พร้อมด้วยขนมปังอีกสองแผ่น
นั่งทาน จากเปิดซีดีเพลงก็เปลี่ยนเป็นเปิดทีวี ดูข่าวต่างประเทศทางโมเดิล
กิจวัตรประจำวันเริ่มขยับเรื่อย จากนั้นก็กวาดบ้าน ถูบ้าน รถน้ำต้นไม้
ให้อาหารปลาตัวน้อย อาบน้ำแต่งตัว ไปทำงาน.......
แล้วชีวิตเช้าวันนี้ของคุณหล่ะ.....บอกเล่าถึงกันมั่งนะ.....
..
19 กันยายน 2550 10:49 น.
ขนมบนดอย
ทุกครั้งที่รอคอยใครบางคนจะโทรเข้ามา นั้นทำให้ใจเราสับสนวุ่นวาย
ทั้งๆที่สิ่งต่างๆรอบตัวเรานั้นมีเรื่องวุ่นวาย ต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึก
ที่เหงา นั้น จางหายได้เลย .....แม้แต่กาพูดคุยของคนรอบข้าง ทั้งๆที่ก็น่าจะชิน
กับการอยู่คนเดียวแบบนี้แล้วด้วยซ้ำ..แต่เพราะอะไรล่ะ...ความความคิดถึงรึป่าว
เสียงโทรศัพท์ดังครั้งนี้ ก็ไม่ต่างกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา ความรู้สึกแรกนั้นก็
คงจะเป็นดีใจ ที่เป็นคุณ แต่ว่าก็ปล่อยให้เสียงเพลงรอสายจากโทรศัพท์ดังขึ้น
นานจนมันหายไป ทำไมรับ......ทำไมถึงไม่กล้าที่จะรับ...ถามตัวเราเอง
การสร้างกำแพง เพื่ออะไรบางอย่าง เพียงเท่านั้นหรือ ? ที่ทำไป
เรื่องบางเรื่อง ใช้การตัดสินใจเพียงแค่ง่ายๆ ในเรื่องที่คิดว่ายากตั้งมากมาย
แต่แล้วทำไม เรื่องที่คิดว่าง่ายที่สุด กลับทำให้ยากแก่การตัดสินใจเป็นที่สุด...
เกิดคำถามตามมากับความรู้สึก ลึกๆ...อยู่เสมอ....คิดถึงฉันไหมเวลาที่เหงา
หากว่ายังเหงา เพราะการคิดถึงกันอยู่เรื่อยไป อยู่แบบนี้...
ฉันขอโทษ.....