26 เมษายน 2549 00:45 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
๏ ดาวรายในค่ำนี้...............งามเหลือ
ใจห่อนมีขุกเจือ............แต่น้อย
อันบังบดเป็นเบือ........เมฆห่าง แลเฮย
ยลหมู่ดาวพร่างพร้อย..อิ่มเอื้ออวยถวิล
๏ เรียมยินหรีดหริ่งร้อง.........ราวเหริง
ฟังกล่อมกมลบันเทิง....เยี่ยมแท้
ดวงมาลย์ซ่านสะเริง.....ราวอิ่ม ทิพย์นอ
ชลอรุ่งเอมอกแล้........อย่าเร้นราหาย
๏ ดาวรายเรียมรื่นซึ้ง................ทรวงแสน
ใจห่างอย่างเขตแวน.........เวี่ยว้าง
คืนวันหวั่นขอบแมน........ไกลห่าง กันฮา
ดาวห่อนดาลอกคว้าง.......ค่ำนี้คลายหมอง
24 เมษายน 2549 20:48 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
สหาย..
เราเองล้มไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
คลุกคลานอยู่ตลอดเวลาแห่งช่วงชีวิต
ทุกครั้งที่ล้ม
เราไม่เคยหลั่งน้ำตา
และเราไม่เคยคิดว่าพ่ายแพ้
มันคือสภาพการณ์ที่เราจัดการมันได้น้อยไปเท่านั้นเอง
ก็อะไรสามารถอยู่ในอาณัติของเราได้จริง ๆ
และมีอะไรจริง ๆ ที่เราสามารถกำหนดเอาเองได้
จากกำลังเงิน อิทธิพล หรือเล่ห์ของเรา
มันเป็นเพียงบางสิ่งอย่าง
มันไม่ใช่ทั้งหมด
ก็เมื่อเรารู้เช่นนั้น
เราจักร่ำไห้ หรือหลั่งน้ำตาทำไม
เราลุกขึ้นใหม่ทุกครั้ง
เราไม่ย่ำย้ำรอยเดิมเลย
ถ้าจะยอมเป็นทาสของการเปรียบเทียบ
ก็ลองเปรียบดูเถิด
เราด้อยกว่าสหายในทุกทาง
แต่เราไม่เคยตัดพ้อความแร้นแค้นของชีวิต
ด้วยความทุกข์ระทมขมขื่นเลย
เราผ่านและยิ้มให้มันเสมอ
21 เมษายน 2549 06:21 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
๏ ทบรอยอันย่นแล้ว................นอหนัง
ผิวผ่องกลายกร้านดัง.........ผื่นด้าน
คำชมกร่อนเป็นชัง..........ชอบเปลี่ยน ฤาเฮย
บางสิ่งทวนขื่นต้าน.........ห่อนเอื้อวงฝัน
๏ ตะวันจันทร์แต่งให้..............ฤาหือ
อันแจ่ม บ กระพือ.............เผื่ออ้าง
อันมัวเร่ง ระบือ..............โดยห่อน โรยแฮ
วนหวั่นเวียนอ้างว้าง.....หน่วงช้ำเนืองเฉา
๏ โอเราคงยิ่งล้า.......................ทรวงหลอน
ขวบขุกหนึ่งอาภรณ์............ห่มหุ้ม
ขวบฝันกี่ขวบหอน..........โหยอยู่ นอ-ฮา
ไกลฝั่ง? ใยโอดกลุ้ม.....ตลิ่งใกล้ครืนแขยง ๚
19 เมษายน 2549 23:15 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
โลกของฉันนั้นเหว่ว้า
มาจากบ้านไร้หลังคาหลังใหญ่
ทรัพย์สินสมบัติคือขลาดเขลา
สวรรค์ประทานเหงาและอ่อนไหว
ก้าวย่างห่างอกแม่
จวบวันนี้ก็มีแต่จะต้องไป
ไปสู่อะไรสักอย่าง
ที่ซึ่งปลายทางอยู่แสนไกล
ไม่ผิดหากเรียกว่าเร่ร่อน
เพราะเรือนชานบ้านนอนหามีไม่
หลบหลับกับสุมทุม
ยุงหยอกยุงรุมไม่เท่าไร
คนหยอกกลับขยาด
เล่ห์หลอกแหมบาดเจียนหมดใฝ่
เส้นทางเราทับกัน
เธอคงไม่เหยียดฉันหรอกใช่ไหม
แม้นหยันฉันคงเฉา
มิรู้จะเร้นเงา ณ ที่ไหน
แม้นเอื้อพอหายเหงา
จะตอบแทนเธอเท่าความเบาใจ
พรุ่งนี้ก็จะลา
ทนหน่อยหากเบื่อหน้า..อย่ารีบไล่
ที่สุด แม้นใยดี
เราต่างรู้ว่ามี.. อันต้องไป
17 เมษายน 2549 16:14 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ลำอูน เอื่อยไหล ไม่ขาดสาย
เหลียวเห็น ลับหาย ไปหลากหน
แมกไม้ เนินฝั่ง บังสายชล
เหมือนคน ชอบ-ชัง บังสายตา
2. อูนเย็น อยู่อย่าง น้ำค้างเย็น
ท่ามร้อน ลำเค็ญ ของสุ่มหล้า
เยือนย่อม ยินดี และปรีดา
สมทรวง ห่วงหา แห่งข้านัก
3. เถิดเพื่อน ล่องแพ ให้เพลินเพลิน
เหน็ดเหนื่อย เหลือเกินใ นงานหนัก
สังคม ไร้ทาง ให้ร่างพัก
โลกไร้ ที่รัก ที่พักใจ
4. ยินนก นี่นั่น นองคุ้งน้ำ
เพลงนก เนื่องฉ่ำ หทัยไหว
นอกร้อน ใช่เล่น หากเย็นใน
น้ำไหล เนื่องริน หอมกลิ่นน้ำ
5. เติมฝัน เติมไฟ ด้วยไมตรี
จารบท- กวี ที่หวานล้ำ
ไกลกัน วันใหม่ มีหมายจำ
ร้อยคำ เลอค่า ต่างหน้าเรา
6. ลำอูน เอื่อยไหล ไม่ขาดสาย
น้ำมิตร บ่หาย ในโลกเขลา
เยื่อใย บางอย่าง อาจจางเบา
ใยโยง รักเรา บ่โรยเลือน