11 ธันวาคม 2547 02:05 น.

ยอพระกลิ่น หน่ออินทร : นิทานสมัย( ต่อ)

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



23.  หนุ่มฟังนายจีบสาวก็หนาวทรวง
มึนความจริงความลวงกับหลายอย่าง
รักกันเล่นผ่านลืมลากว่าผ่านทาง
เออไฉนเวิ้งบางเป็นอย่างนั้น

24.   เอ็งเป็นไรวะขาวหนาวไข้หรือ
ยินครางฮือแกมถอนใจมีใครหยัน
บอกข้ามาจะกลัวใครทำไมกัน
เราน่ะชั้นชาติชายอาชาไนย

25.  มันบ่แม่นอย่างนั้นดอกนายครับ
อกจะดับขวัญเกือบหอนมันอ่อนไหว
เห็นนายจีบเด็กสาวก็หนาวใน
หวามหัวใจกับคำสาวที่เย้าคืน

26.  ปัดโธ่เว้ยชอบน้องไข่ก็ไม่บอก
ที่แกล้งหยอกน้องไข่ใช่เรื่องอื่น
เอ็นดูแบบเหลนหลานเด็กวานซืน
มันทำงานกลางคืนคงยากคบ

27.  ถ้าเอ็งชอบน้องไข่ก็ไม่ขัด
คุยให้ชัดถึงความฝันหมายบรรจบ
อย่าเสียเชิงอกหักเชียวนักรบ
ขอให้พบความรักเถิดนักรุก

28.  ยินถ้อยคำของนายแม้คลายหงอย
ฝันหากคอยแต่คลายจางไร้ทางบุก
เพลิงเผาใจไร้ทางออกจากคอกทุกข์
รักนั้นซุกหนามไว้ในนามรัก

29.  ขาวเทียวเวียนไปร้องเพลงคู่น้องไข่
มีกำลังตั้งใจหมายตั้งหลัก
ครั้นเอ่ยปากเผยฝันอันหมายภักดิ์
เธอก็ตีหน้ายักษ์แกมยิ้มเยาะ

30.  จึงเหมือนอกอันฉกาจชาติทหาร
ถูกนารีนี้รานเจ็บปานเดาะ
เมื่อเกิดมาต่ำชาติจงฟาดเคราะห์
อย่าหมายเพาะต้นรักเกินศักดิ์เรา

31.  บ่นานทหารขาวก็ลานาย
เป็นชาติชายชีพบ่สิ้นคืนถิ่นเก่า
กอบหัวใจไปอิงแอบแนบลำเนา
ให้ดินดงพงเผ่าเขาเยียวยา

32.  ยอพระกลิ่นแก้วใจอยู่ไหนแม่
อ้ายขาวแย่ลืมน้องยอฯบ่ถามหา
ไปเสียนานปานนี้จึงกลับมา
ลืมเวลาน้องข้าหงอยอาจน้อยใจ

33.  ยอพระกลิ่นมีองค์อินทร์มาเอากลับ
แม่ก็มึนเหมือนง่วงหลับเลยขวัญไถ
อึ้งทบอึ้งตอนเขาดึงเธอจากไป
แม่บ่เหลือสิ่งใดท้อใจแท้

 ฯ
				
9 ธันวาคม 2547 15:26 น.

นิทานสมัย ยอพระกลิ่น หน่ออินทร (ต่อ) เวอซั่น ก.พ.

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



ก.พ.  : ไม่ได้เลานิทานนานแล้ว
            อยากฟังไหมลูกแก้วกมลเอ๋ย

ลตว.  :  อยากฟังครับเอาเรื่องใหม่ไม่คุ้นเคย
            เชิญพ่อเล่าได้เลยลูกอยากฟัง

ปตว.  :  เอาแบบข่าวเขาว่าน่าอนาถ
             คนประหลาดคลอดใหม่เกิดในถัง
            
ก.พ.   : เอาอย่างงั้นหรือไงโหดร้ายจัง

ลตว & ปตว. :  ข่าวนี้เด่นดังเชิญพ่อเล่าเอาสุดพวง
                         เล่าเลยพ่อ 

ก.พ. :   ได้เลย


เปิดฉาก

1.  ยอพระกลิ่นเกิดแต่บ้องไม้ไผ่
มีกายหอมกล่อมหัวใจไปถึงสรวง
เป็นหน่อเนื้ออินทรสำเริงบวง
กับมนุษย์ปริ่มห้วงมหรรณพา



2.  อินทร์เริงคนเริงสราญจนบานปลาย
เมื่อเกิดกายยอพระกลิ่นก็สิ้นท่า
เมื่ออินทรอ่อนหิริโอตตัปปา
ท้ายที่สุดก็จากลารังคนจน

3.  คนผู้แม่สิ้นมิตรช่วยคิดอ่าน
แถมตกงานโซไข้ใจสับสน
จึงฉวยผ้ามาห่อหน่อเนื้อตน
แล้วหย่อนปนเศษขยะเปื้อนกะดิน


4.  นางสำลีมีลูกชายชื่อนายขาว
ผิวงามราวผวยไหมใจตงฉิน
เสียงเด็กร้องจากถังไม้เขาได้ยิน
ก่อนเด็กสิ้นลมระรวยเขาช่วยไว้

5.  ว่าโอ๋โอ้โธ่ถังนังแม่หมา
ยังรักลูกปลูกชีวาแม่ว่าไหม
นี่แม่คนเวรกรรมทำได้ไง
แร้นเยื่อใยใจดำจึงทำลง

6.  เอาเหอะน่าพามันไปส่งหมอ
มีอันตายถ้าใครรอบ่รีบส่ง
ถึงสถานภิบาลนั้นอาจมั่นคง
อย่ามัวงงเลยไอ้นายอย่าหลายคำ

7.  พ้นอันตายเพราะสำลีตามที่คาด
โลกมีคนใจสะอาดแม้กายขำ
อินทร์บ่รับเป็นพ่ออวดช่อธรรม
ก็ช่างอินทร์ใจต่ำซ้ำช่างคน

8.  นางสำลีกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกเขา
บ่เร้นไหนให้เหงาหงอฉงน
ขาวผ่อนแรงเลี้ยงน้องล่าสาละวน
ยอพระกลิ่นจึงอวบมนเหมาะสมวัย

9.  ยอพระกลิ่นยิ่งโตยิ่งผุดผ่อง
หนุ่มใดมองเป็นเหลียวหลังทั้งหวั่นไหว
ชวนนิยมถ้อยกระชับฟังจับใจ
นามลือไกลว่าเธองามเชื้อสำลี

10.  ยอพระกลิ่นเอื้อนเพลงเก่งเกินเพื่อน
ไพเราะเหมือนกล่อมตะเว็นเด่นเหลือที่
จึงประกวดได้ถ้วยทองถ้วนเวที
แม่สำลีถึงหน้าบานปานบุญดล

11.   แล้วนายขาวก็ถึงทีเกณฑ์ทหาร
จับใบแดงจากบ้านไปฝึกฝน
เป็นรั้วแกร่งป้องแมนแทนหมู่ชน
ลาสาวสาวในตำบลไปแดนไกล

12.  ยอพระกลิ่นจึงตื่นหลับอยู่กับแม่
มีความฝันบ่ผันแปรแม้บ่ใหญ่
คืออยากร้องเพลงเพลินจำเริญใจ
ทันสมัยเสมอดาวคนกล่าวนาม

13.  แม่สาลีตามใจพาไปร้อง
กี่คุ้งคลองขวางหน้าพาก้าวข้าม
บ่นานเดือนเหมือนฝันพราวรอวาวงาม
และแววดาริกาวามเริ่มวอมแวม

14.   ลูกใครหนอพ่อคงคมสมแม่สวย
บ่เขินขวนมันสมองเกินของแถม
กล่าวขวัญไปทั้งบางออกต่างแดน
มีแฟนแฟนอยากออขอลายเซ็น

15.  แล้วแววดาวก็พราวสุดฉุดบ่อยู่
ใครเป็นตาเป็นปู่อย่าตู่เห็น
ยอพระกลิ่นเพลินวงการปานเดือนเพ็ญ
ยลอิ่มเย็นอย่างอินทรผู้จรลับ

16.  พลทหารชื่อขาว เผ่าสำลี
ด้วยกอบบุญจึงได้ดีไม่มีดับ
นายทหารฝึกแล้วสอนรู้ต้อนรับ
ขาวก็นับวันชาญในการนาย

17.  เป็นพลขับพานายไปต่างทาง
บ่เคยกร่างอ้างเหล่าไปเหมาขาย
แต่ก็มีครบมาดของชาติชาย
ทำแทนนายนายใช้ทำเลยจำเริญ

18.  เมื่อเก็บหอมรอมริบสิบเป็นซาว
จาก นายขาว  เป็นท่าน ชัด แม้ขัดเขิน
ใครมีทองน้องพี่บ่มีเมิน
ใครมีเงินแม้เหม็นคาวก็จาวจาง

19.  นายพาขาวฉลองดาวบนบ่านาย
ขาวจึงฉายกว่าขาวที่เล้าฉาง
คนมีเงินทำอันใดดีทุกทาง
ขาวเป็นอย่างนั้นด้วยบุญช่วยคุ้ม

20.  จ๋าจ๊ะจ๋า น่ารักจริงน้องเล็ก
รักอาเจ็กได้ไหมพี่ใจหนุ่ม
พี่ใจเดียวหากหัวใจเหมือนไฟรุม
ขาดคนคุมห้วงใจท้อใจแล้ว

21. จ๊ะจ๋า  จ๊ะจ๋า  อย่าแกล้งแข
กี่คนแลอยู่รอบกายตั้งหลายแถว
ใจเดียวจริงหลายห้องจังฟังชวนแจว
ได้ใครแล้วคงขังคุม  แขกลุ้มแทน

22.  ..ลูกใครหว่าวาจาปฏิภาณ
เสียงขับเพลงก็ได้การหวานใจแสน
หัวใจหนุ่มกลุ้มดีไม่มีแฟน
อยากยินรักหนักแน่นก็แม่นค้าง..

23.  หนุ่มฟังนายจีบสาวก็หนาวทรวง
มึนความจริงความลวงกับหลายอย่าง
รักกันเล่นผ่านลืมลากว่าผ่านทาง
เออไฉนเวิ้งบางเป็นอย่างนั้น

ฯ
				
8 ธันวาคม 2547 22:02 น.

:::นิทานสมัย : ยอพระกลิ่น หน่ออินทร บทเริ่ม:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


2.  อินทร์เริงคนเริงสราญจนบานปลาย
เมื่อเกิดกายยอพระกลิ่นก็สิ้นท่า
เมื่ออินทรอ่อนหิริโอตตัปปา
ท้ายที่สุดก็จากลารังคนจน

3.  คนผู้แม่สิ้นมิตรช่วยคิดอ่าน
แถมตกงานโซไข้ใจสับสน
จึงฉวยผ้ามาห่อหน่อเนื้อตน
แล้วหย่อนปนเศษขยะรวมกะดิน


4.  นางสำลีมีลูกชายชื่อนายขาว
ผิวงามราวผวยไหมใจตงฉิน
เสียงเด็กร้องจากถังไม้เขาได้ยิน
ก่อนเด็กสิ้นลมระรวยเขาช่วยไว้

5.  ว่าโอ๋โอ้โธ่ถังนังแม่หมา
ยังรักลูกปลูกชีวาแม่ว่าไหม
นี่แม่คนเวรกรรมทำได้ไง
แร้นเยื่อใยใจมืดดำจึงทำลง

6.  เอาเหอะน่าพามันไปส่งหมอ
มีอันตายถ้าใครรอบ่รีบส่ง
ถึงสถานภิบาลนั้นอาจมั่นคง
อย่ามัวงงเลยไอ้นายอย่าหลายคำ

7.  พ้นอันตายเพราะสำลีตามที่คาด
โลกมีคนใจสะอาดแม้กายขำ
อินทร์บ่รับเป็นพ่ออวดช่อธรรม
ก็ช่างอินทร์ใจต่ำซ้ำช่างคน

8.  นางสำลีกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกเขา
บ่เร้นไหนให้เงาลูกเศร้าหม่น
ขาวผ่อนแรงเลี้ยงน้องล่าสาละวน
ยอพระกลิ่นจึงอวบมนขึ้นตามวัย

ฯ

( พรุ่งนี้ติดตามต่อนะครับ)				
7 ธันวาคม 2547 20:46 น.

:::นิทานสมัย : ยอพระกลิ่น หน่ออินทร:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ก.พ.  : ไม่ได้เลานิทานนานแล้ว
            อยากฟังไหมลูกแก้วกมลเอ๋ย

ลตว.  :  อยากฟังครับเอาเรื่องใหม่ไม่คุ้นเคย
            เชิญพ่อเล่าได้เลยลูกอยากฟัง

ปตว.  :  เอาแบบข่าวเขาว่าน่าอนาถ
             คนประหลาดคลอดใหม่เกิดในถัง
            
ก.พ.   : เอาอย่างงั้นหรือไงโหดร้ายจัง

ลตว & ปตว. :  ข่าวมันดังแต่งสิพ่อต่อสุดพวง
                      เอาเลยพ่อ


ก.พ. :   ได้....งั้นฟัง

เปิดฉาก


ยอพระกลิ่นเกิดแต่บ้องไม้ไผ่
มีกายหอมกล่อมหัวใจไปถึงสรวง
เป็นหน่อเนื้ออินทรสำเริงบวง
กับมนุษย์ปริ่มห้วงมหรรณพา


( ขอบคุณแรงดีดของคุณครับ  ผมจะเขียนต่อซัก 100 บท )				
6 ธันวาคม 2547 13:33 น.

:::สงบ:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



กราบรำลึกพระพุทธคุณ
กราบรำลึกพระธรรมคุณ
กราบรำลึกพระสังฆคุณ
กราบรำลึกพระคุณพ่อแม่
กราบรำลึกพระคุณครูอาจารย์


นั่งในท่าสบาย


กำหนด ติดตามลมหายใจเข้าออก


เข้า ระลึกเป็นพุทธ
ออก ระลึกเป็นโธ


ไม่ได้สำคัญว่าจะเห็นหรือไม่เห็นนิมิตรอันใด


เพียงต้องการตามลมหายใจเท่านั้น


ความคิดจะแว้บไปทางไหน
ก็ให้กลับมาที่ลมหายใจเข้าและออก



ดำเนินไปเรื่อยๆ
ดำเนินไปเรื่อยๆ


แม้ความคิดแว้บไปทางไหนอีก
ก็กลับมาที่ลมหายใจเช่นเดิม


แรกๆความคิดก็สัดส่ายไปโน่นมานี่
หลายที่หลายทาง เหมือนฟุ้งไป


นานเข้าเมื่อดึงกลับมาได้

นานเข้าเมื่อรู้เร็วรู้ทันว่าความคิดไป

ก็สงบง่าย ไวขึ้น

และไม่ไป




เริ่มได้ยินเสียงลมหายใจชัด
ทั้งเขาและออก



ดังมาก
เสียงลมหายใจดังมาก


ลมหายใจเข้าดังเหลือประมาณ
ลมหายใจออกดังเหลือประมาณ


การระลึกก็ยังเป็นเข้าพุทธออกโธอยู่


เช่นนี้แหละหนอ พระอาจารย์บอกว่า
มันก็เป็นเช่นนั้น อาการที่จิตสงบ


เยือกเย็นเกินประมาณ
ปีติเกินประมาณ
เห็นค่าของชีวิตเกินประมาณ
รักผู้อื่นเกินประมาณ


แต่นี่ก็ตั้งอยู่เพียงชั่วเวลาหนึ่งเองแหละ

ก็เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์

ไม่เที่ยง
เป็นทุกข์
ไม่ใช่ตัวตน

เกิดขึ้น
ตั้งอยู่
แล้วดับไป


อืม...

ซาบซึ้งจริงหนอ

ธรรมะ นี้

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์