17 สิงหาคม 2548 20:37 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. กโลบายแต่งแต้ม.......ตัวหอน
บังแก่นกุมนาคร........กร่างกร้าว
ออกกิจซ่อนองค์กร......โอบาทว์
ฉกาจเกลี่ยเงิน-ง้าว....แก่พ้องพงศา
2. บังตาราวเล่นล้อ......ลวงขุน
ถลกม่านเอ่ยละมุน.....ม่วนซึ้ง
กรรมหากบ่เป็นบุญ....เบียนบ่อน ชนเฮย
อวยกลุ่มรุมฉีกทึ้ง.......รื่นแร้งโซรมสยอง
3. ก่ายกองพลปลกเปลี้ย..ปนเขลา
หมกมุ่นสิ่งมัวเมา........ยั่วย้อม
บ่มีสิ่งบรรเทา..............ฤทธิ์บาป
คำสาปเรืองทั่วพร้อม...ข่มเค้นคนหาญ
4. แมนปานบรรษัทค้า....คุมสาย
เมืองดั่งแผนกขาย......หน่วยห้าง
พลเมืองสืบต่อสาย.......แร้นสิทธิ์
ชิดม่านเห็นใดบ้าง......เอ่ยถ้อยเทอญสหาย
ฯ
15 สิงหาคม 2548 21:58 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
ปอนเปียกไป่หวั่นคร้าม......คราวฝน
หนาวหน่วงยังอดทน.............บ่ท้อ
หัวใจบ่อับจน-.......................ฝันแจ่ม ดอกนา
เพียงแต่อย่าตัดพ้อ...............ต่อฟ้าราวแขยง
มีแรงพร้อมต่อก้าว..........เติมสมัย
หวังเพื่อนเอื้อใยใจ..............หนึ่งบ้าง
ราตรีกล่อมใจใด..................สุขเปี่ยม เ ต็มเฮย
วานกล่อมใจอ้างว้าง..............ผ่อนร้าวเรียมหมาย
ฯ
14 สิงหาคม 2548 11:08 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.อลอึงอึ่งอ่างเอื้อน.....ออฝน
เขียดแข่งครึกระคน.....ค่ำครื้น
วสันต์ส่งม่านมนต์........มาสู่ นานอ
กบกล่าวลำนำรื้น.........ฉ่ำน้ำนองสนาน
2.เนื่องนานนาเอ่อน้ำ..นองไหล
พรูถั่งหลั่งหลามไกล.......กล่นห้วย
ปูปลาปรี่ออกไป.............ปลีกเปลี่ยน วังเฮย
สมส่งวงเวิงด้วย............ไข่ฟ้องฟองฝัน
9 สิงหาคม 2548 19:39 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เมื่อวานผมกับลูกช่วยกันกรอกดินลงถุงเพาะ
เรากะจะปลูกมะละกอไว้กินสุกช่วงเมษา
ผมจึงขนปุ๋ยคอกไปผสมกับทราย กองไว้ใต้ร่มไม้ เพื่อให้ลูกเริ่มงานที่ว่านั้น
2. ลูกกรอกดินได้หลายถุงเรียงกันไว้ในกะละมัง
ผมลงมือกรอกทีหลัง ไม่นานก็ทำได้เกือบเท่ากัน
3. เราไม่ได้สังเกตว่าแม่ไก่ที่คุ้ยเขี่ยอยู่แถวนั้นพาลูกๆออกไปที่ไหนแล้ว
และผมก็ไม่ได้สังเกตว่ามีลูกไก่ตัวน้อยตัวหนึ่งยังเขี่ยคุ้ยหาเศษเมล็ดข้าว
อยู่ตรงนั้นด้วยตัวหนึ่ง
4. ผมถามลูกว่า หนูอยากได้ค่าแรงกันไหม
ลูกว่า.. ก็พ่อให้ค่าขนมเราอยู่ทุกวันแล้ว ทำไมต้องจ่ายค่าจ้างอีก
ผมยิ้ม และว่า เข้าใจพูดดี พ่ออยากให้ค่าจ้าง เพื่อให้ลูกเห็นคุณค่าของงาน
ถ้าลูกไม่รับ งั้นพ่อขอเลี้ยงไอติม
ลูกยิ้มและตั้งใจทำงานขึ้นอีก
5. ขณะที่ผมกำลังจะหยิบถุงดำอันสุดท้ายเรียงในกะละมัง
ผมก็ได้ยินเสียงสัตว์ตัวเล็กหวีดร้องเล็กแหลม หาบางสิ่งบางอย่างที่จะปกป้อง
คุ้มภัย
ลูกเจี๊ยบนั่นเอง...
มันถลาเข้ามาซุกซอกกะละมังที่เราทำงานกันอยู่
ไวเท่ากัน ผมก็ได้เห็นเหยี่ยวเล็กนัยตาคมกริบโฉบมาจับที่รั้วไม้ไผ่ห่างจาก
มือผมไปไม่เกินวาครึ่ง
สัตว์นักล่า ไม่ยอมขยับไปไหน มันจ้องมาที่ผมและดูท่าที
ลูกชายของผมว่า..ดูซิ นกตัวนี้มันกล้าน่าดู
คนกับสัตว์นักล่าจ้องกันอยู่นานนับนาที
ชั่วอึดใจอันอึดอัดนั้นลูกเจี้ยบก็ขยับจากซอกกะละมังเข้ามาซุกข้างขาของผม
ไวเท่าคิด แม้ไม่ได้มีสัญชาตญาณของแม่
ผมก็รู้ว่าลูกเจี๊ยบไม่ปลอดภัยจากสัตว์นักล่า(หน้าด้าน-คำของลูก)ตัวนั้น
ผมหยิบก้อนหินก้อนเล็กเขวี้ยงออกไป
นักล่าไวกว่า
มันพลิกปีกบินขึ้นไปจับหลังคา
คราวนี้ผมหยิบหินก้อนใหญ่ขว้างตาม
เนื้อตัวอุ่นๆของลูกเจี๊ยบเหมือนสั่นริก
ไม่ทันที่ผมจะจับไก่ตัวน้อยขึ้นมาปลอบ
เจ้าเจี๊ยบน้อยก็ผละจากที่กำบังชั่วคราวโผเข้าหาที่กำบังถาวร
ที่ห่างออกไปอีกวา
แม่ไก่นั่นเอง คงกลับมาตามหาลูกตัวดื้อ
ด้วยรับรู้ถึงภัยร้ายที่จะเกิดและเสี่ยง อยู่ทุกเวลานาที
6. วินาทีนั้น..
ผมคิดถึงอ้อมกอดและความรักของแม่ขึ้นมาอย่างจับจิตจับใจ
7 สิงหาคม 2548 23:35 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1. เอมเอยอวลอิ่มซึ้ง..........ทรวงขวัญ
ไออุ่นอ้อมกอดอัน..........โอบเอื้อ
เต็มตาตื่นรับวัน............เต็มอิ่ม แม่เอย
อ้อมอกอุ่นอะเคื้อ............แม่โน้มนำถนอม
2. แม่ยอมแม้เหงื่อย้อย......ยางไหล
เพียงแต่ยอดดวงใจ.......อย่าเศร้า
สายตัวแม่ขาดไป...........แม่บ่ ขามนา
ยั้งอยู่ยามทุกข์เร้า..........เหนื่อยท้นฤาถอย
3. กลอยใจใครห่วงแม้น.....แม่หนอ
คำเอ่ยเอยเออออ............บ่ใบ้
แม่ยินแม่สุขพอ..............ยืนหยัด อยู่เฮย
คำหนึ่งหวังวาดไว้...........แม่นี้เนาฝัน
4. ตะวันจันทร์แต่งฟ้า..........ต่อฝน
คำ แม่ เหมือนมีมนต์.......แม่นแล้
ลูกเอยแม่อดทน..............เติมแต่ง ฝันนอ
ฟังเอ่ย "รักแม่แท้"..........อิ่มซึ้งเทียมสรวง
ฯ