20 สิงหาคม 2548 11:35 น.

เหยื่ออารมณ์

ก๋วยเตี๋ยวน้ำ

บางครั้งเราอาจสงสัยว่า ทำไมเราถึงต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม ทำไม ช่างเป็นคำถามที่ตอบยากจริงๆ สำหรับคนที่ไม่ยอมรับในเรื่อง กฏแห่งกรรม
สิตา เด็กสาวหน้าตาดีเรียนจบจากบ้านนอก แต่สามารถสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่มีชื่อในเมืองหลวง ซ้ำได้คณะดีเสียด้วย  สิตาเข้ามาเป็นเด็กในอุปการะของอาว์ และ อาว์สะไภ้ มาในฐานะบุตรบุญธรรม  เด็กสาวน่าตาน่าเอ็นดู ปากคอจิ้มลิ้ม ชวนมองไปทุกอย่าง เพียงเพ็ญต้อนรับหลานของสามีหรือนัยหนึ่ง บุตรบุญธรรมของเธอด้วยความตื่นเต้น แม้ใจหนึ่งจะคอยระแวงด้วยสัญชาติญานว่า เด็กคนนี้ น่าจะมานำซึ่งความไม่สงบสุขให้กับชีวติราบเรียบของเธอ แต่ด้วยความเป็นคนจิตใจดี อ่อนน้อมถ่อมตน จริงใจ ใจดี ต่อ เพื่อนมนุษย์ ทำให้ เพียงเพ็ญ ต้องรีบสลัดความคิดบ้าๆ นั้นออก  
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยความยินดียิ่งจ๊ะ
พิศาล ยืนมองปฏิกิริยา ระหว่างแม่ใหม่ และ ลูกสาวคนใหม่ ด้วยความสุขลึกๆ ต่อจากนี้ไป ชีวิตคู่ระหว่างเขาและเพียงเพ็ญจะได้ สมบุรณ์ พ่อ แม่ ลูก เสียที แม้จะไม่ใช่ ลูกแท้ๆ แต่สิตาก็เป็นหลานแท้ๆ ลูกสาว พี่ชายของพิศาลเอง รักระหว่างสายเลือดคงมีหลงเหลืออยู่บ้างน่า
แต่เพียงแต่ พิศาล และ เพียงเพ็ญจะมีญาณหยั่งรู้ล่วงหน้า เขาคงไม่ยอมรับเด็กสาวคนนี้มาร่วมชายคาแน่ 
ตาจ๋า แม่จะไปบ้านคุณยาย ลูกไปกับแม่นะจ๊ะ
อ้อ ตามีการบ้านต้องทำเยอะค่ะ คุณแม่ไปเถอะ ตาจะทำการบ้าน
หรือจ๊ะ งั้นแม่ไปแป๊บเดียวจะรีบกลับนะค๊ะ 
เดี๋ยวแม่จะไปซื้ออาหารมาให้ตานะจ๊ะ จะทานอะไรดีละลูก
อุ๊ย ! ไม่ต้องค่ะ คุณแม่ ตาลงไปหาทานได้ค่ะ แถวนี้มีขายเยอะ ตาอยากทานร้อนๆ ค่ะ คุณแม่ไปเถอะ ตาอยู่ได้ แม่รีบไปจะได้รีบกลับไงค๊ะ 
จ๊ะ ถ้าพ่อกลับมา เรียนคุณพ่อนะค๊ะ ว่า แม่จะรีบกลับ คุณยายโทรมามีธุระนิดหน่อย
ค๊ะ ตาจะเรียนคุณพ่อเองว่า แม่ไปธุระ เสร็จแล้วจะรีบกลับ
เช้าวันต่อมา 
กริ๊ง ๆๆ
สวัสดีครับ  พิศาลพูดครับ
เออ พี่เอง 
สวัสดีครับ พี่พัฒน์ สบายดีนะครับ พี่สะไภ้ หลานๆ เป็นไงบ้างครับ พี่
เออ สบายดีกันทุกคนแหละ
นี่ ศาล ที่พี่โทรมาวันนี้ มีเรื่องจะมาบอกนะ
ครับ
เรื่องสิตานะ ถ้าเราไม่พร้อมจะอุปการะเขา ก็ไม่ควรไปรับเขามา นี่เอามาแล้วจะมาทำทิ้งๆ ขว้างๆ อย่างเมื่อคืนไม่ได้นะ เราผู้ใหญ่กันแล้ว พี่พูดมากไปก็ไม่ดี 
อ้าว มีเรื่องอะไรหรือครับ
ศาลคงไม่ทราบเรื่องสิท่า
ถึงว่า เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครกล้ามาบอกศาลหรอกนะ
พี่พัฒน์ครับ บอกผมมาตรงๆ ดีกว่า ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เมื่อคืน ยายตาโทรไปบอกพี่ว่า เพียงเพ็ญทิ้งให้แกอยู่คนเดียว หิวก็หิวไม่มีอะไรรองท้อง ตาเขาเป็นเด็กบ้านนอก เพิ่งมาอยู่กรุงไม่เท่าไร จะมาเหมาว่า โตเข้ามหาลัยแล้ว คงหาอะไรทานเองได้ ก็ไม่ถูกนา เด็กสาวๆ ไม่เคยอยู่กรุงเทพ อาจจะประหม่า ไม่กล้าในสิ่งที่เด็กสาวๆ ชาวกรุงเห็นเป็นเรื่องเล็กๆ
พี่อยากให้ศาล คุยกับเพ็ญเขาเรื่องตา เราเอามาเป็นลูก หวังฝากผีฝากไข้ ก็ต้องเลี้ยงดูเขาอย่างลูกแท้ๆ อย่าว่าแต่เราเลี้ยงในฐานะลูกเลย ต่อให้เป็นแค่หลาน เอาเขามาแล้ว ก็ต้องดูแลเขา อย่าให้พี่ใหญ่ที่บ้านมาต่อว่าเราได้ว่า เอาลูกเขามาเลี้ยง ทิ้งๆ ขว้างๆ พี่เองก็ไม่สบายใจนะ ที่มาคุยกับศาลเรื่องนี้ 
พิพัฒน์วางหูไปนานแล้ว แต่พิศาลยังนั่งมึนอยู่กับที่ ทำไมนะ ทำไมเพียงเพ็ญถึงได้กลายเป็นคนอย่างนี้ไปได้ 
เย็นนั้น พิศาลกลับบ้านด้วยความหงุดหงิด สิตายังไม่ถึงบ้าน มีแต่เพียงเพ็ญ 
พิศาลไม่รอช้า พอเห็นหน้าเพียงเพ็ญ อารมณ์ คุกรุ่นมาแล้วทั้งวัน เลยระเบิดใส่เพียงเพ็ยแบบไม่ให้เพียงเพ็ญตั้งตัว
เก่งมากๆ เก่งมาก หน้าตาซื่อๆ นี่แหลละน๊า ที่โบราณเขาว่า แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง
จะทำอะไรไม่เห็นแก่คนอื่น ก็น่าจะเห็นแก่หน้าฉันบ้างนะ ฉันอายจนไม่กล้ามองหน้าใครอีกแล้ว รู้มั้ย
เพียงเพ็ญองหน้าพิศาลด้วยความงุนงง  สีหน้าของเพียงเพ็ญนอกจากไม่ทำให้พิศาลสบายใจขึ้นแล้ว กลับเพิ่มความหงุดหงิดให้พิศาลมากขึ้น 
เออ มองเข้าๆ ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ ทุกอย่างฉันรู้หมดแล้ว ใจนะใจ ทำกับอะไรน๊า ถึงได้ต่ำช้าสามานย์อย่างนี้
นี่คุณ  จะด่าจะว่า ก็ขอให้คนถูกว่า เขารู้เรื่องบ้างสิค๊ะ ปาวๆ อย่างนี้ เพ็ญอายชาวบ้านเขานะ
อ้อ ทีอย่างงี้ รู้จักคิดอายชาวบ้าน แต่ทิ้งๆ ขว้างๆ ลูกเขาให้อยู่คนเดียว ซ้ำเด็กไม่ได้ทานข้าวเย็นอีก นี่ทำไมไม่รู้จักอาย พิศาลย่างสามขุมเข้าหาเพียงเพ็ญ อย่างโกรธจัด
เปรี๊ยะ !  โดยไม่ทันคาดคิด ฝ่ามือพิศาลฟาดลงบนแก้มเพียงเพ็ญเต็มแรง
และโดยไม่ทันให้ เพียงเพ็ญได้พูดจา พิศาลก็ออกจากบ้านไป
ทิ้งเพียงเพ็ญอยู่กับความเจ็บปวด โดยไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
นี่คือ เหตุการณ์ครั้งแรก ที่เพียงเพ็ญต้องเจ็บตัว สาเหตุจากเด็กขี้ฟ้องคนหนึ่ง หน้าตาเธอสวย ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า เด็กบ้านนอกคนนี้จะมีพิษสงร้ายกาจถึงเพียงนี้  เมื่อเพียงเพ็ญรู้สาเหตุ จิตใจเธองดงามเกินกว่าจะเอาเรื่องเด็กสาว เธอคิดง่ายๆ เพียงว่า ใหนๆ เธอก็เจ็บตัวไปแล้ว ต่อให้อธิบายให้พิศาลเข้าใจตอนนี้ ความเจ็บปวดก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปได้ และเธอเจ็บคนเดียว ย่อมดีกว่า ต้องทำให้ พิศาลซึ่งรัก สิตา ดั่งแก้วตา ต้องมาเจ็บปวดอีกคน สำหรับสิตา เพียงเพ็ญยกโทษให้ เพราะ คิดว่า ตัวเองได้ทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวจริง แม้ว่า เด็กจะบอกว่า อยู่ได้ แต่เธอก็ไม่ควร เธอไม่ได้คิดเกลียดเด็กคนนี้ นอกจาก บอกตัวเองว่า จะไม่ให้เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นกับเธออีก แต่เธอประเมินสิตาต่ำไป ยิ่งเธอไม่พูด สิตายิ่งได้ ใจ แล้ว ก๋วยเตี๋ยวน้ำ จะเขียนเล่ามาอีกในตอนต่อไปค่ะ 				
19 สิงหาคม 2548 19:20 น.

เด็กซนคนหนึ่ง

ก๋วยเตี๋ยวน้ำ

เด็กบ้านนอกจนๆ ซนๆ คนหนึ่ง เธอเกิดมายามครอบครัวตกอับ ยากจนแสนสาหัส แต่เพราะความจนสอนให้เธอสู้ สอนให้เธอกล้า สอนให้เธออดทน เธอฝ่าฟันหลายๆ อย่างในชีวิตมาอย่างโลดโผน ตอนนั้นจำได้ว่า เธออายุแค่ 10 ขวบ เธอและน้องตามคุณพ่อไปค้าของหนีภาษี ที่คนแถวบ้านเธอทำกันเหมือนเป็นอาชีพปกติ  วันนั้นบนบ่าเธอมีถุงข้าวสารหนักมากสำหรับวัยขนาดเธอ ข้าวสารถุงนั้นราคาบ้านเรา 50 บาท แต่จะแปรเปลี่ยนเป็น 100 บาท ทันทีที่ข้ามพ้นรั้วลวดหนาม เป็นวันแรกที่เธอและน้องตามพ่อออกมาทำงาน ก่อนออกจากบ้านเธอเริงร่าลิงโลด ได้ออกไปเที่ยวแล้ว เธอร้องบอกตัวเองในใจ อกพองโตด้วยความดีใจ เพราะเธอไม่เคยมีสิทธิได้ออกไปเที่ยวใหน ด้วยภาระและฐานะพี่ใหญ่ของบ้าน ชีวิตเธอจึงพบแต่คำว่า หน้าที่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆตั้งแต่เกิดจนป่านนี้ เธอไม่เคยลืมคำว่าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ลูก หน้าที่พี่ หน้าที่เพื่อน และต่อๆ มาในฐานะหน้าที่เมีย และหน้าที่สำคัญที่สุด แม่
พ่อบอกเธอหลังจากลงจากรถประจำทางว่า เราจะต้องเดินเท้าเข้าป่าไปทางนี้นะ ถ้าเจอตำรวจ ให้วิ่งไปคนละทางกับพ่อนะ ถ้าโดนจับจะได้ไม่โดนทุกคน พ่อบอกว่า พ่อจะไปทางขวา ลูกและน้องไปทางซ้าย เธองงมาก วันแรกของการทำงาน เธอไม่รู้จักทางเลย จะทำอย่างไงถ้าต้องเจอตำรวจ เธอตอบไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่เธอเร่มทำทันทีคือ อ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าประคุณ! ช่วยลูกด้วย ขออย่าให้เจอตำรวจเลย ลูกไม่รู้จักทางเลย จะให้วิ่งไปทางใหน วันนั้นคำอ้อนวอนของเธอสัมฤทธิ์ผล ไม่เจอตำรวจ ทุกอย่างราบรื่น ต่อๆ จากนั้นไป ทุกอย่างสบายมาก เธอเริ่มรู้จักทางแล้ว ต้องพลัดหลงกับพ่อก็ไม่กลัว  ไปเองลำพังกับน้อง อายุต่างกัน 2 ขวบ 10 และ 8 ขวบ เธอไม่เคยกลัว ไม่เคยท้อ ปิดเทอมสำหรับเธอและน้อง หมายถึง เวลาทำงานเต็มทุกวันสำหรับเธอ เธอทำด้วยความสนุก ด้วยความสำนึกในหน้าที่ ที่ต้องช่วยพ่อช่วยแม่หาเงินเลี้ยงน้อง อยากจะบอกว่า เพราะจิตใจที่เธอยึดมั่นในกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ สำนึกที่รู้ว่าตัวเองคือ พี่ เธอจึงไม่เคยตกอับ แม้ยากจนเธอก็ได้เรียนหนังสือ บ่อยครั้งที่เธอแหงนมองท้องฟ้า เธอบอกตัวเองว่า สักวัน สักวัน ฉันจะต้องได้นั่งเครื่องบิน ยามเธอเดินผ่านบ้านสวยๆ ของคนอื่น เธอก็หมายหมาดว่า สักวัน ฉันต้องมีบ้านสวยๆ แบบนี้อยู่บ้าง เธอฝัน ฝันของเธอไกลตัวเหลือเกิน แต่เธอก็มีความสุขที่ได้ฝัน 
วันนี้เหตุการณ์ผ่านมาแล้ว 40 ปี เธอมีทุกสิ่งที่เธอฝันจริงๆ ด้วยลำแข้งความความสามารถของเธอเอง  น่าภูมิใจนะ เธอไปมาแล้วเกือบทั่วโลก นั่งเครื่องบินจนเธอเบื่อ นี่คือเธอ เด็กซนๆ คนหนึ่ง				
19 สิงหาคม 2548 18:32 น.

แค่ก๋วยเตี๊ยวน้ำ

ก๋วยเตี๋ยวน้ำ

ชตาฟ้าลิขิต ให้ฉันมาพบเธอ เริ่มแรกฉันไม่เคยคิดว่า เราจะมาไกลถึงเพียงนี้ มาวันนี้ 1 ปี เต็มที่ฉันและเธอรู้จักกัน เธอเป็นกำลังใจสำคัญของฉันมาตลอดเวลาที่เรารู้จักกัน ยามฉันหัวเราะฉันมีเธอร่วมหัวเราะ ยามฉันร้องไห้ ฉันมีอกเธอคอยซับน้ำตา ฉันทราบตลอดเวลาว่า ฉันเป็นแค่รอง เธอมีเจ้าของ บ่อยครั้งที่ฉํนอยากหลีกหนีหน้าเธอ แต่พอนึกถึงความสุขที่เราเคยมีร่วมกัน ความเห็นแก่ตัวก็สิงหัวใจ ฉันไปใหนไม่รอด เราผูกพันกันลึกซึ้ง ฉํนเป็นของเธอ เธอเป็นของฉัน ฉันเคยบอกว่า ขอแค่หลืบเล็กๆ ในซอกหัวใจเป็นที่ซุกใจอันบอบช้ำนี้ เธอบอกว่า มีที่ๆ ปลอดภัยสำหรับฉัน ฉันมีความสำคัญสำหรับเธอ เธอคงไม่รู้ว่าฉันแอบปลื้มขนาดใหน ใจช้ำๆ มีคนคอยปลอบโยน เธออ่อนหวานนัก อ่อนโยนมาก จนฉันเสพติด ฉันไม่ทราบและไม่กล้าเดาอนาคตของเรา เธอเปรียบความรักเป็นเหมือนอาหาร เธอบอกว่า คนเรากินข้าวทุกวัน ก็ต้องมีบ้าง ที่อยากกินอย่างอื่นบ้าง ฉันเคยบอกว่า ฉันขอเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ ยามเธอเบื่อข้าว แต่เธอก็ไม่เคยเบื่อข้าว ว่าไปแล้วข้าวคืออาหารหลัก ก๋วยเตี๋ยวสิ เป็นแค่อาหารว่างของคนหลายๆ คน ฉันจึงเป็นได้แค่ก๋วยเตี๋ยวน้ำ สำหรับเธอ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก๋วยเตี๋ยวน้ำ
Lovings  ก๋วยเตี๋ยวน้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก๋วยเตี๋ยวน้ำ
Lovings  ก๋วยเตี๋ยวน้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก๋วยเตี๋ยวน้ำ
Lovings  ก๋วยเตี๋ยวน้ำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก๋วยเตี๋ยวน้ำ