31 มกราคม 2549 21:01 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ข้ายังเป็นพลเมืองอยู่หรือไม่
ณ ดินแดนประเทศไทยอันไพศาล
หรือข้าเพียงโดนกักให้ดักดาน
ในกรงกรอบเศษทานเขาหว่านโปรย
2. หรือยิ่งประเทศก้าวออกไปไกล
พลเมืองที่อาศัยยิ่งหิวโหย
ยิ่งเจริญโดยรอบยิ่งกอบโกย
เร่งออกกฎตีโบยประชาชน
3. ดูเถิด..นั่นโน่นลองนับหน้า
เป็นแผงพรึบพงศาและชุมฉล
และนี่นั่นนู่นโน้นบ่โพ้นกล
เขาจับกินผู้คนวันเรียงวัน
4. ฤาข้ายังเป็นพลเมืองไทย
ตราบที่ใครหมายเพียงเสียงสวรรค์
หมดหน้าที่นี้ก็เป็นหมดกัน
เพียงสืบชั้นช่วงชิดอยู่ติดตีน
ฯ
28 มกราคม 2549 19:58 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เอ็งจนเอ็งจงจ่ายภาษี
ข้ารวยบ่มีหน้าที่จ่าย
กฎเกณฑ์กี่แบบล้วนแยบคาย
อวยเอื้อเพื่อนายบ่อายชน
2. ใครอื่นแค่คิดก็ผิดกฎ
รวยเป็นยกเว้นหมดละโทษฉล
เงินเอียงตราชูหลอกหมู่คน
เกลื่อนสกลฉ้อชาญคือการไทย
3. เมื่อกลกิจการเมืองเรืองจำรูญ
ชาวชนก็สิ้นสูญบ่อนอาศัย
รากหญ้าทุกข์เต็มทีไร้ที่ไป
ฤาถึงกาลทวยไท จะทวงธรรม
26 มกราคม 2549 05:32 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ชนอันมากในประเทศของเราไร้อันกิน
แลกเหงื่อเพื่อชีวินเป็นประมาณ
ขายแรงกับกายหมายอาหาร
บ้างรอเศษทานเขาโยนให้
บริบทล้วนบีบบดคนจน
มองเห็นความสับสนแห่งสมัย
ด้วยว่าคนต่างไร้ที่พึ่ง
หลักการใดหลักหารหนึ่งล้วนเคลือบภัย
ภัยจากการกัดกินตนเอง
จึงได้เห็นความคว้างเคว้งกำจาย
2. ผู้นำของเรา
เก่งมารยาเรียกว่าเก๋าเหลือหลาย
ซ่อนเงื่อนอำพรางปม
หลอกให้ชนนิยมน้ำลาย
แท้แอบกระเดือกด้าว
ใครรู้โดนก้าวร้าวเจียนพ่าย
บีบเอาจากคนอื่น
หากตนเองกลับขัดขืนหลากอุบาย
โกงโดยอิงกฎเกณฑ์
ลิ่วล้อเล่นพิเรนทร์เลียนาย
ปกปิดและปิดกั้น
ประชาชนต่ำชั้นมีอันตราย
สังคมนี้กัดกินตน
หมุนเวียนในวังวนนี้บ่วาย
21 มกราคม 2549 08:03 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
คืนเย็นลมแผ่วพลิ้ว......พาฝัน
ยินไผ่ออดออกัน...........กล่อมเบื้อง
บางงามแต่งเพ็ญจันทร์..แลแจ่ม จริงแฮ
หอมอ่อนมาลาเฟื้อง.......เอ่ยอ้อนอิงเขนย
เดี๋ยวมาต่อ
ผมอ่านงานคุณอัลมิตราแล้วอยากเขียน
ต้องขอบคุณครับ
เสร็จภาระเรียนหนังสือจะกลับเข้ามาครับผม
20 มกราคม 2549 18:45 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
มาระกำแหงสิรุม
ขยุ้มกะจะขย้ำ
ประชาสิถูกกระทำ
บาปกรรมบ่ตกผู้ตี
มาระสะเริง บเกรง
นายมารขับเพลงกลี
บอกบท บเกรงคดี
บอกจงขยีหมู่ไท
----------------
ห้วงกาลนี้
เป็นห้วงกาลอันนายมารกำลังแสดงอำนาจบาทใหญ่
ด้วยบทบาทของผู้ชี้นำไผท
อันแท้เพียงอวยตระกูล