3 ธันวาคม 2548 20:59 น.

จรจัดไหม

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

1. การเดินทางที่ไม่ต้องเดินทางของผมเริ่มขึ้นแล้ว

    ผมต้องไปเมื่อผมรู้สึกว่าการอยู่กับที่คือภาวะอันน่าเหน็ดเหนื่อย
    สิ่งที่ผมรู้สึกคือการเดินทางครั้งใหม่จะเป็นการพักผ่อนหัวใจที่รื่นเริงที่สุด


2.  สัมภาระในกระเป๋าย่ามของผมพร้อมแล้ว
     และหัวใจของผม..ก็พร้อมแล้ว


3.  วัย 40  เป็นวัยที่เหมาะแก่การจรจัดอย่างยิ่ง

     ผมขยับจะก้าวก็พลันนึกเข้าข้างวันและวัยของตัวเอง  

     ว่าสมควรต้องไปเสียที



     ใช่แล้ว..ป้ายไม้เก่าคร่ำบอกเส้นทางตรงมุมถนนนั้นระบุว่า

      ทางที่ผมจะเลือกจรจัดคือ..



      เส้นทางสายวรรณกรรม				
2 ธันวาคม 2548 05:59 น.

ได้ยินที่พ่อพูดไหม

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

1.  ฉันจน

     คือคนวงศ์ไพร่ไร้ทรัพย์สิน

     ต่อชีวาข้างถนนคนหากิน

     เอาเหงื่อรินแลกปัจจัยไว้เป็นทุน

 

2.  ฉันเจียม

     ผิวเกรียมเป็นขุยกระราวขนุน

     ล้วนดำด่างหาใช่สีคนมีบุญ

     บ่ละมุนละไมชวนให้ยล

 

3.  เพียงฉัน

     มีฝันรอคืนวันผลิผล

     กับมีรักราวพันธะต่อกมล

     สืบวงศ์ชนซึ่งใจนั้นใฝ่ดี

 

4.  มีฝัน

     เชื่อมั่นท้นใจบ่หน่ายหนี

     รักบ่เคยเลือนกับเดือนปี

     ชีวิตฉันมีใจมั่นคง

 

 

 

5.  ต่อฝัน

     ลูกขวัญสุขสัมฤทธิ์สมประสงค์

     ภาคภูมิแม้เกิดมากับป่าดง

     ได้ดำรงชีพงามตามหัวใจ				
30 มิถุนายน 2548 22:33 น.

::ช่วง::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

1.   ผมพอจะพูดได้ว่าผมชมชอบการอ่านข้อเขียนในเว็บบอร์ดต่างๆ
      พอๆกับการอ่านหนังสือเล่ม
      เพราะสะดวก กับมีอะไรใหม่ๆทุกวัน
      
      ผมอ่านจนติด
      ติดแนวการเขียน
      และติดตามเสมอว่าวันนี้เขาจะเขียนอะไรให้อ่าน
      ก็คุ้นชินเสียจนบางวัน  หรือหลายวันที่เขาไม่เขียนผมรู้สึกโหวงเหวง
      เหมือนขาดอะไรบางอย่าง

2.    ผมพอจะพูดได้ด้วยว่าผมชมชอบการเขียนในเว็บบอร์ดต่างๆ
       พอๆกับการเขียนด้วยเป้าหมายที่จะทำหนังสือเล่ม
       เพราะมันสะดวก  ที่จะลงเรื่องใหม่ ๆ ได้ทุกวัน

        ผมเขียนจนติด
        ได้แสดงความเห็นต่องานที่อ่านสักบรรทัดก็ยังดี คือได้ความรู้สึกดี
        

3.     แต่ถึงวันหนึ่ง  ผมกลับเขียนไม่ออก
        รู้สึกโหวงเหวง เหมือนชีวิตขาดอะไรซักอย่าง
        
         
         เมื่อบีบ..ให้ตัวเองเขียน 
          น่าขัน..ที่พอมันไปได้ 3 บรรทัดเท่านั้นผมก็ทนความรู้สึกอันชืดจืด  
          ของตัวเองไม่ได้

4.      คงโชคดีอยู่บ้างที่ผมเขียนรูปได้
         ผมร้องเพลงเป็น
         เล่นดนตรีบางชิ้นได้
         กับมีหนังสือที่ชอบหลายเล่มอยู่บนชั้นหนังสือ


         ไม่งั้นมันคงเคว้งคว้างพิลึก....


5.       กับคนที่หายไป
           ผมคิดว่าเข้าใจ..

           
6.        แต่กับบางช่วง  คนเราก็จำเป็นต้องห่างไกลออกไป
           เพื่อจะไม่ต้องอยู่ในสายตาใคร
           แม้จะมีเยื่อใย   มากมายเพียงใด				
26 มิถุนายน 2548 14:57 น.

::ละครในทำเนียบฯ::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

@  โดยถนัดจัดฉากกระชากช่วง          จริงเป็นลวงล้นเลศครองเขตเขลา
      มือพระกาฬเก่งมารยามานานเนา    รวมกลุ่มเข้าซ่อนกรรมอันอำพราง
@  วางชั้นเชิงฉานปานองค์อินทร์         แต่แอบกินโดยฉลฉ้อมีข้ออ้าง
      ซ้อนหมากบังตาเหลี่ยมหนาบาง      มากพลพรรคเลยกร่างกลางสกล

@  ครั้นหมากผลข้องขัดก็งัดง้าง          เปลี่ยนขั้วเปลี่ยนข้างพรางกรรมฉล
      ยกละครน้ำใสชวนไปยล                 น้ำเน่าท้นท่วมถ้วนทำเนียบฯไทย


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------				
17 พฤษภาคม 2548 02:13 น.

::ยกมาแบ่งปันกันอ่านครับ::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

1. ( กลอนแบบบรรยายโวหาร)


   หลังห้องชุดห้องนั้นบนชั้นหก
ก่อปูนยกเป็นกระบะแทนกระถาง
มีสวนหย่อมกระทัดรัดถูกจัดวาง
เป็นม่านพรางแดดจ้าบังตาคน

   โมกสามต้นเรียงพุ่มทางมุมขวา
พุดพัดชาซ้ายซีกอีกหนึ่งต้น
มะลิซ้อนแทรกกลางช่างน่ายล
กลิ่นหอมจนใจชื่นทั้งคืนวัน

   เทียนฝรั่งหลากสีที่โคนโมก
บัวดินโบกก้านไหวใต้พุดนั่น
พลูฉลุเลื้อยลอดกอดเกี่ยวพัน
คือฉากอันงดงามยามได้มอง

   พุดกับโมกที่เรียงกลุ่มเป็นพุ่มโปร่ง
มีช่วงโล่งพอเหมาะเจาะเป็นช่อง
เห็นพระธาตุคู่เมืองงามเรืองรอง
เปล่งสีทองระยับระยิบลิบลิบตา

   ดอยสุเทพสูงเด่นเป็นฉากหลัง
เติมมนต์ขลังทิวทัศน์เมืองตรงเบื้องหน้า
ทุกครั้งที่อ่อนระโหยฝันโรยรา
เพียงแวะมาเหนื่อยนั้นก็บรรเทา

   บางครั้งมีนกน้อยคอยส่งเสียง
นั่งอยู่เพียงลำพังยังไม่เหงา
ยิ่งมุมนี้ส่วนหนึ่งคือฝีมือเรา
จึงเทียบเท่ากับโลกฝันอันเป็นจริง
   

บทประพันธ์นี้เขียนโดยคุณเวทย์ - - 17/1/2547  ที่ ป.พ.ส.

   ผมขออภัยคุณเวทย์ที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อน
   แต่ความประสงค์ของผม คือยกมาเพื่อประโยชน์
   แก่มิตรที่ศึกษาเรื่องการเขียนกลอน


ขอบคุณครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์