31 ตุลาคม 2548 11:28 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ยลงามยวนยิ่งแก้ว..............กรอฝัน
หอมชื่นชวนรำพัน............บ่นพร้อง
เขียวขาวอ่อนออจันทร์......คืนแจ่ม ใจนอ
เรียมเหม่อคอยนิ่มน้อง..ส่งยิ้มยวนหา
2. ไกลตาคงบ่แม้น....................เมินหมาง
ใจส่งต่อใจพลาง...................ต่างถ้อย
วันคืนห่อนคลายจาง..........ฝันอยู่ เคียงเฮย
ยามห่างนวลแน่งน้อย..หวั่นเจ้าครวญแหนง
3. แรงใจเต็มเปี่ยมแล้ว............เรียมหมาย
เติมต่อทอฝันพราย............พรั่งพร้อม
แก้วใจอย่าทำลาย...........ทรวงอุ่น พี่เนอ
คืนถิ่นทูนสุขน้อม..........แด่แก้วกุมฝัน
ฯ
29 ตุลาคม 2548 21:07 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. หอมเอยหอมอ่อนซึ้ง..............จรุงขวัญ
ผุดผ่องแจ่มราวจันทร์.........ส่องหล้า
อ่อนโยนกล่อมคืนวัน.....เห็นชื่น ทรวงเฮย
บานอยู่ยลผ่อนล้า.....กลิ่นคุ้นหทัยหวาม
2. ลำเค็ญยามเปลี่ยวคว้าง..........ทรวงขม
เนือยหน่ายทุรายจม.........จ่อมเศร้า
คืนวันเวี่ยโซรมซม-.......ซานโศก
โลกดั่งพวยไฟเร้า.....เร่งร้างแมนสรวง
3. ปลอบทรวงราวช่วยเร้น.........มวลหงอย
เก็บซ่อนก่อนเกลื่อนลอย...เรี่ยร้าย
กล่อมจิตต่อฝันคอย......วารสร่าง ขุกแฮ
อวนกลิ่นในค่ำคล้าย...ผ่าวร้อนคลายแสลง
ฯ
23 ตุลาคม 2548 11:04 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
0. วันนี้ เป็นวันที่ผมรู้สึกล้า
1. หลังพักเหนื่อยหน่อยหนึ่ง ผมนึกถึงเพลงของคีตาญชลี
ชื่อเพลง ทางสายเปลี่ยว
คุณเคยได้ยินไหมครับ
เพลงนั้นว่า
...
ฉัน ยังคงมุ่งหวัง
อยู่ท่ามกลาง ทางสายเปลี่ยว
ที่คดเคี้ยวในหมอกควันอันมืดมน
ยังแกร่งพอ พยุงร่างทามกลางทุกข์ทน
ฝ่าความสับสน ด้วยจิตใจอัน ยึดมั่นแกร่งกล้า
ฉันยังคงเฝ้าฝัน
...
3. ผมอาจจะท้อ
แต่จะไม่ยอมถอย
4. แน่แท้
ผมบอกตัวเองว่าผมต้องฟันฝ่า
ผมขอลุกขึ้นอีกครั้ง
22 ตุลาคม 2548 10:24 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เมื่อวานเมฆขาวบางทยอยย้อนกลับไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
เป็นสัญญาณว่าไม่นานความหนาวเย็นจะมาทนแทนไอชื้นของฤดูฝน
ไม่นานเลย..
วันนี้ได้เห็นหมอกแรก
ขาวโพลนไปทั่ว เหมือนม่านในความฝัน
ทำให้ทุ่งกว้างที่ข้าวกำลังถอกรวงแปลกตาออกไปอีก
หมู่ไม้หนาๆไกลดูมัว ๆ ภูเขาที่เป็นฉากหลังยิ่งหลัวเกือบเลือน
ทั้งหมดนั้นให้ความรู้สึกที่ดี คือมีความหวังว่าจะมีกิน
2. เมื่อพายุคลั่งและน้ำล้นหลากจากลา
เราก็เตรียมตัวรับความหนาวเย็นด้วยความปลอดโปร่งโล่งใจ
หลายบ้านเตรียมซักตากผ้านวม เสื้อกันหนาวมือสอง ถุงเท้ายาว
หมวกโม่ง ผ้าพันคอ กับเตรียมหลัวเตรียมฟืนเรียงกองไว้ก่อผิงเอาอุ่นแล้ว
ความหนาวเย็นนั้นดีตรงที่มีเวลาทำให้คนได้นั่งพูดคุย
รับรู้สุขทุกข์ของกันและกัน รวมทั้งแบ่งปันความสบายอกสบายใจ
จากความเชื่อมั่นว่าจะไม่อดอยากในฤดูกาลที่จะต่อเนื่องกันมาหลังจาก
ความหนาวเย็นนี้
3. เมื่อหมอกแรกให้ความรู้สึกที่ดีเช่นนี้ จึงขอทักทายด้วยถ้อยคำซื่อๆ
ด้วยหวังจะได้เอ่ยถ้อยคำหวานซึ้งในวันและคืนหนาวเหน็บต่อไป
4. อย่าเพิ่งด่วนไปไหนนะ หมอกแรก
18 ตุลาคม 2548 22:43 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
กพ. : อ๊ะ.. ดูเหมือนข้าเคยพบท่าน
กพ. : อือ..ข้าก็รู้สึกเช่นนั้น
กพ.: เราเคยพบกันที่ไหน
กพ.: เป็นคำถามเดียวกับที่ข้าอยากถามด้วย
กพ.: ข้าคิดว่าเราเคยพบกันที่นี่ ที่กระจกบานนี้ กับบานอื่นๆด้วย
กพ.: แต่ถึงแม้ข้าจะเชื่ออย่างที่ท่านพูด ข้าก็ยังรู้สึกแปลกหน้ากับท่านอยู่ดี
กพ.: ข้าเรียกชื่อท่านถูกหรือไม่ ท่านคือ..
กพ.: ไม่ผิด..ชื่อของท่านเหมือนชื่อของข้า
กพ.: มิน่าเมื่อข้าเอ่ยชื่อข้าเอง ท่านหันมาหาข้าทุกครั้ง
กพ.: นั่นก็ไม่แปลกมั้ง ชื่อก็มาจากคำ คำก็มาจากเสียง
เราเปล่งเสียงเดิมๆกันอยู่ซ้ำๆนี่นา มันจึงซ้ำได้ มาก
กพ.: ท่านคิดว่าข้าหรือท่านมีอะไรเหมือนกันไหม
กพ.: ท่านถามดีแฮะ แล้วท่านล่ะคิดว่าเรามีอะไรเหมือนกัน
กพ.: มีคนเข้าห้องน้ำมานะท่าน
กพ.: งั้นก็ไม่ต้องตอบดอกท่าน
กพ.: ดีเหมือนกัน
พก. : อ้าว..ผมเห็นคุณเข้าห้องน้ำมาตั้งนาน คุณมายืนส่องกระจกนานแล้วนะครับ
กพ.: อื้อ...