25 พฤศจิกายน 2550 15:09 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.อา...จันทร์แจ่มจ้าจัง
มองฟ้าดังบ่มีดาว
คืนโน้นจันทร์บ่วาว
ฉันเห็นดาวกระพริบพราย
บางสิ่งซึ่งแสนสว่าง
ทำให้บางสิ่งหลุบหาย
ขณะบางสิ่งเรียงราย
หลายหลายสิ่งเลือนสลัว
หลายสิ่งยิ่งกล้าฉกาจ
บางสิ่งยิ่งดูขลาดกลัว
บางสิ่งแลเห็นได้ทั่ว
ทำให้หลายสิ่งซ่อนตัว.. เฉา
2..
8 พฤศจิกายน 2550 04:49 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ตื่นมาหัวเช้าเห็นดาวเต็มฟ้า
อิ่มเอมเต็มตาดาราเรียงฉาย
ดาวสิงห์ยังอยู่พร้อมหมู่ดาวราย
ดาวหมาเหมือนหายดาวร้ายหลุบเหลือ
ดาวผีดาวพรายดาวควายดาวเรือ
ยังยองมองเมื่อยามยังไม่รุ่งดี
2. อากาศเย็นสบาย ไม่ถึงกับหนาว
ตื่นเถิดเราแล้วก้าวออกมาจากที่
รับอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น แข็งขันทันที
เพื่อเริ่มงานวันนี้ ที่ต้องแข็งแกร่งทั้งวัน
3. ตื่นมาแต่เช้ายังเห็นดาวเต็มฟ้า
ต่อเส้นดาริกาเชื่อมเป็นม้าเป็นขัน
ดาวที่ร่วงที่โรยแกมโหยดาวทั้งนั้น
ลับลาด้วยตาวันกลับเห็นกันยามค่ำคืน
4.
6 พฤศจิกายน 2550 17:02 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.อากาศเย็นแต่หัวค่ำ
ลมต้นหนาวพัดมาเพียงพลิ้วแผ่ว
กลิ่นข้าว หอมมาจากนาไม่ไกล
เคล้ากับกลิ่นควันจากกองไฟไล่ยุงให้วัวของยาย
กลายเป็นกลิ่นของความคุ้นเคยที่อ่อนโยนต่อหัวใจเยือกเย็น
2.แนวดาวพาดฟ้าเป็นทาง
แม้ดึกหมอกจะหนาทำให้เห็นหลัวรางแต่ดาวก็แจ่มใจ
เหมือนคนบางคนที่บ่นหา
เพียงแต่นึกใบหน้าก็แจ่มใส
ยิ้มนั้นดาลยิ้มแย้ม
เหมือนเหมือนรักไม่เคยแรมลาไป
ช่วงหนาวนั้นดาวจึงอุ่น
เพราะความรักที่เคยคุ้นยังอุ่นหทัย
ฝากคำมาถามมาทัก
ถึงช่วงหนาวนี้ความรักของเราเป็นไง
3.