12 กรกฎาคม 2547 03:51 น.

เยือนมิตร(ต่อ) นอน นั่ง-ข้างกองไฟ

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


มิตรผู้มาจากทางไกล
จอดโฟว์วีลคันใหญ่ไว้ด้านหลัง
ของเรือนฟากไม้ไผ่	ใต้เงาบัง
ของกอไผ่ทรงฉัตรรั้งม่านราตรี

	กล้าปลูกเรือนไม้ไผ่ไว้หลายเรือน
ก็เพื่อเพื่อนเพื่อพ้องเพื่อน้องพี่
ยามมาเยือนเถื่อนไพรจะได้มี-
ความสบายชีวี-มีที่พัก

	ลานโล่งตรงกลางกว้างยาว
เผื่อเพื่อนอยากชมดาว-ดาราจักร
นอนผิงไฟกองใหญ่อุ่นใจนัก
ได้ผิงดาวร้องเพลงรักอันอาทร
	
	--------------------------

	พักใจเถิดสหาย
คงผ่อนคลายได้พักผ่อน

เรือนเราคือเรือนเพื่อน
ไมตรีเหมือนกับบทกลอน

ที่ร้อยเรียงโยงเป็นใย
ด้วยคำใสสวยสลอน

เยื่อใยในน้ำมิตร
ร้อยดวงจิตเคยคว้างจร

ให้เนาและแนบนาน
ในดวงมาลย์ละมุนอ่อน

คืนนี้ขอเคียงขวัญ
ร้องเพลงกัน-ภราดร

-------------------

	นุชและแพงทำแกงยอดผัก
รสจัดนักซดซ่านดาลร้อน

กล้ากับเพียอ่อมเพี้ยหมูป่า
สับเนื้อปลาทำปลากั้งก้อน

ปูภูเขาหวานเร้าลิ้นเรา
ย่างหรือเผาเอาไฟอ่อนอ่อน

สุกอวลหอมยั่วน้ำลายเปรี้ยว
กินครั้งเดียวเดี๋ยวอยากให้สอน

เอาไปทำกินเองที่บ้าน
บางทีอยู่นี่นานได้งานครัวสะออน

---------------------

	อาหารป่าละมุนรสด้วยเมรัย
จิบไปอย่างกันเองไม่เร่งร้อน
เสวนาออกรสทุกบททุกตอน
แนมเพลงอ้อนด้วยบ้างเป็นบางครา
	
---------------------

	(แดดอ่อนอ่อนในตอนเช้า
ให้เงายาวทอดทาบนา
น้ำขังเจิ่งสะท้อนฟ้า
ดาลอุราอ่อนไหว

เพราะฝนตกเมื่อคืนนี้
ปลามากมีคงดีใจ
ได้ว่ายแหวกในน้ำใส
ได้ออกไข่ได้ลูกปลา

แสงแดดอุ่นนี้คุ้นนัก
เหมือนความรักของคุณ
ตักนิ่มอ่อนเคยนอนหนุน
ผมรักคุณหนักหนา

ยามเมื่ออยู่เคียงใจ
ผมไม่เคยคิดลา
ผมรักคุณเท่าท้องฟ้า
ถามปลาดูก็ได้

ผม  รักแต่คุณ
คุณ  คุ้นหัวใจ
อ้อมกอดก็อุ้นอุ่น
ยิ้มของคุณยิ่งคุ้นใหญ่
ดาลใจดลหัวใจ
ให้ผมยิ้มให้โลก)

--------------------------
	
ลา... ลัน ลัน ลา
หา... หา หา ฮา

ดู... ดู่ ดี้ ดา
มา... เรามายิ้มด้วยกัน

----------------------------

กองไฟกองนี้อุ่นหลาย
ผิงอุ่นซำบายสุขขวัญ

ฟังเพียและเพื่อนขับกล่อม
ถนอมไมตรีซึ้งวัน

ซึ้งคืนยามคืนมาซึ้ง
ขอจำคืนหนึ่งนี้นั้น

ไปถึงวันหน้าโน้นเทียว
ที่อาจเปล่าเปลี่ยวอ่อนเพลีย

--------------------------

      มัท  เรนจะเป็นนักร้อง
มาเถิดเพื่อนผองมาเชียร์

คุณพุดจะเป็นลูกคู่
คุยพายุอยู่ไหนเสีย

อ๋อหลับหรือเพลินนับดาว
เพลียก็หลับยาวเถิดเฮีย

นอนฟังน้องมัทจะกล่อม
ด้วยเสียงใสออมอ้อนเคลียร์

------------------

(เยี้ย   เยี้ย   เยีย
ฮื้อ  ฮื้อ  ฮือ

 คนคนนี้ใช่ไหม
ที่เธอมีใจคอยดูแล
แต่คนคนนี้สิดูไม่แคร์ไม่ใส่ใจ

คอยปลอบอย่างนี้
คอยปลอบอย่างนั้นให้มั่นใจ
แต่คนคนนี้ใช่ไหม
ที่ทำให้ใจเธอร้าวราน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย
ที่เธอมีต่อฉัน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย
แต่อยากทำไปอย่างนั้น
ฮื้อ.ฮื้อฮื้อ  ฮือ
ฮื้อ.ฮื้อฮื้อ  ฮือ

โลกของใคร
ทำไมเล่าจึงดูต่างกัน
และโลกของฉันทำไมเล่ามันเริ่มสั่นไหว
อยากอยู่ลำพังคนเดียวคนเดียวแม้เปลี่ยวใจ
ฉันไม่อยากให้ใครต่อใครเห็นขบขัน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย
ที่เธอมีต่อฉัน

ฉันซึ้งแก่ใจ
ในความรักความห่วงใย
ที่เธอมีใจให้กัน

เย้   เย้   เย
ฮื้อฮื้อ   ฮือ

-------------------------

	คุณพายุลืมหลับขยับเชียร์
คุณมัดหมี่จึงหายเพลียได้อีกอื้อ
แต่เพื่อนเรนเหนื่อยล้าจนตาปรือ
เรนแกล้งเพื่อนโดยดื้อคือดีดคาง

---------------------------

จะหลบหลับในหนีหรือนี่นาย-
อินและจันจะฝันร้ายรู้ไว้บ้าง
ตื่นตื่นตื่นฟื้นขึ้นมาอย่าอำพราง
นี่กาแฟแกเอาถ่างตาก่อนซี

-----------------------------

   วายดูไอเลิ้ฟยูโซ โอโนโน่
ว่าโอ๋โอ้เรนใจร้ายกะไรนี่
ตอนขามาแกล้งอย่างกะอะไรดี
หรือเห็นว่ามักจี่แกล้งบี้ใจ

     ตื่นก็ได้ไม่ยากนักหรอกเนาะ
แต่ขอเพลงที่ไม่เพราะหน่อยได้ไหม
ให้จังหวะมันกระชับกะชูใจ
พี่กล้าใส่เบสสลับสับด้วยมือ

      ส่วนพี่เพียลงคอร์ดฉับฉับส่ง
ใช่เลยแหละผมคงฮำหื่อฮื้อ
คอยดูเถอะถ้าเรนมาทำตาปรือ
จะดีดคางบ้างถือว่าตอบแทน

-----------------

แทม  แทม แทม  แทม แถ้ม แถ่ม
แดว  แดว แดว แดว  แด๋ว  แด่น

 รัก..   รัก  รัก รัก  บ้างเถอะ
เธอ   เธอ  เธอ  จะรักใคร

บอก  บอกเขาที
ว่าคุณมีใครในใจ

แดว  แดว  แดว  แด่วแด๋ว แด่ว
แดว  แดว  แดว  แด่วแด๋ว แด่ว

บอก  บอกเขาที
กินแห้วมี   อนามัย ?



---------------------
(มีต่อครับ)				
7 กรกฎาคม 2547 00:39 น.

ถึงบ้านกล้า-เยือนมิตร(ต่อ)

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์



	ภูทรงโต๊ะรูปหัวใจสูงได้แหงน
ชื่อของภูหมู่แฟนแสนสนิท
เคยปีนภูดูเมฆไหวโดยใกล้ชิด
เคยพินิจสวนสนบนหลังภู

	มาหนนี้ไม่ปีนเขาขอเนาบ้าน
มาสลัดความเหนื่อยคร้านที่อูดอู้-
ในกมลสันดานนานพอดู
มาเพื่อชูชีวันขอปันแรง

	ขอหน่อยขอพลังจากเธอหน่อย
ไม่ขอบ่อยหรอกน่าอย่านึกแหยง
มาขออาบน้ำเย็นยามค่ำแลง
มาขอกินฟักแฟงจากแหล่งไพร

	มาขอชมดาววาบมาอาบหมอก
มาขอฟอกปอดคล้ำให้คืนใส
มาขอซบไอดินเก็บกลิ่นไอ
มาเติมไฟต่อฟืนคืนกำลัง
	
	-----------------------------------

	มิตรผู้มาจากทางไกล
จอดโฟว์วีลคันใหญ่ไว้ด้านหลัง
ของเรือนฟากไม้ไผ่	ใต้เงาบัง
ของกอไผ่ทรงฉัตรรั้งม่านราตรี

	กล้าปลูกเรือนไม้ไผ่ไว้หลายเรือน
ก็เพื่อเพื่อนเพื่อพ้องเพื่อน้องพี่
ยามมาเยือนเถื่อนไพรจะได้มี-
ความสบายชีวี-มีที่พัก

	ลานโล่งตรงกลางกว้างยาว
เผื่อเพื่อนอยากชมดาว-ดาราจักร
นอนผิงไฟกองใหญ่อุ่นใจนัก
ได้ผิงดาวร้องเพลงรักอันอาทร
	

(มีต่อครับ)				
4 กรกฎาคม 2547 04:09 น.

เยือนมิตร(ต่อ)

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ว่าไงจ๊ะมัทโทรหาว่าจะได๋
จะมาถึงเมื่อไหร่ศุกร์หรือเสาร์
บอกอย่าเปลี่ยนใจนะยอดกระเพรา
อยากพบเพื่อนพ้องเรา    อย่างพร้อมเพรียง

พร้อมเพรียงเรียงหน้าช่วยยาใจ
ยื่นมือให้   ถือกุม ให้สุ้มเสียง
ท้อก็คลาย  หน่ายก็ซา   ถ้าเธอเคียง
มีแรงเรียงร้อยพจน์เป็นบทกลอน
----------------------------
	นงนุชยื่นมือถือให้คนถาม
ก็ได้ยินถ้อยความตามคลื่นอ้อน
จากมัท,เรนว่าเย็นนี้ถึงแน่นอน
อย่าตัดรอนไมตรีเคยมีมา

	ตื่นเต้นอยากเห็นเขาลำเนาไพร
ดีใจจะได้พักในป่า
อยากจะยลหมู่ดาวอันพราวตา
ฟังเรไรร้องหาความอาทร

	มีเพื่อนใหม่ติดรถมาด้วยแหละ
คุณพายุนั้นจะแวะรับเพื่อนก่อน
ที่สถานีรถไฟฯในนคร
ก่อนออกจรมาตามความผูกพัน

	ทวนดู  เที่ยวนี้มีใครมั่ง
คุณพายุ , น้องเรนจัง , มัทช่างฝัน
เพื่อนของเรนอีกสองอินกับจัน
พุดพัดชาอีกรวมกันเป็นหกคน

	มัทฝากบอกคุณกล้าว่าคิดถึง
ขอลิ้มแจ่วลวกตำลึงอีกซักหน
อาหารป่ายังพิมพ์ใจต้องกมล
น้ำใจคนบ้านไพรต้องใจแท้

-----------------------------------
	ครับผมรับทราบแล้วรับทราบแล้ว
-----------------------------------

	ไปกันเถิดเกลอแก้วและพิมพ์แข
ขอบคุณมากที่ยังคอยไม่ลอยแพ
ใกล้จะถึงแล้วแน่แน่ไร่เรือนนาย

----------------------------------
	
	ถึงหมู่บ้านของกล้าก็บ่ายคล้อย
เรือนชาวบ้านใหญ่น้อยมีหลากหลาย
บางหลังอยู่ใกล้เคียงเห็นเรียงราย
ห่างออกไปอีกมากมายมีไม้บัง

	เสียงตำข้าวด้วยครกกระดกกระเดื่อง
ก็ได้คิดถึงเรื่องราวเก่าหลัง
ยินเสียงน้ำตาดผาซู่ซ่าดัง
ก็ได้นั่งทบทวนอดีตตน

	ยินเสียงไก่เป็ดหมูและม้าหมา
ก็นึกย้อนเวลาอันสับสน
ยินเสียงคนเป่าแคนกล่อมผู้คน
ก็เห็นวันอันผ่านพ้นไปนานวัน

	ไปลำบากตรากตรำทำงานเมือง
จนซีดเหลืองโรยหล่าดูน่าขัน
อากาศเจือพิษจมก็ดมกัน
น้ำเน่าเหม็นก็สูดมันเสียหมดเมือง

	แย่งกันอยู่แย่งกันกินแย่งกันขาย
ก่อปัญหาหยากยายไว้หลายเรื่อง
โฉมภายนอกเปล่งปลั่งมะลังมะเลือง
เนื้อในเน่าหนองเนืองมีหนอนนอง

	แต่ก็ทนกันอยู่ทนกันอยู่
เพราะไพเฟื้องเฟื่องฟูจนฟู่ฟ่อง
ก็มันเฟ้อเกร่อเกินทั้งเงินทอง
คนจึงกองกันโกยโดยจำทน

	เหนื่อยเหลือแล้วแจวมาคลายล้าร้าว
ขอซบกายกับดินด้าวแดนไพรสน
ขอยินเสียงแดนดงเวิ้งวงตน
พักกมลพินิจดาวคราวราตรี

	ขอร้องเพลงกล่อมเพื่อนกล่อมพวกพ้อง
เพื่อให้ใจผุดผ่องนะน้องพี่
จันทร์วันเพ็ญเห็นคราวใดก็ใจดี
อยากให้ค่ำคืนนี้เรามีเรา
	
	-------------------------------


           พายุ มัท อิน จัน เรนและพุด
ค่ำ - ถึงจุดนัดหมายใกล้เนินเขา
เมื่อเห็นเพื่อนชื่อกล้ามารับเอา
ก็ให้เบาใจบ้างคลายกังวล

          หกมิตรบนโฟว์วีลคู่ขวัญ
ไต่ผาชันตามสองล้อโดยบ่บ่น
มิตรเคียงมิตรร่วมเส้นทางต่างตำบล
เหนื่อยก็ทนหากบ่ท้อเลยต่อทาง

          อุ่นใจ เบาใจ บวกเชื่อใจ
ปลอดภัยพ้นเข็ญขุกได้ทุกอย่าง
ถึงเรือนกล้าความหวาดขามก็คลายจาง
จันทร์กล่อมบางใจกล่อมใจสมใจมิตร



(มีต่อครับ)				
2 กรกฎาคม 2547 06:08 น.

เยือนมิตร(ต่อ)

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


ถึงหมู่บ้านของกล้าก็บ่ายคล้อย
เรือนชาวบ้านใหญ่น้อยมีหลากหลาย
บางหลังอยู่ใกล้เคียงเห็นเรียงราย
ห่างออกไปอีกมากมายมีไม้บัง

	เสียงตำข้าวด้วยครกกระดกกระเดื่อง
ก็ได้คิดถึงเรื่องราวเก่าหลัง
ยินเสียงน้ำตาดผาซู่ซ่าดัง
ก็ได้นั่งทบทวนอดีตตน

	ยินเสียงไก่เป็ดหมูและม้าหมา
ก็นึกย้อนเวลาอันสับสน
ยินเสียงคนเป่าแคนกล่อมผู้คน
ก็เห็นวันอันผ่านพ้นไปนานวัน

	ไปลำบากตรากตรำทำงานเมือง
จนซีดเหลืองโรยหล่าดูน่าขัน
อากาศเจือพิษจมก็ดมกัน
น้ำเน่าเหม็นก็สูดมันเสียหมดเมือง

	แย่งกันอยู่แย่งกันกินแย่งกันขาย
ก่อปัญหาหยากยายไว้หลายเรื่อง
โฉมภายนอกเปล่งปลั่งมะลังมะเลือง
เนื้อในเน่าหนองเนืองมีหนอนนอง

	แต่ก็ทนกันอยู่ทนกันอยู่
เพราะไพเฟื้องเฟื่องฟูจนฟู่ฟ่อง
ก็มันเฟ้อเกร่อเกินทั้งเงินทอง
คนจึงกองกันโกยโดยจำทน

	เหนื่อยเหลือแล้วแจวมาคลายล้าร้าว
ขอซบกายกับดินด้าวแดนไพรสน
ขอยินเสียงแดนดงเวิ้งวงตน
พักกมลพินิจดาวคราวราตรี

	ขอร้องเพลงกล่อมเพื่อนกล่อมพวกพ้อง
เพื่อให้ใจผุดผ่องนะน้องพี่
จันทร์วันเพ็ญเห็นคราวใดก็ใจดี
อยากให้ค่ำคืนนี้เรามีเรา
	
to  be   continue				
26 มิถุนายน 2547 03:05 น.

จะเดินทางกันหรือยัง -เยือนมิตร(ต่อ)

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์


กะจะเอาเชอโรกีขี่ไป
ยังขับไหวแถมมีใจรักด้วยสิ
รักไต่ภูรักดูไพรใครพาริ
นุชเพียกล้าอิอิพามัทเป็น

------------------------------------

	เย็นอยู่เถิด!!หมี่แก้ว..ก็องก็อย
รอก่อกรอใจคอย...บ่าวเอื้อม
หรือใครก่อรูปรอย  แก่จิต   อยู่นา
จึงปล่อยเกลอเกริ่นเฟื้อมฟั่นเฟื้อน เฟือนฟัง

	ยังคอยมัทเพื่อค้างกลางไพร
เพียเอ่ยบอกบ่ไกล...ดอกจ้า
เชิญเยือนถิ่นชูใจ.นี่เถิด	  แม่เอย
มาเลยโปรดอย่าช้า...พี่น้อง ครองคอย

------------------------------------

	จะมาแจมหรอกน่าคุณนงนุช
เพราะรักเพื่อนที่สุดอยากหยุดหงอย
นุชมีเพีย-มัทมีใครเฮ้อ!ใจลอย
ละล้าละลังเกินร้อยแล้วหนอเรา ฯ

-------------------------------------

	ว่าไงจ๊ะมัทโทรหาว่าจะได๋
จะมาถึงเมื่อไหร่ศุกร์หรือเสาร์
บอกอย่าเปลี่ยนใจนะยอดกระเพรา
อยากพบเพื่อนพ้องเรา    อย่างพร้อมเพรียง

--------------------------------------

พร้อมเพรียงเรียงหน้าช่วยยาใจ
ยื่นมือให้   ถือกุม ให้สุ้มเสียง
ท้อก็คลาย  หน่ายก็ซา   ถ้าเธอเคียง
มีแรงเรียงร้อยพจน์เป็นบทกลอน



to  be  continue				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
Lovings  ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์