29 พฤษภาคม 2551 10:42 น.
ก้าวที่...กล้า
ตึกตัก.. ตึกตัก.. ตึกตัก..
ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ที่รายล้อม
ฉันยืนนิ่งฟัง มันไม่ใช่เสียงหัวใจฉัน
หันมองไปทางซ้าย ย้อนกลับไปทางขวา หมุนตัวมองรอบๆ
ไม่เห็นมีใคร??
ตึกตัก.. ตึกตัก.. ตึกตัก..
ฉันยืนนิ่ง พยายามใช้โสตสัมผัส
ที่ 9 นาฬิกา ฉันเดินไปทางเสียงนั้น
ตึกตัก.. ตึกตัก.. ตึกตัก..
เสียงชัดขึ้น ชัดขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
แต่ฉันไม่เห็นใครสักคนเดียว
น้ำค้างพรมลมหนาวเริ่มหนาวแล้ว
เสียงมาจากดอกไม้ดอกนั้นนั่นเอง
ฉันพยายามลำดับชื่อดอกไม้นานาชนิดที่เคยรู้จัก
ลำต้นสีน้ำตาลดูแข็งแรงรองรับกิ่งก้านใบแบนเรียบสีเขียวเข้ม
ก้านดอกยาวได้สัดส่วนรับกับกลีบดอกสีฟ้าอมเทา
ไม่มี!! ฉันไม่รู้จักชื่อของดอกไม้นี้
ณ บัดนั้นดอกไม้นั่นก็ได้เข้ามาแทรกซึมในมโนสำนึกของฉัน
ฉันยืนมองและฟังอยู่เงียบๆ
ถึงดวงแก้วห่างหายไม่หายสูญ
ยังร่องรอยแรกเริ่มให้เพิ่มพูน
แม้อาดูรใจนักในรักนั้น
ฉันชอบและฉันก็รู้สึกเห็นด้วย
ถึงดวงแก้วห่างหายไม่หายสูญ
ยังร่องรอยแรกเริ่มให้เพิ่มพูน
แม้อาดูรใจนักในรักนั้น
ทำไมฉันถึงได้ยินเสียงจากดอกไม้นี้ แล้วดอกไม้อื่นๆล่ะ
ฉันหันมองไปรอบๆเห็นดอกไม้นานาชนิดยังคงเบ่งบานสวยงามอยู่เช่นเดิม
แต่ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใด นอกจากดอกไม้ดอกนี้
ฉันยืนนิ่งยิ่งนานขึ้นเท่าไร ฉันก็ยิ่งซึมซาบมากขึ้นเท่านั้น
นั่นจึงทำให้ฉันรู้สึกว่าได้หลงรักดอกไม้ที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเข้าแล้ว
หรือฉันจะเป็นบ้าไปแล้ว
ฉันขยับตัวเอี้ยวไปข้างหน้า โน้มตัวลงไปตั้งใจจะเด็ดดอกไม้นั้น
ถ้าฉันทำเช่นนั้นมันถูกแล้วหรือ ใช่!! ฉันพอใจที่จะทำเช่นนั้น
แต่ดอกไม้นั่นล่ะ จะรู้สึกเช่นไร จะพอใจในสิ่งที่ฉันกำลังคิดจะทำอยู่นี่ด้วยหรือเปล่า
ชั่วขณะในความคิดทำให้ฉันถอยหลังกลับมายืนที่เดิม
ฉันยืนอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ฉันควรจะกลับเสียที
ฉันไพล่ไปนึกถึง วลี เอ๊ะ!! หรือจะเป็นประโยค
ประโยคที่ต้องมี ประธาน กิริยา กรรม ...กรรม
หากดอกไม้เป็นกรรม ฉันเป็นประธาน แล้วอะไรเป็นกิริยา??
ประโยคที่เคยได้ยินบ่อยๆว่า
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่งานเลี้ยงแต่จะมีอะไรแตกต่างกันล่ะ
ในเมื่อฉันก็ได้ดื่มด่ำ..เฉกเช่นกัน
แต่ฉันก็ยังอยากจะอ้อยอิ่ง รอคอย
ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารอคอยอะไร
หรือฉันจะเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ
.. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. .. ..