19 เมษายน 2547 19:55 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
พอฝนพรูพรมพร่างลงกลางไพร
ดอกกระเจียวก็พริ้วไหวแลอ่อนหวาน
ใช่ไหมดงรอเวลานี้ช้านาน
ได้ฝนแรกก็เบิกบานทั่วดินแดน
ดอกสีแดงเขียวขาวพราวพื้นดิน
ยิ่งต้องแดดยิ่งหอมกลิ่นไปไกลแสน
ขวัญดงดอนสวยสะอาดแม้ขาดแคลน
เธอเชื่อมฝันคนขอบแคว้นให้เคลื่อนไป
แม้เป็นเพียงดอกว่านกระจิริด
แต่เธอมีความคิดความฝันใฝ่
สำนึกดีมีเรื่อยมาเพื่อป่าไพร
ทางจะทอดไปถึงไหนเธอใฝ่รู้
วันนี้ดอกกระเจียวจะจากป่า
แสวงหาบ่สับสนเป็นคนสู้
ไปเถิดเธอไปเถิดเราเชิดชู
พวกเราอยู่ดงดอนอวยพรชัย
ไปร่ำเรียนเป็นนิสิตเชี่ยวคิดอ่าน
เรียนจบแล้วรุดคืนบ้านในวันใหม่
มาสร้างสรรค์บ้านป่านะขวัญใจ
จะเฝ้าคอยเธอคืนไพรชื่นใจเอย .
19 เมษายน 2547 05:38 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
ตั้งศาลเพียงตากราบอารักษ์
ท่านมีศักดิ์มีสิทธิ์ลิขิตศิลป์
ท่านอำนวยอวยธรรมนำชีวิน
ให้หมู่ชนทั่วถิ่นได้ยินดี
คนผู้เจ็บครอบแล้วปลกปลก
ชะตาตกร่ำไห้ในเถื่อนที่
กรรมเคยก่อก็อยากย้ำว่ากรรมมี
แต่ลืมได้ลืมดีมีแต่ตรม
จึงหอบหิ้วอามิสมาบูชา
ขออารักษ์โปรดเมตตาอย่าเคืองขม
ลูกช้างเขลาเนาโซ่แสนโง่งม
ไม่อวยล่มสลายแน่พ่ายแพ้กรรม
ถ้าลูกช้างชนะความจะย้อนคืน
มาชมชื่นด้วยข้าวปลานานาส่ำ
ปลูกเพียงตาบนบานต่อศาลดำ
พิพากษ์กรรมตามอามิสฯสมจิตเอย
18 เมษายน 2547 19:37 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
นากำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป ให้คนรวย
(ของลอกลีลา ทำนอง และ สำเนียงเพลงโฆษณาธนาคารฯหน่อยนะครับ หวังว่าคงไม่คิดเงิน)
--------------------------------------------
อย่าแปลกใจ ในคำ -ถามอันแปลก
ขึ้นบทแรก แบบนี้ เคยมีไหม
บางคนน่ะ กินข้าว มาเท่าใด
ก็ยังไม่ รู้ข่าว ของชาวนา
เล่าให้ฟัง เพราะยัง คงมีแรง
ใช่กำแหง ด้นวัน สร้างปัญหา
คนทำกิน ดิ้นรน สืบคนมา
วันนี้ล้า แรงแล้ว แหละแก้วใจ
แต่ก่อนนี้ มีนา กับมีน้ำ
ก็มีกิน สุขล้ำ คุยคำใหญ่
แต่วันนี้ ที่ทำนา น่ะช้ำใน
ปากบ่ได้ ไอบ่ดัง เออช่างเป็นฯ
นาแปลงใหญ่ กลายกลับ เป็นแปลงจ้อย
ที่ดินใหญ่ แบ่งย่อย ราวของเล่น
ตาแฮกไห้ อาลัยนา ขวัญกระเด็น
ความลำเค็ญ ขยายตัว อยู่ทั่วแดน
ก็ชาวนายุคใหม่ไม่ทำนา
ถนัดใช้เงินตราเป็นขาแขน
จ้างไถคราดปักดำจ้างทำแทน
เกี่ยวนวดขนขึ้นยุ้งแสนจะซำบาย
หากถามว่าราคาข้าวคุ้มอยู่หรือ
คำตอบคือกำไรสูญต้นทุนหาย
กระนั้นยังเร่งจนกระวนกระวาย
จมปลักพ่ายชีพนี้มีแต่ตรม
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น-วันมะรืน
จงเตรียมฟังคนสะอื้นอย่างขื่นขม
คนทำนารายย่อยค่อยค่อยล้ม
อาชีพอันนานนมก็เปลี่ยนมือ
หลังมะรืนอย่าตื่นและตระหนก
ถ้าตลกเรื่องเล่ามาก็อย่าถือ
คนทำนา-มหาเศรษฐี-มีฝีมือ
ปลูกข้าวถือบังเหียนคนบนแดนดิน
จะให้ถูกจะให้แพงมีแรงทำ
กำไรกอบกำไรกำทำได้สิ้น
ข้าวของโลกตกราคาก็อย่ากิน
เพดานบินเหนือชั้นดันดีมานด์
รัฐยังช่วยแบกภาระตลาดโลก
อุ้มคนนามิพาโศกมหาศาล
ทุ่มตลาดนอกเล่นเช่นอาจารย์
อเมริกาพาชาญยิ่งด้านนี้
ทำได้ทำได้เอาใจช่วย
เพราะคนรวยทำนาใหม่ใช่ไหมนี่
เมื่อโลกแล้งข้าวกลับมาราคาดี
คนจนจนจงกินอี้อีกแล้วกัน
ถึงกาลนั้นเราพากันร้องชัยโย
เศรษฐกิจของเราโตจนเกินหวั่น
คนขายข้าวรวยเท่ากับขายน้ำมัน
คนเคยทำนานั้นเหมือนจัณฑาล
เรื่องเล่านี้ยังคงเป็นเรื่องเล่า
แต่งโดยนายโง่เง่าสมองด้าน
-------------------------------------------------------
เมื่อเรารอแต่นัดรัฐบาล
มาจัดการปัญหาเกษตรกร-
แบบคิดแทน พูดแทน และทำแทน
ไม่เห็นแก่นของปัญหาสุมมาก่อน
นิทานนี้จะเป็นแท้และแน่นอน
ก.พ.สอนก็หาไม่ไทยนาเอย.
18 เมษายน 2547 13:52 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
หากใช้คำสุภาพน้อยโปรดอภัยด้วย
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
2 มี.ค.2547
-------------------------------
แปะดาวจิ๋วปิดยอดอกให้นกหน่อย
นกก็ห่วงเด็กน้อยนะรู้ไหม
ก็จริงอยู่ที่นกเด่นจนเป็นภัย
ด้วยเด็กทั้งประเทศไทยเพ่งสายตา
ไม่ก็เอาบัตรเครดิตปิดให้หน่อย
นกก็ห่วงเด็กน้อยนะคุณขา
ก็จริงอยู่ที่นกเล่นเป็นมายา
ยั่วกามายวนอบายคนหลายคน
ที่นกทำนกอยากว่าเป็นอาชีพ
ทางอื่นตีบตันกับแสนสับสน
เปลือยหลังไหล่ง่ายต่อตาประชาชน
ผู้ชอบยลตรงปลมนายกระหายกัน
ที่นกทำมันเกินกว่าเป็นอาชีพ
เพราะมันบีบหัวใจบีบไฟฝัน
ให้เหลือเพียงความเขลาความเมามัน
ในอารมณ์หื่นหรรษ์อ่อนปัญญา
ที่นกทำมันทายท้าทุกอาชีพ
เพราะอิ้วหีบจนความดีเหมือนขี้หมา
โพสต์ท่าสวยขายหน้าใสได้ราคา
เด็กดาหน้าคิดก้าแผ้แห่ขายตรึม
บอกจะเอาแบบหน้างามตามพี่นก
เจตกะปรกฟังปวดใจได้แต่ขรึม
ข้าตีบตื้อบื้อเบื้อเมื่ออาวครึ้ม
อวดภาพนกอกสะบึมแอ่นซำบาย
เอาดาวจิ๋วปิดหน้าให้ข้าด้วย
ลูกสาวข้ามันว่าสวยสะเทิ้นหลาย
จะเอาเยี่ยงเกินนกว่าอกจะวาย
ยินแล้วอายเทวดาและฟ้าดิน
ไม่โทษนกที่ตกที่นั่งลำบาก
แต่โทษโลกที่ฉุดลากเธอฉีกปลิ้น
เมื่อโลกยื่นเงินมากมายให้นกชิน
เธอย่อมยินดีเอื้อด้วยเนื้อตัว
ใครถามถึงหิริโอตตัปปะ
มันลับโลกนานแล้วล่ะแม่ทูลหัว
ภัยมาถึงลูกอ้ายหมา โอน่ากลัว
นกไม่มีลูกสักตัวกลัวอันใด .
(อ้ายหมา หมายถึงผม ผู้เขียน)
-------------------------------------
มีคำผวนหลายที่ครับ
คุณคงเห็นแล้ว
(เผยแพร่ครั้งแรกในเว็บหญิงไทยขอรับกระผม)
18 เมษายน 2547 05:44 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
คลิก คลิก คลิก
ใจสั่นระริกเมื่อคลิกมา
คลิกเย็นคลิกค่ำคลิกเช้า
เอ็ะนี่ตัวเราเป็นไรหว่า
ไม่มาก็คิดถึง
ไม่มาก็คิดถึง
มันเป็นประหนึ่งคนบ้า
คลิกอีก คลิกแล้ว คลิกอีก
คิดจะลองหลีก ดูสักครา
แต่แล้วก็คือเก่า
แต่แล้วก็คือเก๊า
ใจอ่อนจริงเรา ยังกะหลับมา
ดี ดี ดี่ ดี้ ดี ดี่
ha