6 พฤศจิกายน 2550 17:02 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.อากาศเย็นแต่หัวค่ำ
ลมต้นหนาวพัดมาเพียงพลิ้วแผ่ว
กลิ่นข้าว หอมมาจากนาไม่ไกล
เคล้ากับกลิ่นควันจากกองไฟไล่ยุงให้วัวของยาย
กลายเป็นกลิ่นของความคุ้นเคยที่อ่อนโยนต่อหัวใจเยือกเย็น
2.แนวดาวพาดฟ้าเป็นทาง
แม้ดึกหมอกจะหนาทำให้เห็นหลัวรางแต่ดาวก็แจ่มใจ
เหมือนคนบางคนที่บ่นหา
เพียงแต่นึกใบหน้าก็แจ่มใส
ยิ้มนั้นดาลยิ้มแย้ม
เหมือนเหมือนรักไม่เคยแรมลาไป
ช่วงหนาวนั้นดาวจึงอุ่น
เพราะความรักที่เคยคุ้นยังอุ่นหทัย
ฝากคำมาถามมาทัก
ถึงช่วงหนาวนี้ความรักของเราเป็นไง
3.
2 กันยายน 2550 20:15 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
เสียงซ่าซู่ดังอยู่บ่ซา
และน้ำทางเหนือก็ไหลมาทดแทน บ สร่าง
รินรินแล้วเร่งไหล
ธารนี้ไปถึงไหนใครเห็นบ้าง
ชุ่มชื่นชื้นดีนัก
อยากหลบแดดนั่งพักระหว่างทาง
แต่ บ่นานคงต้องไป
เหมือนสายน้ำที่ไหลลงลุ่มล่าง
มาเพื่อจะเอื้อเย็น
รินรดแถมอาจเป็นสื่อกลาง
นำพาทั้งรองรับ
ทั้งการเกิดการดับ แล้วปล่อยวาง
นั่นแหละหนอชีวิต
เห็นธารน้ำก็ได้คิด ด้วยใจกลางกลาง
12 กรกฎาคม 2550 00:52 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
๏วิหกเคียงคู่เคล้า............................คลอกัน
คืนอุ่นเพ็ญวสันต์.....................แจ่มฟ้า
ราตรีกล่อมโดยจันทร์........แลหมู่ ดาวนอ
ออออด บ อ่อนล้า..........ชื่นซึ้งเริงสรวง ๚
๏ทั้งดวงใจพี่นั้น...........................พลีนาง
เคียงอยู่จนรุ่งสาง....................ห่อนเร้น
วาวเดือนที่ยังราง...............ทรวงบ่ รางเฮย
หวานอิ่มทรวงบ่เว้น......เหนี่ยมโน้มแนวถวิล ๚
๏รวยรินยินย่อมรู้..........................ปราณสมัย
รักบ่ พาห่างไหน...................แน่งน้อย
คืนเรือนเช่นดวงไถง..........คืนรุ่ง แลฮา
มาอยู่เคียงเพื่อร้อย.........โซ่คล้องกมลเสนอ ๚
๏เคียงเสมอเคียงบ่ให้..................ซมโหย
เคียงต่อ บ ให้โอย-.................โอดไห้
เนาเคียงชื่น บ โรย ..........แรงเหนือย เลยแล
เคียงต่อทางไกลใกล้.....เปลี่ยนร้าวเป็นสรวล ๚ะ๛
8 กรกฎาคม 2550 22:41 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.เดินทางมายาวนาน
พบพานมามากมาย
ผ่านป่าข้ามทิวเขา
พบเรื่องราวที่หลากหลาย
เก็บภาพและถ้อยคำ
เก็บความทรงจำที่ดีไว้
อืม.....รักของเรา
เหมือนบทเพลงของหัวใจ
2.เดินทางมายาวนาน
ที่ร้าวรานก็ลืมไป
ผ่านป่าข้ามทิวเขา
ผ่านเรื่องเศร้าอันหลากหลาย
นึกถึงภาพและถ้อยคำ
กับความทรงจำในดวงใจ
อืม...ฝันของเรา
เหมือนบทเพลงยามซึ้งใจ
3. ฉัน..ยังคิดถึงวันเก่าเก่า
เรา..มีความผูกพันอันเชื่อมใจ
ยัง..คิดถึงอยู่เสมอ
อยากกลับไปเจอ คนของใจ
4. ยังเดินทางอีกยาวนาน
คงต้องพบพานอีกมากมาย
อีกกี่ป่าและกี่เขา
แล้วเรื่องเศร้าเศร้าคงอีกหลาย
จะเก็บสิ่งดีที่ควรจำ
มาเรียงเป็นคำชูใจ
อืม..รักของเรา
เหมือนเพลงที่เราร้องคลอไป
7 กรกฎาคม 2550 16:45 น.
ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
1.มิตร..
ข้าหรืออาจหลอกหัวใจของข้าเอง
และท่านก็คงด้วย ที่ไม่อาจทำเช่นนั้น
2.วันเวลาอันเนิ่นนานมา
ข้าและท่านคบกันมาอย่างไร
เราต่างรู้ และซื่อสัตย์ต่อความจริงใจนั้น
ท่านคือมิตรของข้า และข้าก็คือมิตรของท่าน
บางเวลา ข้ารู้หัวใจของข้า
แต่ข้าไม่ปรารถนาที่จะทำลาย สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาอย่างสวยสดงดงาม
ด้วยเวลา ไมตรี กับทั้งสิ่งอื่น ๆ
ขอมิตรภาพจงอยู่ต่อไปเถิด
แม้ต้องเจ็บและปวดกับความปรารถนาของใจ
3. แม้อย่างไร
ข้าและท่านก็มีอิสระที่จะปล่อยสำนึกส่วนลึกให้ทำงานยามหลับไหล
เพื่อเราจักได้ไม่ต้องหลั่งเลือดชำระบาป
ในมิตรภาพอันหมองด้วยมลทิน
4.ใช่..
ถ้อยของท่านนั้นถูกและตรง
อ้อมกอดแห่งปรารถนาอันเกินจากมิตรภาพ
แม้นอาจมี ก็ควรดำรงอยู่แต่ในความฝันยามหลับของเราเท่านั้น
5. มิตร..
ได้โปรดยิ้ม ต่อมิตรภาพอันมั่นคงของเรา