9 พฤษภาคม 2549 06:15 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
เคี่ยวกรำโดยลำพัง
หทัยหวังถึงเป้าหมาย
ความหวังก่อนวางวาย
คือสืบสายคนสมหวัง
เส้นทางเขาผู้ท้อ
เห็นตอนก่อแล้วแก่ชัง
พับพ่ายในตอนหลัง
บถึงฝั่งอันตนฝัน
นับนิ้วเริ่มแต่หนึ่ง
เห็นจริงจึงอัศจรรย์
ว่าคนบนฝั่งนั้น
ล้วนข้ามวันอันเปลี่ยวเขลา
บาดแผลที่แลเห็น
บอกประเด็นอันบเบา
กรำการชำนาญเข้า
ท้ายแปรเฉาเป็นโชนฉาย
บมีผู้ถึงฝั่ง
วาดความอันหวังอันจางวาย
ทั้งมวลล้วนต้องว่าย
ข้ามห้วงน้ำความขื่นขม
บนฝั่งของความฝัน
เกษมสันต์เอิบอารมณ์
เคี่ยวกรำบเลิกล้ม
จึงเริงรื่นฉะนี้นอ !!
ฯ
8 พฤษภาคม 2549 06:37 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. ตาวันตอนรุ่งเช้า................โชนแสง
ดวงเด่นสีแสดแดง...........ส่องด้าว
ยิ่งสายยิ่งแดดแรง.........คมแผด คนนอ
ยามบ่ายยลยิ่งกร้าว.....รุ่มร้อนแรงเหลือ
2. เย็นเจือดาวแต่งฟ้า.............ไวแสน
แดดอ่อนยลเขตแมน.......ผ่อนห้าว
ราตรีย่อมเริงแดน.........ดาวเด่น
เห็นแต่ดาริกาก้าว......ก่องฟ้าเคียงไถง
3. ใยใจจึงบ่รู้............................รนขม
หลงสิ่งพาขื่นตรม..............บ่น้อย
บางอย่างห่อนนิยม.........ยังเปลี่ยน แปลงนา
ลายขุกฤาน่าพร้อย....พร่างเคล้าหทัยสหาย
26 เมษายน 2549 00:45 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
๏ ดาวรายในค่ำนี้...............งามเหลือ
ใจห่อนมีขุกเจือ............แต่น้อย
อันบังบดเป็นเบือ........เมฆห่าง แลเฮย
ยลหมู่ดาวพร่างพร้อย..อิ่มเอื้ออวยถวิล
๏ เรียมยินหรีดหริ่งร้อง.........ราวเหริง
ฟังกล่อมกมลบันเทิง....เยี่ยมแท้
ดวงมาลย์ซ่านสะเริง.....ราวอิ่ม ทิพย์นอ
ชลอรุ่งเอมอกแล้........อย่าเร้นราหาย
๏ ดาวรายเรียมรื่นซึ้ง................ทรวงแสน
ใจห่างอย่างเขตแวน.........เวี่ยว้าง
คืนวันหวั่นขอบแมน........ไกลห่าง กันฮา
ดาวห่อนดาลอกคว้าง.......ค่ำนี้คลายหมอง
24 เมษายน 2549 20:48 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
สหาย..
เราเองล้มไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
คลุกคลานอยู่ตลอดเวลาแห่งช่วงชีวิต
ทุกครั้งที่ล้ม
เราไม่เคยหลั่งน้ำตา
และเราไม่เคยคิดว่าพ่ายแพ้
มันคือสภาพการณ์ที่เราจัดการมันได้น้อยไปเท่านั้นเอง
ก็อะไรสามารถอยู่ในอาณัติของเราได้จริง ๆ
และมีอะไรจริง ๆ ที่เราสามารถกำหนดเอาเองได้
จากกำลังเงิน อิทธิพล หรือเล่ห์ของเรา
มันเป็นเพียงบางสิ่งอย่าง
มันไม่ใช่ทั้งหมด
ก็เมื่อเรารู้เช่นนั้น
เราจักร่ำไห้ หรือหลั่งน้ำตาทำไม
เราลุกขึ้นใหม่ทุกครั้ง
เราไม่ย่ำย้ำรอยเดิมเลย
ถ้าจะยอมเป็นทาสของการเปรียบเทียบ
ก็ลองเปรียบดูเถิด
เราด้อยกว่าสหายในทุกทาง
แต่เราไม่เคยตัดพ้อความแร้นแค้นของชีวิต
ด้วยความทุกข์ระทมขมขื่นเลย
เราผ่านและยิ้มให้มันเสมอ
21 เมษายน 2549 06:21 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
๏ ทบรอยอันย่นแล้ว................นอหนัง
ผิวผ่องกลายกร้านดัง.........ผื่นด้าน
คำชมกร่อนเป็นชัง..........ชอบเปลี่ยน ฤาเฮย
บางสิ่งทวนขื่นต้าน.........ห่อนเอื้อวงฝัน
๏ ตะวันจันทร์แต่งให้..............ฤาหือ
อันแจ่ม บ กระพือ.............เผื่ออ้าง
อันมัวเร่ง ระบือ..............โดยห่อน โรยแฮ
วนหวั่นเวียนอ้างว้าง.....หน่วงช้ำเนืองเฉา
๏ โอเราคงยิ่งล้า.......................ทรวงหลอน
ขวบขุกหนึ่งอาภรณ์............ห่มหุ้ม
ขวบฝันกี่ขวบหอน..........โหยอยู่ นอ-ฮา
ไกลฝั่ง? ใยโอดกลุ้ม.....ตลิ่งใกล้ครืนแขยง ๚