25 พฤศจิกายน 2547 22:18 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. พ่อพาเดินทางแบบค่ำไหนนอนนั่น
ผมติดตามพ่อไปเหมือนเงา
ผมได้ยินทุกคำที่พ่อพูด
ผมฟังทุกคำที่คนอื่นพูด
ผมเห็น ในสิ่งที่ไม่เคยได้เห็น
ผมเริ่มคิด ในสิ่งที่ไม่เคยคิด
2. พ่อคงไม่ว่า ถ้าหากผมจะเอาอย่างพ่อ
คือทำงานหนัก และรักคนอื่น
คำที่ผมอยากพูดคือ รักประชาชน
ผมจะไม่เบียดบังภาษีของประชาชน
ผมจะไม่ฉ้อฉลเชิงนโยบายเพื่อโคตรวงของตนเอง
ผมจะทำเพื่อคนบนแผ่นดินนี้
ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ที่ยั่งยืน
3. ผมผิดหรือที่ผมเกิดมาเป็นลูกของนายก-
( 4. ) สมาคมลำซิ่ง ฯ
24 พฤศจิกายน 2547 22:32 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. คนดีของพ่อ
พ่อพูดกับใครต่อใครอย่างภาคภูมิเสมอ ว่า
เจ้าคือหัวใจที่สดใสของพ่อ
พ่อมีความสุข มีความฝันที่เติมเต็ม เมื่อมีเจ้า
เพื่อเจ้า พ่อแบกโลกทั้งโลกก็ได้
ขอแต่เจ้าเริงร่าและสุขสมวัย
เมื่อเจ้าโต เป็นผู้ใหญ่สมบูรณ์
พ่อไม่ขอสิ่งใด ๆ ตอบแทนความรักของพ่อ
แต่พ่อรู้
ว่าหัวใจที่เปี่ยมความสุขของเจ้า
สามารถเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นได้
2. วันนี้เป็นวันพ่อ
พ่อรักเจ้า
23 พฤศจิกายน 2547 00:04 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
ขอโทษครับ
ทำไมมองผมด้วยสายตาอย่างนั้น
ผมกินข้าว
ผมดื่มน้ำ
ผมหายใจเหมือนคุณ
และภาษาของผมก็มาจากโคตรเหง้าเดียวกับคุณ
ก็จริงล่ะ
ที่ข้าวของผมถูก แค่จานละเจ็ดบาท
น้ำขวดละสิบบาท
ส่วนอากาศก็สูด ๆ เอา เหม็นยังไงก็ต้องทน
ภาษาที่พูดและเขียนอาจถามหาชั้นไม่ได้ แต่มันก็เป็นภาษาคนนี่นา
นี่ก็จวนถึงฤดูเลือกตั้งแล้วสินะ
เมื่อวันสำคัญนั้นมาถึง
คุณก็คงมาสวัสดีทักทายผมทีหนึ่ง
ขอให้ผมไปเลือกคุณไปเป็นคนสำคัญ ตามแบบของการเลือกตั้งที่ใช้ชื่ออย่างเท่ห์ว่าประชาธิปไตย
เมื่อผ่านวันสำคัญนั้นไป
คุณก็กลับมามองผมด้วยสายตาอย่างนี้ล่ะ
อย่างตอนนี้ล่ะ
ผมจนน่ะจริงละ
แต่ผมไม่ใช่หมา
20 พฤศจิกายน 2547 11:49 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
หักซังข้าวทำปี่เป่ากล่อมเจ้ากลอย
ปีนี้ไม่เลื่อนลอยดอกปอยฝัน
ข้าวขึ้นยุ้งหุงนึ่งพอพึ่งกัน
คงพอแบ่งพอปันสืบวันไป
ฝนมาเร็วไปเร็วบ่สั่งลา
คือเริ่มรินหัวเมษาฟ้ายังใส
ตุลายังไม่ปลายกลับวายไว
บ่ยินเสียงฟ้าไห้หักไม้วอน
แต่ข้าวก็แตกกอกลมได้เกี่ยว
มีบ้างที่ตายเหี่ยวทั้งเขียวอ่อน
ส่วนใหญ่ยังเป็นข้าวคลายร้าวรอน
ก็มีแรงร่ายกลอนกล่อมเวิ้งเวียง
ว่าชะเอ่อเอิงเอยข้าบ่เคยคิด
ว่าจะมีชีวิตไร้สิทธิ์-เสียง
เกิดมาอยู่กับดินกินปลาจ่อม
มีสมองก็งอม เดี้ยงซะเกลี้ยง
ได้รับการศึกษามาดาดดาด
ความรู้ความสามารถแบบอีเอี้ยง
ไม่ถนัดจะคิดแม้อยากคิดก็ขัด
เชาว์มันอัตคัดเหลือขี้เมี่ยง
เป็นพลเมืองโหลโหลเติบโตเต็มวัย
เพื่อสร้างชาติก้าวไกลและเกรียงฯ
เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร๊ง เตรง เตร่ง เตร้ง เตรง เตร่ง
17 พฤศจิกายน 2547 22:34 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เงื่อนใดไขได้โดยเฉย
ปล่อยเลยตามเคยลืมไข
ละเลยตามกรรมตามใจ
ทอดทิ้งมาได้นมนาน
2. เงื่อนไขคือความคับแค้น
อยู่กันแกนแกนถ้วนย่าน
แร้นราวแถบนรกานต์
บ่ใช่เมืองบ้านโดยเดียว
3. ช่องว่างห่างกว้างออกไกล
ก็เป็นเงื่อนไขแปลกเปลี่ยว
ยากคืนใจมั่นฝั้นเกลียว
ตราบยังแค่เหลียวอย่างเคย
4. คือเขาคือคนจนจุก
จมกระแสทุกข์เกินเผย
ขณะเราเพลินเกินเลย
บ่เคยแลเหลียวเยียวยา
5. พับนกโปรยไปค่อนโลก
คงดับทุกข์โศกค่อนหล้า
ตราบยังกินเกินอัตรา
คนนับคณาอดกิน
6. ก็คงจะร้อนค่อนแคว้น
นับแดนจะแหลกแตกบิ่น
เงื่อนใดใครเคยได้ยิน
เมินเถิดจะเกิดอันตาย
7.