25 ธันวาคม 2548 06:42 น.

::เพราะเรื่อยเปื่อย 1::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.   ชะเอ่อเอิงเอยฉันไม่เคยเหงา
      ก็ฉันเหมือนใครเขาเสียที่ไหน

      เกิดมาเป็นคนตัวคนเดียว
      เดินทางท่องเที่ยวเหนือจรดใต้

      แรมรอนไปกับย่ามไม่ยุ่งเหยิง
      ฉันร่ำรวยความบันเทิงภายในใจ

      มีรักก็มีไม่ผูกมัด
      รักตัวเองมันชัดอ่ะใช่ใช่ใช่

      รักคนอื่นก็รักพอประมาณ
      รักมากเขารำคาญตะเพิดไกล

      ว่าเอ้อระเหยเลยเรื่อยเปื่อย
       แต่ในที่สุดก็เมื่อยไม่อยากไป

2.   จึงหยุดการเดินทางมานั่งนอน
       หยิบหนังสือบทกลอนอันหวานใส
      
       มาอ่านและอ่านอ่านดะดา
       วันละเป็นร้อยร้อยหน้า ทำได้

       อ่านอ่านอ่านพลันอยากเขียน
        ความคิดนั้นวนเวียนหมุนไว

       โคลงฉันท์กาพย์กลอนร่ายผญา
       โตงโตยก็ศรัทธาถึงภายใน

       แต่ความที่ติดคิดเรื่อยเปื่อย
       ฉันจะหยุดแรงเฉื่อยนี้ไฉน

       ชะเอ่อเอิงเอยเลยนั่งครวญ
       ก็ชักช้าจึงตกขบวนรถไฟ


      				
21 ธันวาคม 2548 21:35 น.

::เหมันต์ไหน ก็ บ หนาว ::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  หนาวไหมครับ
     
     ความจริงผมอยากถามคุณว่าไม่หนาวหรือ  มากกว่า

     เพราะคุณดู เฉย   มาก  ในขณะที่ผมเริ่มรู้สึกหนาวจนจะสั่น


     
2.  ความหนาวนี้ดีไหม
     

     

3.   คุณอาจไม่อยากตอบ

      แต่สำหรับผมแล้ว   ผมอยากพูดว่า     ผมชอบอากาศหนาว

      ทำไมหรือ

      ก็เพราะว่าผมจะได้ใช้เสื้อหนาผ้าห่มนวม
      ที่เก็บสะสมไว้ในตู้เสียที


    
4.   ในวัยหนุ่มอันว่างเปล่าของผม
       
       ผมอยากให้ฤดูหนาวผ่านไปอย่างรวดเร็ว

       ผมไม่อยากให้มีกลางคืนด้วยซ้ำ

       เพราะความฝันยามค่ำคืนนั้นทบซ้ำอยู่กับความปรารถนาที่ไม่เคยเป็นจริง



5.   ผมมาชอบความหนาวและราตรีกาลเอาตอนเข้าสู่วัยกลางคน..



     .. คุณกำลังจะหัวเราะในสิ่งที่ผมจะพูดหรือครับ


     .. คุณเดาสิ่งที่ผมจะพูดไม่ผิดครับ





        ก็อ้อมกอดของความรักนั้นอบอุ่นและเอมหัวใจ
        ลบความเหน็บหนาวเปล่าเปลี่ยว
        ในวันเวลาอันเดียวดาย   ได้เกือบถ้วนไง


6.    แต่ต้องเป็นอ้อมกอดของความรักนะครับ
       
       หาไม่แล้ว



        บางทีอ้อมกอดนั้นจะยิ่งเติมความเยียบเหน็บและเจ็บปวด


             
          

       				
20 ธันวาคม 2548 06:56 น.

::วิชันอินเทรนด์ 4::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  ชวนมาชมวิชันอันเฉิดฉาย
    นโยบายบิหารการศึกษา
    ในขอบเขตนิเวศรัฐนาวา
     นามใต้แลนด์นัครานิรไท

2. โดยแบบบทบรรทัดฐานบานบุรี
      คือบ่มีปรัชญาให้อาศัย
      ประชากรวัยเกินจำเริญวัย
      เหมือนนิ่งใบ้เลิกนิยมอุดมการณ์

3. ปล่อยนายรวยห้าร้อยระริกเหลิง
    เล่นเถิดเทิงโกยกำไรอันไพศาล
    สำลายครูผู้ชูชนมาช้านาน
    ให้เป็นเพียงพนักงานสืบนคร

4. กับให้โยกสังกัดจนสัดส่าย
    ขึ้นต่อนายใต่โผสโมสร
    ให้ครอบได้ทั่วแคว้นแมนอมร
    สัมฤทธิ์คงเถลิงพรโอ่รำพัน

---------------------------

5.  ในบ่นานจักเห็นประเด็นดัง
        ยุวชนบ้าคลั่งนี่โน่นนั่น
        โดยเบ้าแบบบ่มปัญหามานานวัน
        คือแข่งกันเป็นระบอบต่างกอบโกย

6.     หนังสือเรียนคือสินค้าแต่งมาขาย
        คนออกแบบทั้งหลายคือเสือโหย
        ลูกตาสีตาสาไม่กล้าโวย
        แม้แบบเรียนโหลยโท่ยก็ทนซื้อ

7.    เจ็ดสิบเจ็ดจังหวัดจัดต่างแบบ
       รัฐอิงแอบพ่อค้าบ่กล้าหือ
       ช้าทุกช่วงรัฐจึงอ่อนถูกต้อนตือ
       แม้ตีนมือมีก็เปลี้ยเสียเชิงชาญ

8.    หนังสือรัฐเด่นดีไม่มีใช้
       การศึกษาถึงสมัยอวสาน
       ฤาออกแบบวงชนจนเขลานาน
       เพื่อครอบบ้านครองเมืองเรืองตระกูล

------------------------

9.     ตัวแทนประชาชนราวคนใบ้
        สติปัญญาใกล้กาลเสื่อมสูญ
        เจียนเป็นชนสอพลอบริบูรณ์
        เงินเขาทูนยศเขายอก็หลงทาง

10.   เห็นแต่ช่องช่วงชิงอิงอำนาจ
        กินสินบาทคาดสินบนหัวชนหาง
        รีดภาษีคนจน-ตนพุงกาง
        หลอกเอาเงินโดยพลางกลพนัน

11.   รู้ช่องเห็นช่วงลวงรัฐราษฎร์
        ผันโอกาสแก่พงศามากมหันต์
        โครงการยักษ์คนว่า"ยัก"รู้จักกัน
        ใครรู้ทันเป็นโดนเฉดพ้นเขตเทียว

12.   การศึกษาอันอุ้มชูสังคม
        ปล่อยติดตมตกถนนไร้คนเหลียว
        ผลักเพื่อยัก-ไสเพื่อแอบหยิบแบบเดียว
        ยุเหล่าราษฎร์ปีนเกลียวจนอ่อนแรง

13.    ประชาชนอ่อนแรง ก็แข็งครอบ
         อวยระบอบเงินคั่วทุกหัวระแหง
         ผูกขาดครบแห่งหนไร้คนแซง
         คนหัวใสเห็นแจ้งชัดแลโชน

-----------------------------------------------

14.  กระตุกต่อมสำนึกให้สำเหนียก
       ก่อนสังคมปวกเปียกเป็นค่างโขน
       จนดูแคลนครูบาบูชาโจร
       กิริยาหยาบโลนบ่แจ้งคุณ

15. เหลิงยศหลงศักดิ์แล้วกักขระ
      ใครทัดทานพาลดะฉะทวนฉุน
      ไพล่คิดว่ากรูนี้คนมีบุญ
       แลกลุ่มกรูออกทุนควรเทิดเทอญ

16.   ใครสอนให้คนถือความซื่อสัตย์
        ก็ตีกัดดาไปไม่สรรเสริญ
        เห็นความดีตรงกันข้ามความเจริญ
        เพราะอาจโกงยากเกินล่ะกระมัง

17.  เพื่อง่ายซุกผ่องถ่ายเลี่ยงภาษี
       เบือนบาลียกคำพระชาญฉมัง
       แอบออกกฎกดคู่แข่งแถมแช่งชัง
       สร้างภาพดังเด่นกลบลบภาพเลว

18.  เมื่อเข่นครูผู้ชูปรัชญา
       เร่งถีบส่งการศึกษาลงหุบเหว
      จึงพวกพาลลำพองเพลิงสำเริงเปลว
      รอชื่นชมสังคมกเฬวรากรุม

19. ฯ

				
18 ธันวาคม 2548 10:08 น.

::วิชันอินเทรนด์ 3::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  ชวนมาชมวิชันอันเฉิดฉาย
    นโยบายบิหารการศึกษา
    ในขอบเขตนิเวศรัฐนาวา
     นามใต้แลนด์นัครานิรไท

2. โดยแบบบทบรรทัดฐานบานบุรี
      คือบ่มีปรัชญาให้อาศัย
      ประชากรวัยเกินจำเริญวัย
      เหมือนนิ่งใบ้เลิกนิยมอุดมการณ์

3. ปล่อยนายรวยห้าร้อยระริกเหลิง
    เล่นเถิดเทิงโกยกำไรอันไพศาล
    สำลายครูผู้ชูชนมาช้านาน
    ให้เป็นเพียงพนักงานสืบนคร

4. กับให้โยกสังกัดจนสัดส่าย
    ขึ้นต่อนายใต่โผสโมสร
    ให้ครอบได้ทั่วแคว้นแมนอมร
    สัมฤทธิ์คงเถลิงพรโอ่รำพัน

---------------------------

5.  ในบ่นานจักเห็นประเด็นดัง
        ยุวชนบ้าคลั่งนี่โน่นนั่น
        โดยเบ้าแบบบ่มปัญหามานานวัน
        คือแข่งกันเป็นระบอบต่างกอบโกย

6.     หนังสือเรียนคือสินค้าแต่งมาขาย
        คนออกแบบทั้งหลายคือเสือโหย
        ลูกตาสีตาสาไม่กล้าโวย
        แม้แบบเรียนโหลยโท่ยก็ทนซื้อ

7.    เจ็ดสิบเจ็ดจังหวัดจัดต่างแบบ
       รัฐอิงแอบพ่อค้าบ่กล้าหือ
       ช้าทุกช่วงรัฐจึงอ่อนถูกต้อนตือ
       แม้ตีนมือมีก็เปลี้ยเสียเชิงชาญ

8.    หนังสือรัฐเด่นดีไม่มีใช้
       การศึกษาถึงสมัยอวสาน
       ฤาออกแบบวงชนจนเขลานาน
       เพื่อครอบบ้านครองเมืองเรืองตระกูล

------------------------

9.     ตัวแทนประชาชนราวคนใบ้
        สติปัญญาใกล้กาลเสื่อมสูญ
        เจียนเป็นชนสอพลอบริบูรณ์
        เงินเขาทูนยศเขายอก็หลงทาง

10.   เห็นแต่ช่องช่วงชิงอิงอำนาจ
        กินสินบาทคาดสินบนหัวชนหาง
        รีดภาษีคนจน-ตนพุงกาง
        หลอกเอาเงินโดยพลางกลพนัน

11.   รู้ช่องเห็นช่วงลวงรัฐราษฎร์
        ผันโอกาสแก่พงศามากมหันต์
        โครงการยักษ์คนว่า"ยัก"รู้จักกัน
        ใครรู้ทันเป็นโดนเฉดพ้นเขตเทียว

12.   การศึกษาอันอุ้มชูสังคม
        ปล่อยติดตมตกถนนไร้คนเหลียว
        ผลักเพื่อยัก-ไสเพื่อแอบหยิบแบบเดียว
        ยุเหล่าราษฎร์ปีนเกลียวจนอ่อนแรง

13.    ประชาชนอ่อนแรง ก็แข็งครอบ
         อวยระบอบเงินคั่วทุกหัวระแหง
         ผูกขาดครบแห่งหนไร้คนแซง
         คนหัวใสเห็นแจ้งชัดแลโชน

14  ฯ   

    
				
15 ธันวาคม 2548 00:16 น.

::วิชันอินเทรนด์2::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  ชวนมาชมวิชันอันเฉิดฉาย
    นโยบายบิหารการศึกษา
    ในขอบเขตนิเวศรัฐนาวา
     นามใต้แลนด์นัครานิรไท

2. โดยแบบบทบรรทัดฐานบานบุรี
      คือบ่มีปรัชญาให้อาศัย
      ประชากรวัยเกินจำเริญวัย
      เหมือนนิ่งใบ้เลิกนิยมอุดมการณ์

3. ปล่อยนายรวยห้าร้อยระริกเหลิง
    เล่นเถิดเทิงโกยกำไรอันไพศาล
    สำลายครูผู้ชูชนมาช้านาน
    ให้เป็นเพียงพนักงานสืบนคร

4. กับให้โยกสังกัดจนสัดส่าย
    ขึ้นต่อนายใต่โผสโมสร
    ให้ครอบได้ทั่วแคว้นแมนอมร
    สัมฤทธิ์คงเถลิงพรโอ่รำพัน

---------------------------

5.  ในบ่นานจักเห็นประเด็นดัง
        ยุวชนบ้าคลั่งนี่โน่นนั่น
        โดยเบ้าแบบบ่มปัญหามานานวัน
        คือแข่งกันเป็นระบอบต่างกอบโกย

6.     หนังสือเรียนคือสินค้าแต่งมาขาย
        คนออกแบบทั้งหลายคือเสือโหย
        ลูกตาสีตาสาไม่กล้าโวย
        แม้แบบเรียนโหลยโท่ยก็ทนซื้อ

7.    เจ็ดสิบเจ็ดจังหวัดจัดต่างแบบ
       รัฐอิงแอบพ่อค้าบ่กล้าหือ
       ช้าทุกช่วงรัฐจึงอ่อนถูกต้อนตือ
       แม้ตีนมือมีก็เปลี้ยเสียเชิงชาญ

8.    หนังสือรัฐเด่นดีไม่มีใช้
       การศึกษาถึงสมัยอวสาน
       ฤาออกแบบวงชนจนเขลานาน
       เพื่อครอบบ้านครองเมืองเรืองตระกูล


9. ฯ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์