9 พฤศจิกายน 2547 23:21 น.

::: ต้นทางกับปลายใจ:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



กี่ทาง   กี่เที่ยว   ที่เทียวท่อง
กี่เนินเขาคุ้งคลอง     ที่ต้องข้าม
อาจบางทีมีพลาด    มีคลาดกัน
อาจห่วงใจจะหวั่นและคิดขาม

นั่งลงเถิด  ผ่อนพัก  ให้ผ่อนคลาย
ต่อปลายทางที่ใจหมาย ทวนใจถาม
เมื่อปลายทางไม่เปลี่ยนต้นทางไม่เปลี่ยน
แม้กี่เที่ยว    ย่อมจักเพียร   ถึงฝันงาม				
6 พฤศจิกายน 2547 16:47 น.

:::เมื่อเธอถูกพร่าพรหมจรรย์ :::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์




เคยเห็นอีกบ้างไหม 
สายน้ำใสจากเทือกผา 
รินร่วงลงสู่หล้า 
ณ เบื้องล่างเย็นสยิว 

หนาวเยือกทรวงสะท้าน 
ลำธารลึกซ่อนคลื่นพลิ้ว 
ลมภูพัดไผ่ปลิว 
สะท้อนน้ำอยู่รำไร 

หนาวเหน็บจนเจ็บปวด 
รวดร้าวกว่าคราวไหน 
กี่กาลที่ผ่านไพร 
วิญญาณใครไม่จดจำ 

งดงามดุจความรัก 
ประจักษ์ในใจลึกล้ำ 
ใครลืมความดื่มด่ำ 
ธรรมชาติอันจริงแท้ 

ใครเฉื่อยอยู่หนหลัง 
ให้เธอยังถูกรังแก 
ภูผาผืนป่าแย่ 
ลำธารนั้นยิ่งรันทด 

น้ำร่วงจากตาไหล 
ใจเจ็บช้ำเหลือกำหนด 
ใครหนอทรยศ 
คดกันหลากจนยากนับ 

ต้นน้ำลำธารนั้น 
นั่นมือใครใจด้านดับ 

พรหมจรรย์แห่งป่าถูกพร่ายับ 

ใครรับรู้บ้างไหมเพื่อนไทยเอย .
				
6 พฤศจิกายน 2547 02:10 น.

::: บทส่งท้าย มาจากชายขอบอารยธรรม 1 :::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


บทเริ่ม  

1.  ย้อนวันคืนหาห้วงเยาว์
     ขลาดเขลาเง่าโง่โซซ้ำ
     เปื้อนโคลนทั้งร่างด่างดำ
     ตรากตรำกรำงานปานควาย

2.  มาจากชายขอบสังคม
     ตกจมทุกข์ข้นจนพ่าย
     สัมผัสหิวพาตาลาย
     เกือบตายไร้อันใดกิน

3.  แถนฟ้าเทวาคงชัง
     บ่หลั่งฝนนองท้องถิ่น
     คนนาหลั่งน้ำตาริน
     เก็บกินเผือกกลอยมันกา

4.  ต่อวันเนาพงดงดอน
     หมดทางก็จรจบหล้า
     เพื่อขอทานข้าวพริกปลา
     ขอต่อเวลาชีวัน

5.  เป็นประชาชนจนโซ
     พุงโลหน้าตาน่าขัน
     หัวโตสมองตีบตัน
     บ่เป็นชนชั้นปัญญา

6.  ได้ยินกาพย์ฉันท์คร่าวโคลง
     หัวใจก็โยงเชื่อมหา
     อยากร้อยบทพจนา
     ก็สุดปัญญาวงดง


บทแทรก 


(7.	เกิดมามีหูตาใจ
	ฝันได้ในสิ่งประสงค์
	หากบ่ไกลเกินเวิ้งวง
	คือคงดิ้นรนจนจร

8.	มีกินสลับกับอด
	ราวบทไท้ขีดไว้ก่อน
	เหลืองหล่าหน้าเร้นนาคร
	ราวซากอันหนอนหน่ายชัง

9.	เป็นด้วยลายกรรมชำเรา
	ฤาเวรบาปเก่าเหนี่ยวรั้ง
	จึงเวียนไขว้เขวเก้กัง
	ขัดสนกำลังร้อยพจน์

10.	ให้ศัพท์ซึ้งสุดวิเศษ
	จนกล่าวถ้วนเขตปรากฏ
	ว่าถ้อยเนียนหอมพร้อมรส
	ทิพย์ทดเสพซึ้งถ้วนทิศ

11.	หมายใจขอจารโดยเจียม
	ถ้อยคำอันเ รียมลิขิต
	อาจเจือวลีมีพิษ
	นั่นเป็นด้วยฤทธิ์ทุกข์ทบ )


บทสอด  
	
12.	กล่อมลมหายใจด้วยไผ่สีกอ
	กล่อมฤดีต่อด้วยช่อผักตบ

	อุ่นหัวใจหนาวด้วยตาของวัน
	อุ่นความคิดฝันด้วยมิตรที่คบ

	แบ่งเขียดแบ่งกุ้งปันปูปันปลา
	แบ่งปิ้งปลาร้าแบ่งแกงคั่วกบ

	หาอยู่หากินปลูกกินปลูกใช้
	ขิงข่าตะไคร้ลงไว้จนครบ

	พวกไผ่พวกพร้าวมะนาวมะเฟือง
	เขียวแดงขาวเหลืองค้นหาประสบ

	ขอซื้อขอหามาปลูกมาฝัง
	มีฝน-ชีวิตยัง   ข้าน้อยนั่งนบ



13.	นั่นแล้ว   นั่นแล   พ่อแม่เอย
	ข้าขอเผยห้วงชีวินก่อนดินกลบ
	คนชายขอบมาเขียนคำก่อนค่ำพลบ
	แม้สุดท้ายภาพจะลบมลายวับ

14.	ห้วงเยาว์ ก. ไก่  ค. ควาย จ.จอก
	อ่านหนังสือไม่ออกใจอยากหลับ

	ยินคนเป่าใบไม้เดินใกล้มา
	บอกว่าโชคชะตามึงน่ะอาภัพ

	เกิดเป็นคนยากจน   จงทนอยู่บนโลก
	อย่ากระตากกระโตก   เขาจะโขกสับ

	พวกเจ้าใหญ่นายโตที่ใหญ่โตลดหลั่น
	เขาเหยียบกันเป็นชั้นดูดเลือดกันลับลับ

	อย่าสงสัยการทานที่หน้าบานปานกระด้ง
	เศษเงินที่หว่านลง  เขาคงไม่หวังกลับ

	กลับไปพอกไปพูนเกื้อกูลเครือเถา
	ประชาชีโศกเฉา  ใครหลอกเราเล่าครับ


บทส่งท้าย


15.	โฉมเฉลา   อ้ายกล่อมเจ้าด้วยปี่
	ดนตรี อ้ายบ่มีแบบฉบับ
	ด้นสด กล่อมห้วงวันนานนับ
	มารับความใยดีนี้เทอญ				
4 พฤศจิกายน 2547 10:32 น.

::: บทแทรก มาจากชายขอบอารยธรรม :::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



:::มาจากชายขอบอารยธรรม 1:::


1.  ย้อนวันคืนหาห้วงเยาว์
     ขลาดเขลาเง่าโง่โซซ้ำ
     เปื้อนโคลนทั้งร่างด่างดำ
     ตรากตรำกรำงานปานควาย

2.  มาจากชายขอบสังคม
     ตกจมทุกข์ข้นจนพ่าย
     สัมผัสหิวพาตาลาย
     เกือบตายไร้อันใดกิน

3.  แถนฟ้าเทวาคงชัง
     บ่หลั่งฝนนองท้องถิ่น
     คนนาหลั่งน้ำตาริน
     เก็บกินเผือกกลอยมันกา

4.  ต่อวันเนาพงดงดอน
     หมดทางก็จรจบหล้า
     เพื่อขอทานข้าวพริกปลา
     ขอต่อเวลาชีวัน

5.  เป็นประชาชนจนโซ
     พุงโลหน้าตาน่าขัน
     หัวโตสมองตีบตัน
     บ่เป็นชนชั้นปัญญา

6.  ได้ยินกาพย์ฉันท์คร่าวโคลง
     หัวใจก็โยงเชื่อมหา
     อยากร้อยบทพจนา
     ก็สุดปัญญาวงดง



บทแทรก 


(7.	เกิดมามีหูตาใจ
	ฝันได้ในสิ่งประสงค์
	หากบ่ไกลเกินเวิ้งวง
	คือคงดิ้นรนจนจร

8.	มีกินสลับกับอด
	ราวบทไท้ขีดไว้ก่อน
	เหลืองหล่าหน้าเร้นนาคร
	ราวซากอันหนอนหน่ายชัง

9.	เป็นด้วยลายกรรมชำเรา
	ฤาเวรบาปเก่าเหนี่ยวรั้ง
	จึงเวียนไขว้เขวเก้กัง
	ขัดสนกำลังร้อยพจน์

10.	ให้ศัพท์ซึ้งสุดวิเศษ
	จนกล่าวถ้วนเขตปรากฏ
	ว่าถ้อยเนียนหอมพร้อมรส
	ทิพย์ทดเสพซึ้งถ้วนทิศ

11.	หมายใจขอจารโดยเจียม
	ถ้อยคำอันเ รียมลิขิต
	อาจเจือวลีมีพิษ
	นั่นเป็นด้วยฤทธิ์ทุกข์ทบ )


บทสอด  


	
(12.	กล่อมลมหายใจด้วยไผ่สีกอ
	กล่อมฤดีต่อด้วยช่อผักตบ

	อุ่นหัวใจหนาวด้วยตาของวัน
	อุ่นความคิดฝันด้วยมิตรที่คบ

	แบ่งเขียดแบ่งกุ้งปันปูปันปลา
	แบ่งปิ้งปลาร้าแบ่งแกงคั่วกบ

	หาอยู่หากินปลูกกินปลูกใช้
	ขิงข่าตะไคร้ลงไว้จนครบ

	พวกไผ่พวกพร้าวมะนาวมะเฟือง
	เขียวแดงขาวเหลืองค้นหาประสบ

	ขอซื้อขอหามาปลูกมาฝัง
	มีฝน-ชีวิตยัง   ข้าน้อยนั่งนบ)				
2 พฤศจิกายน 2547 00:54 น.

:::มาจากชายขอบอารยธรรม 1:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


1.  ย้อนวันคืนหาห้วงเยาว์
     ขลาดเขลาเง่าโง่โซซ้ำ
     เปื้อนโคลนทั้งร่างด่างดำ
     ตากตรำกรำงานปานควาย

2.  มาจากชายขอบสังคม
     ตกจมทุกข์ข้นจนพ่าย
     สัมผัสหิวพาตาลาย
     เกือบตายไร้อันใดกิน

3.  แถนฟ้าเทวาคงชัง
     บ่หลั่งฝนนองท้องถิ่น
     คนนาหลั่งน้ำตาริน
     เก็บกินเผือกกลอยมันกา

4.  ต่อวันเนาพงดงดอน
     หมดทางก็จรจบหล้า
     เพื่อขอทานข้าวพริกปลา
     ขอต่อเวลาชีวัน

5.  เป็นประชาชนจนโซ
     พุงโลหน้าตาน่าขัน
     หัวโตสมองตีบตัน
     บ่เป็นชนชั้นปัญญา

6.  ได้ยินกาพย์ฉันท์คร่าวโคลง
     หัวใจก็โยงเชื่อมหา
     อยากร้อยบทพจนา
     ก็สุดปัญญาวงดง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์