18 กุมภาพันธ์ 2549 18:54 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ผมได้หนังสือเล่มใหม่มาเมื่อวาน
อ่านได้ครึ่งเล่มเมื่อคืน
และอ่านใกล้จบเมื่อบ่าย
ทว่าก่อนจะค่ำ ผมกลับทนไม่ได้ที่จะอ่านหนังสือเล่มนั้นให้จบเล่ม
ใช่แล้ว...ผมนึกอยากจะเขียน
2. เมื่ออ่านหนังสือเล่มนั้นในบทที่ 2
มันทำให้ผมรู้ว่าผมคงได้จงใจลืมบางสิ่งบางอย่าง
หรือหันหลังให้มันเพราะเหตุผลที่ไม่ใช่เหตุผล
เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว
3. สิ่งนั้นในอดีตเมื่อนึกถึงยามใด
มันให้ความรู้สึกระคนปนเประหว่างเหงาคว้างระทมขม
กับความสุขเปี่ยมเต็มเอมอิ่ม
มันเวียนวนเข้ามากระทำต่อหัวใจดวงเจียมของผม
อย่างค่อนข้างขัดแย้งแต่จริงจัง
4. เมื่อกลับไปหากวีบทเก่าที่เคยเขียนในห้วงกาลนั้น
ความรู้สึกที่เร้นอยู่เงียบงันก็เผยตัวออกมา
5. ไม่อยากจะเอ่ยเลย
แต่ก็ต้องเอ่ย
จริงอย่างที่สุด..ผมคิดถึงคุณ
บทกวีบทเดียว..ของผม
11 กุมภาพันธ์ 2549 05:55 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
กากนรกานต์ฤาสำเนียก
พ่นน้ำลายเปียกเปรอะ
อำพรางกรรมอันฉล
หมายกล่อมคนให้เลือนเลอะ
จาบจ้วงอาทิตย์จันทร์
ตนเล่าแมลงวันหลุมเกรอะ
ยกยอสอพลอมิเพลา
แกล้งเขลาและงะเงอะ
กากนรกานต์ ณ กาล
เร่งนาทีอวสาน เถอะ
8 กุมภาพันธ์ 2549 21:13 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. อะโถ..อะโหวิเศษฉะนี้
สิ บ่ทำบ่ดีได้ไฉน
เงินทองของชาติบาดหทัย
สิ บยักได้เช่นใดในช่วงฟู
2. ฟ่องฟองฟ้องฝันฟังสิฟัง
ล้อมหน้าล้อมหลังเร็วหัวหมู่
ใครมาบ่เร้นจะเอ็นดู
ไหนนะป้ายชูว่าจะเชียร์
3. ห้าปีด่างพร้อยน่ะน้อยนิด
สามสมัยคือสิทธิ์บ่มีเสีย
เถิดทะแกล้วครูบามาเชลียร์
สยบต่อเวิ้งเมีย มเหาฬาร
4. ไผชมชวนชื่นจะชุบชู
เลี้ยงดูข้าวปลาและอาหาร
อิ่มเอื้ออันอวยรวยหว่านทาน
มาเถิดปริวารเนืองไผท
5. สิบปีสิครองอเนกชน
มาสิหยิบสินบนบังไถง
บหยิบสิหวังวิมานใด
ไหนฤาสิยาไส้เริงลำพอง
6. ดินแดนดงด่านบรรดาดง
สิออกขายตรงแลถ่ายผ่อง
ทวยเทศโดยรอบสิครอบครอง
ทวยถิ่นสิ้นของอันเคยคุม
7. มาเร็วมาเร่งศิโรราบ
หมอบกราบยอกรเป็นกลุ่มกลุ่ม
ไผบ่ยอมรับสิจับกุม
อย่างน้อย บคุ้มกันกบาล
8. อะโห อะโถวิเศษฉะนี้
สดุดีจึงจะถูกนะลูกหลาน
ยักหน่อยใยว่าจมบาดาล
เดี๋ยวบ่เกืออาหารสิโหยเฮย
9. ฯ
6 กุมภาพันธ์ 2549 12:46 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.ไม่นบประชาชนให้รู้ไป
บังไถงด้วยผงคลีนิรันดร์หรือ
อวดที่อาจเม้มขมิบแค่หยิบมือ
แล้วออกดื้อสบถหยาบขนาบชน
2.ประชาชาติแดนใดฤาจะกลัว
ดีชั่วก็แจ่มแจ้งทุกแห่งหน
แม้อาจต้องละปราณในการกล
แห่งเหล่าฉ้อผู้คนบมิเกรง
3.ยืนหยัดแข็งขืนยังยืนหยัด
บคร้ามภัยรัฐจะข่มเหง
รัฐบรักประชาชนเชิญประเลง
ไทถ้วนสิตอบเพลงประดากัน
4.มาจากประชาชนใยเหยียดชน
ดูพร่ำก่นง่าวเหม็นเห็นการณ์ขัน
หมื่นแสนไทยืนข้ามคืนวัน
ไทถ้วนเขาเชื่อมั่นต่ออันใด
5.ชนเห็นภาพภัยเต็มนัยน์ตา
ความขื่นเข็น ณ แหล่งหล้าที่อาศัย
ชาวชนจึงเชื่อมมืออาทรผไท
เปล่งเสียงแห่งยุคสมัย เผด็จมาร
ฯ
4 กุมภาพันธ์ 2549 13:48 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ฝันดีไหมที่รัก
การรบจะแตกหักหรือหลีกหาย
ที่มั่นวันนี้มีอันตราย
หรือปลอดภัยริปูพ่ายแก่พวงเรา
2. กุหลาบนี้ให้ที่รัก
เพื่อให้เป็นแรงผลักพ้นภาพเก่า
ในวันอาจว่ายฟ้ายากหาเงา
จะปลอบใจเธอเท่าเธอพึงใจ
3. จูบฉันเถิดที่รัก
ภาระอันหน่วงหนักอันไหนไหน
จะเคียงเธอจะเคียงกันทุกวันไป
ข้ามโพ้นฟ้าอันพวยไฟมันโรมรุม
4. เจ็ดหมื่นสองพันล้านนั้นที่รัก
คงพอจะตั้งหลักในหล่มหลุม
โลกันตมหานรกเลกพลชุม
กอดฉันเถิดจะพาดุ่มนรกานต์
ฯ