3 กุมภาพันธ์ 2556 10:49 น.
กุ้งหนามแดง
..
วันพุธที่ 16 มกราคม 2556 ซึ่งตรงกับวันหวยออก เราก็ได้ถูกกับเขาเต็มๆ เหมือนกัน แต่การถูกคราวนี้มิได้หมายถึงการได้มาซึ่งโชคลาภ แต่ประการใด แต่เป็นกรรมล้วนๆ ซึ่งนำมาเล่าสู่กันฟัง..
ตอนสายๆ ของวันนั้น หมาเห่าที่หน้าบ้าน ชวนให้ออกไปดูว่ามันเจอตัวอะไร หรือใครมาหา เราก็ออกไปดูปรากฏว่ามีแมวสีขาวตัวหนึ่งอยู่บนรั้ว เราก็เลยพยายามไล่มันออกไปเพราะเข้าใจว่าจะเป็นแมวสีขาวที่มาระราน บรรดาแมวในบ้านในคืนวันก่อน แมวก็วิ่งไปมาบนรั้วคอนกรีตหนีหมาไล่ แล้วก็มาพักอยู่บนหัวเสาประตูรั้วหน้าบ้าน เราก็เลยใช้ไม้ไผ่ยาว ดุนให้มันลงไปข้างนอกบ้านหลายครั้งแมวตกลงไปนอกรั้ว เจ้าแมวก็วิ่งหนีไปกระโดดขึ้นรั้วอีกด้านหนึ่งอย่างเร็ว เจ้าหมาสามตัวก็วิ่งไล่เห่า เจ้าแมวก็วิ่งไปมา ทีนี้รั้วด้านนี้มันมีเนินดินด้วย หมาเลยสามารถงับเจ้าแมวได้แล้วดึงลงมาฟัด ด้วยความตกใจเราก็เรียกให้หมาหยุด มันก็หยุด แมวก็หยุดอยู่กับที่มองตาปริบๆ เราก็จับมันโยนไปนอกรั้ว นึกว่ามันจะโหย่งตัวได้เหมือนแมวปกติทั่วไป อ้าว! ตกลงไปท่าไหนท่านั้นเลย เลยต้องออกไปดูสักหน่อย แมวบอบช้ำมาก มีน้ำลายตามตัว เดินไม่ได้อีกต่างหากเลยอุ้มเข้าบ้านมาใส่กรงไว้ ให้อาหารเม็ดและน้ำ แต่แมวก็ไม่กิน คงจะเจ็บมาก มันจะตายไหมเนี่ย กรรมแท้ๆ มันมองตาปริบๆ คงถามว่ามาทำหนูทำไม.. ไม่ได้เจตนาให้เจ้าเจ็บเลย แค่จะไล่เฉยๆ ขอโทษน่ะ
เมื่อมีเวลาเลยสำรวจเพศแมว อ้าว! มันเป็นแมวตัวเมีย ไม่ใช่ไอ้หง่าวที่มาระรานแมวบ้านเรานี่นา ทำไงละทีนี้ ทำให้มันพิการซะมั๊งเรา ข้าวปลาก็ไม่กิน เลยไปเอานมสดในตู้เย็นใส่สลิ๊งฉีดเข้าไปในปากแมว เช้า กลางวัน เย็น ครั้งนึงก็ทีละหลายซีๆ อยู่ มันก็ไม่ต่อต้านอะไร พออิ่มก็ไม่กลืนปล่อยนมไหลออกจากปากเป็นสัญญาณว่าพอแล้ว โทรศัพท์ไปหาหมอให้มาดูอาการในวันเสาร์ หมอฉีดยาแก้ปวดให้ และบอกว่ากระดูกสันหลังคด และขาหลุด 1 ข้าง เนื่องจากกระดูกสะโพกแตกไม่มีเบ้าให้ยึด ต้องให้มันรักษาตัวเองหมอว่าอย่างนั้น ค่ารักษาก็ไม่เอา (ปกติหมอจะมาฉีดวัคซีนให้หมาแมวที่บ้านประจำ ล่าสุดก็เพิ่งมารักษาเจ้าแมวที่มดลูกอักเสบพร้อมกับทำหมันให้) พอได้รับการรักษาเจ้าเหมียวก็ยอมกินข้าวคลุกปลาทูที่นำมาให้ และน้ำที่เตรียมไว้ มองกระบะทรายที่ใส่กรงไว้เห็นเปียกๆ แสดงว่าการขับถ่ายปกติ ฉี่ได้แต่ยังไม่ยอมอึ
ทีนี้จะทำยังไงให้มันเดินได้ดี ลองไปหาในกูเกิ้ล "แมวอัมพาต", "แมวโดนหมากัด" ข้อมูลขึ้นมาเพียบ บ้างก็มีฝังเข็ม และมีให้ทำกายภาพบำบัด ทั้งหมาแมว มีหลายเหตุการณ์เป็นกรณีศึกษา
เราคิดว่ายังไงเสียต้องคืนขาให้แมวให้ได้ ขอให้แมวกลับมาเดินได้เหมือนเดิม มองหาอุปกรณ์ที่มีในบ้าน เห็นสายผ้าที่เลาะมาจากกางเกงเลอยู่เส้นนึง เลยเอามาคล้องขาแมวจับตัวมันให้ยืนแล้วให้มันเดินนำหน้าไป ขาหน้าแมวยังใช้ได้ดีอยู่ ตอนเช้าพาไปเดินหาที่ขับถ่าย อึเองได้แต่ไม่กลบ แต่การใช้สายผ้านี้ทำให้แมวเดินไม่ถนัด เลยหันมาจับหางแมวยกขึ้นแล้วพาเดิน แมวตัวนี้หางสั้นขอด ก็ก้มๆ เงยๆ กันอยู่ ผลัดกันเดินระหว่างแมวกับพยาบาล เดินไป เดินมา วันละหลายรอบ เช้า-กลางวัน-เย็น การเดินต้องพาไปจุดเริ่มต้นคือในสวนแล้วให้มันเดินเข้าบ้าน พอเข้าตัวบ้านก็อุ้มกลับไปจุดเริ่มต้นใหม่ รอบหนึ่งก็เดินประมาณ 3 เที่ยว ไม่ไกลมาก10-20 เมตรได้ ขึ้น-ลงเนิน พอแมวเดินผ่านครัวก็ให้ปลาน้อยทอด 1 ตัว เป็นกำลังใจที่มาพร้อมแคลเซี่ยม เป็นอย่างนี้อยู่สองสามวัน
ส่วนแผลที่ตัวแมว แรกๆ ก็ใช้เบตาดีนใส่ให้แต่รู้สึกแผลจะแฉะ พอแผลเริ่มดีขึ้นไม่มีเลือดแล้วก็เปลี่ยนเป็นผงพิเศษโรยให้แทน แมวก็เลียออกทั้งสองอย่างตามนิสัย แต่ก็ช่างมัน วันนึงก็ใส่ 2-3 ครั้ง พอเข้าวันที่สี่ของการเดิน ก็ลองใช้เชือกผ้าเหมือนเดิม แต่ทีนี้มัดกับหางแมวแทนแล้วยกตัวให้มันเดิน (มัดไม่แน่นหนาอะไร หลุดก็มัดใหม่) เพราะพยาบาลเริ่มปวดหลัง แต่ก็คิดว่ามันต้องหายกลับมาเดินได้เหมือนเดิม แมวก็เดินไปตามทางคดเคี้ยวบ้างเพราะขามันจะแกว่งๆ ลองผ่อนเชือกแมวๆ ก็ไม่สามารถเดินได้ล้มแผละ ต้องใช้เชือกประคองตลอด
การรักษาทางกายภาพบำบัดผ่านไปเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ใช้เชือก สลับกับการปล่อยอิสระบ้าง แมวสามารถถัดตัวไปได้ใช้ขาได้ 3 ขา ส่วนขาที่หลุดก็ยังแกว่งอยู่และเริ่มพยุงตัวเองลุกยืนได้ บางครั้ง ส่วนการขับถ่ายแมวพยายามกลบ หลังขับถ่ายทุกครั้ง
15 วันผ่านไป แมวเริ่มเดินเองได้แต่ยังไม่แข็ง และระยะทางก็ไกลขึ้น และดีขึ้นตามลำดับ สลับกับการนั่งพักแบบพับขาได้ จากเดิมขาข้างที่หลุดแบะออก มานั่งแบบปกติได้บางที ส่วนบรรดาสัตว์เลี้ยงในบ้านก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับสมาชิกใหม่ ทั้งแมวและหมาเจ้าถิ่น จากเดิมขู่บ้าง เดินหนีบ้าง ก็เริ่มเฉยๆ และยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ แต่เราก็ยังไม่ไว้วางใจซะทีเดียว ถ้าแมวอยู่นอกกรงก็จะต้องคอยดูและทิ้งระยะอยู่ห่างๆ อ้อ! เราก็ตั้งชื่อว่ามันว่าเจ้าขาวตามสีขนของมันแล้ว และคาดว่าเจ้าขาวจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติของมันได้ในเร็ววัน และพัฒนาไปถึงขึ้นกระโดดขึ้นที่สูงได้ หวังว่ามันจะทำได้โดยอาศัยการฝึกฝน และร่วมมือกันระหว่างคนกับแมว
เราก็ไม่รู้หรอกว่า จะต้องชดใช้กรรมให้มันเมื่อไร เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แค่คิดว่าเราได้ทำในสิ่งที่สมควรทำแล้ว ส่วนตัวก็ได้แต่ก็พูดกับแมวเสมอว่าเราไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ ขอโทษน่ะเจ้าขาว..
..
12 กรกฎาคม 2553 14:47 น.
กุ้งหนามแดง
อยากรู้ว่าเวลาเล่นพนันบอลมันจะเป็นยังไง...อารมณ์ ความรัก ความรู้สึกฯลฯ..แล้วผลสุดท้าย...
ทีมที่คิดว่าใช่แชมป์..ก็ไม่ใช่..
นักเตะรองเท้าทองคำ..ที่ว่าน่าจะได้...ก็ไม่ได้..
ว่ากันไปเรื่องฟุตบอลลูกกลมๆ ที่เขาเรียกว่าจาบูลานี่ มันลื่น มันไว มันเบา
นับแต่นี้จะไม่ได้ยินเสียงแตร...วูวูเซล่า..แล้ว
ว่าแต่...หมึกพอลทำนายแม่นมากๆ ดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว..
แต่ยอมรับว่ากีฬาประเภทนี้สนุกดีทีเดียว แต่ก่อนชอบดูมวยอย่างเดียวเพราะ
รู้ผลเร็วดี..แลกหมัดกันตัวต่อตัว แฟร์ แฟร์
ผลลัพธ์ (ที่เป็นตัวเลข)
อืม..สมัครไปสามชื่อ..หมื่นนึง..พึ่งดวง..ช่วงชิง..
หมื่นนึง....กำไรหมื่นกว่าบาท..(คุ้มไหมเนี่ย) อันดับทายผลอยู่ที่ 773 ทายผลครบทุกนัด..ผิดมากกว่าถูก..
พึ่งดวง......ทุนล้านนึง เหลือ หมื่นห้า เริ่มเล่นที่รอบสอง
ช่วงชิง......ทุนล้านนึงเช่นกัน หมดกระเป๋าเลย เริ่มเล่นรอบสุดท้าย
จากตัวอย่างเสียหายไปสองล้าน...ถึงจะเป็นการจำลองสถานการณ์แต่ก็สอนให้เราได้เรียนรู้ตั้งเยอะแยะ..
บางคนอาจจะเถียงว่า..เฮ้ย! ไม่เสียมากมายเท่านี้ถ้าใช้เงินจริงลงทุน เพราะโต๊ะบอลมักจะมีแต้มต่อหลอกล่อ จูงใจ...(ลูกครึ่งควบขาว ฯลฯ ประมาณนี้ จำเขามาอีกที..)
และมักจะให้เครดิตแทงก่อน จ่ายทีหลัง..(ที่คิดจะจับเสือมือเปล่า..มักตายคาอุ้งเท้า..)
แต่อย่าลืมว่าใจของเราอาจไม่ถึงพอด้วยก็ได้...ถ้าจะวางเดิมพันสูงๆ
ซึ่งต้องรองรับความเสี่ยงอันจะกระทบกับตัวเองและครอบครัว...ปากท้องเชียวน่ะนั่น..
อย่าลืมว่ามันไม่ใช่เกมส์แน่นอน... เพราะฉะนั้นคิดดีๆ หากจะเล่นการพนัน..เพราะมีทั้งได้และเสีย..จึงควรหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้เสีย..หากทำได้น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด...
ด้วยรัก
กุ้งหนามแดง
ขออนุญาตหั่นภาพประกอบ...เพราะแผ่นใหญ่เกิน..
20 ธันวาคม 2551 13:34 น.
กุ้งหนามแดง
ข้าพเจ้าเคยฝันเป็นคอลัมนิสต์บันเทิง เพราะชอบติดตามข่าวสารดาราพูดง่ายๆ คือสนใจเรื่องของชาวบ้านนั่นเอง แฮ่ม! รวมทั้งได้แสดงความรู้สึกของตัวเองต่อบุคคลนั้น ๆ ด้วย อ่า ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าคิดว่าจะนำเสนอบรรณาธิการ ทดลองดูว่าจะได้ลงกรอบหรือลงถังกันแน่..
อ่า แต่ข้าพเจ้าไม่คุ้นเคยกับวงการดังกล่าวสักนิดหนึ่ง ทว่าเพื่อนในบ้านกลอนพอรู้จักจากงานเขียนบ้าง ขออนุญาต ไว้ ณ.ที่นี้เลยแล้วกัน หากเห็นว่าเป็นการ
ละลาบละล้วงและมิสมควร ก็ขออภัยในคราวเดียวกันนี้น่ะค่ะพี่น้อง...(อยากนำเสนอก็เพราะเป็นความรู้สึกส่วนตัวกับบุคคลที่อยู่ในบ้านเดียวกัน..เท่านั้นเอง คงไม่ทำให้เครียดเกินไปนักน่ะค่ะ) :) :)
1) กลุ่มมดน่ารักทุกคนทำให้คิดถึง โฟร์มด อิอิ
2) พิมญดา รบกวนมารักกัน (จากคนถัดไป) อิอิ
3) หนุ่มน้อย ขอให้สมหวังน่ะ
4) อัลมิตรา ดูระบบจนลืมเขียนเลยเหรอ ..
5) พี่ดอกแก้ว วันนี้หนูไม่โกรธ..
6) ครูพิม เจอกันจะโดดกอดสักที เผาข้าวหลามเผื่อหนูด้วย
7) ครูกระดาษทราย ขอบคุณที่ทักทายเสมอ :) แม้ไม่นานแต่ก็ซึ้งอ่ะ..
8) เพียงพลิ้ว ทุกบทกลอนของพี่มีน้องสาวเสมอ ขอบคุณสำหรับไมตรีที่มีให้กันจ๊ะ
9) นักสืบ ไร้อันดับ เราชอบกลอนนาย ส่วนตัวคิดว่ามีอันดับตลอด..เอาในใจเราแล้วกัน..
10) แมวเหลือง จะซ่อนเร้นไปถึงไหน (รวบรวมกลอนของเพื่อนๆ ได้ครบแล้วขยายหน่อยน่ะ)
11) พี่พุด น่ารักเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง..อืม..พี่ต้องเป็นสาวหวานๆ แน่เลย..ถ้าให้หนูเดา..
12) ก่องกิก ถึงจะเรียกว่าลุงก่องแต่มั่นใจว่าแข็งแรงเต็มร้อย
13) แก้วประเสริฐ สวัสดีคุณแก้วประเสริฐเพื่อนรัก
14) สดายุ คำสวยมากๆ ขอบอกน่ะค่ะพี่ชาย
15) ดอกบัว พี่ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรจ๊ะ
16) เชษฐภัทร เล่มใหม่ออกเมื่อไรแจ้งด้วย..มีคนรอทางนี้หนึ่งคน..
17) เฌอมาลย์ น้องสาวจ๋า น่ารัก น่าหยิก
18) กีกี้ เมื่อไรจะเขียนอีกน๊า ที่ผ่านมายิ่งกว่าน้อยน่ะ
19) ผู้หญิงไร้เงา สมชื่อเกินไปหรือเปล่าจ๊ะ... ตูนจ๋ากลบทของตูนเรายังจำได้น่ะ
20) ผู้หญิงช่างฝัน ชอบกลอนคุณมากๆ เมื่อไรเขียนอีก อ่านแน่นอนคอมเม้นต์มีแน่..เห็นทุกทีใช่เปล่า..
21) ฉางน้อย เจอแล้ว ไชโย..
22) โคลอน ชอบหาเรื่องมาให้อ่าน.. ไอ้เราก็ชอบอ่าน อิอิ ขอบคุณหลายๆ ชอบคอมเม้นต์ด้วย ตรงดี..
23) สะพั่งสะท้านไมภพ เราอ่านเรื่องสั้นของนาย แต่ไม่ทุกเรื่องหรอก บางเรื่องหนักไปสำหรับผู้หญิงอย่างเรา อิอิ
24) ผมชื่อโจ้ ทำให้นึกถึงลูกกระท้อนน่ะ...ดีวันดีคืน..
25) แมวคราว เราชอบเรียกนายว่านายหง่าว แล้วเราจะเรียกแมวเหลืองว่าไงดีน๊า
26) ร้อยแปดพันเก้า วันนี้นายไม่มา..เราเลยอดอ่านเลย เสียดายจัง
27) คนลานเทวา ไว้จะติดตามต่อไป..เพราะนายเขียนได้โดนใจเราสำหรับวันนี้.
28) กุ้งก้ามกราม ฮั่นแน่ กุ้งชาย..
29) คอนพูทน ทิดธร สุขอย่าได้สร่าง...นายทำให้เราคิดถึงนายเมา..(ขอโทษครับผมเมา) แต่เราชอบวลีของนายมากๆ สุขอย่าได้สร่าง..อืม ช่างคิดจริงๆ
30) แม่จิตร ฝึกไปถึงไหนแล้วน๊า...ยังอนุบาลเหมือนพี่กุ้งหรือเปล่าน๊อ..
31) ฤทธิ์ ศรีดวง อ่านทุกบท อดไม่ได้...เข้มยิ่งกว่าเบอร์ดี้อีก..
32) Saran หนุ่มเท่สาวราม มีตอนจบหรือเปล่าจ๊ะ..
33) แมงกุ๊ดจี่ ไม่ได้ลืม แต่กันไว้ท้ายๆ เหมือนลูกชิ้นไง..อิอิ
34) เรไร เมื่อไรหมึกแดงจะหมดน๊า ใช้มานานเกินคุ้มแล้ว ซื้อที่ศึกษาภัณฑ์หรือเปล่า
35) Whitelily ชอบรูปประกอบสวยดี กลอนก็เศร้าเน้อ..
36) White Rose บางครั้งนึกว่าคุณคือใครคนนั้น...คิดถึงจัง..
37) บินเดี่ยวหมื่นลี้ Honey Monky ตกลงแปลว่าอะไร ลิงกินผึ้งเหรอ
38) ฤกษ์ ชัยพฤกษ์ เปลี่ยนรูปประกอบกลอนหรือยัง จะได้อัพเดท อิอิ
39)
คงมีอีกน่ะ แต่ขอตัวไปเก็บข้อมูลก่อน..
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ระลึกถึง...และอยู่ในความทรงจำ..ในสมองเล็กๆ ใบนี้
กุ้งหนามแดง
25 มิถุนายน 2550 22:13 น.
กุ้งหนามแดง
เมื่อสองเดือนที่แล้ว...เราได้สนทนากันว่า...
Im: คุณกุ้งว่างไม๊ จะชวนไปเข้าค่ายกันในวันที่ 23-24 มิถุนายน ที่ชัยภูมิ..
K: ขอดูปฏิทินก่อน ตรงกับวันอะไรรอแป๊บนึง
Im: เสาร์-อาทิตย์..
K: เราไม่ค่อยว่างงานเยอะ ว่าแต่ไปไง...(หยั่งเสียง)
Im: รถตู้...
K: เราชอบขับไปเอง...
Im: ก็ยังได้..(อยากเหนื่อยก็เรื่องของเอ็ง... เดาเอาน่ะ)
K: ใกล้ๆ ค่อยว่ากันอีกที..ง่วงแล้ว ราตรีสวัสดิ์ (น่าเบื่อจังนอนหัวค่ำทั้งกะปี .. จับความคิดอีกที)
อาทิตย์ที่แล้ว...(18/6/2550)
Im: คุณกุ้ง..เรื่องค่ายว่ายังไง..
K: โอเค...ไป
Im: ยังไง...
K: รถตู้...สวนลุมตามนัดในเวปไง..
Im: เพื่อนบ้านกลอนส่วนหนึ่งขับรถไป ...แต่ก็มีบ้างที่ไปรถตู้ หรือจะไปรถเรา..
K: นั่นแหละ เราจะไปรถตู้...เพราะเราเป็นคนธรรมดา...อิอิ
Im: งั้นให้น้องต้นปี ไปรับที่ราชเทวีละกัน 4.45 น.
K: หน้าคริสต์จักรน่ะ...(เช้าจัง..ฮ๊าว..)
เมือสองวันที่แล้ว.....(23/6/2550)
หลังจากขึ้นรถตู้มากับน้องต้นปี...บรรทุกข้าวของพร้อมเพื่อนใหม่ๆ อีกหลายๆ ท่าน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินโครงการเพื่อเพื่อนพ้องน้องพี่ช่วยน้องๆ ชาวชนบท ทางคณะได้แวะพักรับประทานอาหารที่ปั๊มปตท ที่คุณทักทายเพื่อนของเราทั้งสอง (คุณอิม+กุ้งฯ ซึ่งภายหลังได้เป็นเพื่อนของเราทั้งหมดไง :) ) ได้นำมาแบ่งให้เพื่อนๆ ได้รับประทานกันถ้วนทั่ว ก่อนจะเดินทางต่อไปที่โนนโพธิ์บะก่ามวิทยา.. กองทัพเดินด้วยท้องเสมอ..(อิอิ)
เมื่อถึงทางโรงเรียน ประมาณสิบเอ็ดโมงกว่าๆ ทางคณะครูอาจารย์ ได้ต้อนรับคณะอย่างอบอุ่น..มีชาวบ้านมาร่วมด้วย ครูใหญ่รายงานถึงที่มาที่ไปในการจัดงาน พร้อมขอบคุณที่ชาวคณะมาเยือนพร้อมอุปกรณ์การศึกษา เครื่องกีฬา พร้อมคอมพิวเตอร์และพริ้นเตอร์ และอื่นๆ ที่ได้รับบริจาคมารวมทั้งเงินสดเพื่อใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซม อ่างล้างมือ, ติดตั้งพัดลมที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้าเมื่อครั้งที่ทางทีมงานเข้ามาสำรวจตรวจสอบความต้องการของทางโรงเรียน ทางเจ้าภาพเห็นว่าพวกเราคงจะเริ่มหิวกันแล้ว (สังเกตจากสีหน้าบวกกับเวลา อิอิ) อีกทั้งได้เตรียมอาหารรับรองไว้ตามประเพณีของท้องถิ่น จึงเรียกให้กลุ่มแม่บ้านจัดแจงยกอาหารมาให้ทานกันประกอบด้วย ข้าวสวย/ ข้าวเหนียว, ขนมจีน แกงเขียวหวาน.., ต้มยำไก่บ้าน, ลาบหมู+ผักสด, น้ำยากะทิ ตามด้วยผลไม้ตบท้าย มังคุดกับเงาะ...ของโปรด..
ส่วนเด็กๆ ก็ทานไอศครีมกัน เด็กๆ ดีใจกันมาก....เรียกให้เข้าแถวแทบไม่ทันแนะ..
หลังอาหารมีการจัดสันทนาการกัน....ชวนเด็กๆ จัดแถวกลางสนามกลางแจ้ง เล่นเกมส์ร่วมกันสนุกสนานกันมาก ได้รับรางวัลเป็นของเล่น ตุ๊กตา..เครื่องเขียน กระเป๋าก็มี...วิทยากรนำเล่นเกมส์ชื่อชายโต กะชายชัด (ที่มาของชื่อทุกคนรู้ดี อิอิ) ครั้นแดดร่มลมตก...ฝนก็เทลงมา ของแจกสองถุง ใหญ่ที่เตรียมมา มีของเล่นกับขนมกรอบกรุบ ของเด็กๆ หมดพอดี...ทุกคนต่างเฮโลเข้าชายคาอาคาร หลังจากฝนซา เด็กๆ แยกย้ายกลับบ้าน บ้างปั่นจักรยานหิ้วของใส่ถุง หน้าตายิ้มแย้ม พวกเราร่ำลา ครูใหญ่, ครูน้อย, ผู้ประสานงานก่อนแยกย้ายกลับที่พัก.....น้ำตกตาดโตนเป็นที่หมาย...
เย็นแล้ว...แต่ตัวเหม็นมาก..(อิอิ) ทุกคนเก็บของเข้าห้องพัก เล็งเตียง...(ดูว่ามุมไหนนอนแล้วไม่ตกลงมา อิอิ) กางเต้นท์ฯ ก่อนแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวนั่นคือ.....เล่นน้ำตกยกทีม...ทางคุณทักทายขออยู่เตรียมอาหารกับเจ้าอิม....(เป็นความคิดที่เจ๋งมาก เพื่อน)
อาหารเย็นสำหรับวันนี้มี....ข้าวเหนียว, แกงส้มชะอมทอด, ผัดมะเขือยาว, ปลาสลิดทอด, ไก่ย่าง คุณหมอทำกุ้งอบเกลือเพิ่มมาให้ด้วย...(เพิ่มไอโอดีนให้ชาวคณะ อิอิ) ที่ทยอยตามมาคือปลาแป๊ะซะ.. อร่อย.....มาก..
ครั้นยามค่ำๆ..วงผู้ใหญ่ มีนายเมาด้วยแฮะ เริ่มบรรเลงเพลงเพื่อชีวิต..ก๊งนิดหน่อยตามสไตล์ของการเข้าพักในป่าในเขา เล่าเรื่องฮาๆ เฮๆ ตามประสา..
หลังอาหาร...มีสันทนาการสำหรับชาวคณะนัยว่าเพื่อเป็นการละลายพฤติกรรม (ไม่ค่อยปลื้มกับคำนี้เท่าไร...รู้สึกว่าตัวเองแย่ๆ ยังไงไม่รู้ อิอิ) วิทยากรจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสองชายหนุ่ม มีการเล่นเกมส์เหมือนรับน้องตอนเข้ามหาวิทยาลัย ยังไงยังงั้น..แต่ประโยชน์ก็มีเหมือนกันคือทำให้พวกเรารู้จักกันมากขึ้น...ไม่รู้สิอาจเป็นเพราะเราได้หัวเราะร่วมกันมั๊ง...ตบท้ายด้วยการให้แต่ละคนจำชื่อทุกคนให้ได้ ซึ่งก็ทำได้..(เพราะช่วยเหลือกันไง หาใช่สมองดีไม่ เทคนิคทั้งนั้น อิอิ) ก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนมีสวดมนต์ร่วมกันได้...ดีจัง...ใจสงบหลังจากกระเจิดกระเจิงเมื่อกี๊..
เมื่อวานนี้.. (24/6/2550)
ตอนเช้า- รับประทานอาหารร่วมกัน (ทำ) มีกาแฟ,โอวัลติน , แพนเค๊ก (อันนี้แหละที่ต้องร่วมกันทำตีไข่-ใส่แป้ง-เติมน้ำ-ลงเตา), มาม่าคัพ..ตามอัธยาศัย พอรองท้องเสร็จ ทางคณะเดินทางไปน้ำตกไทรทอง ที่นีไง ผาหำหด เพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญ..อิอิ กะความอึด (ของขาน่ะมิใช่อื่น) ก่อนจะเดิน (ย้ำว่าเดิน) ต่อไปทุ่งดอกกระเจียวสีขาวและชมพู ห่างกันพอดู..ธรรมชาติหนอช่างรังแกกันได้ ดีน่ะที่เตรียมน้ำเปล่าบรรจุขวดหนีบจักแร้ไปด้วยแก้กระหาย ไม่งั้นมีม่องอยู่บนทุ่งแน่นอน เมื่อต่างลากสังขาร (แหะ แหะ) กลับมาถึงจุดจอดรถมันหลายกิโลอยู่น่ะ...ถ้าเอาพวกสี่ร้อยเมตรมาร่วมกันหลายๆ ทุ่ง ทั้งไป-กลับนี่ (ตกเลขแต่เหนื่อยนี่...เลยหันกลับไปคำนวน มิน่า..) เมื่อเสียพลังงานไปมากมายอย่างนั้น ต่างก็หิวโหยโรยแรง...ทุกคนต่างพร้อมใจกินส้มตำ,ข้าวเหนียว,ไก่ย่าง (สงสัยจังทำไมในอุทยานถึงมีแต่ส้มตำ ไม่ยักกะมีพิซซ่า เป็นตัวเลือก อิอิ)
ครั้นบ่ายโมงครึ่ง..เราก็ได้ออกเดินทางไปที่ป่าหินงาม ที่นี่เราต้องจอดรถตู้ไว้ที่เชิงเขา..ทางอุทยานมีรถสองแถวใหญ่บริการขึ้นไปดูจุดสุดแผ่นดิน แต่พวกเรามากันสายเกินไปจึงไม่เห็นทะเลหมอก (อย่างไรก็ดี พื้นที่สีเขียวก็ให้ความสดชื่นแปลกตาไปอีกแบบหนึ่ง) และตระเวนชมป่าหินงาม (ดูไปคล้ายๆ รูปสัตว์ ตามจินตนาการของแต่ละคนว่าจะบรรเจิดแค่ไหน อิอิ) บางคนเต๊ะท่าถ่ายรูป บ้างก็ทำตัวเป็นกิ้งก่า เกาะต้นไม้ , เกาะหิน, เกาะไหล่ก็มี พอหอมปากหอมคอ (กุ้งฯ ก็ทำ...อิอิ) ที่นี่มีสินค้าโอทอปมาลงด้วย ต้อนรับนักท่องเที่ยว มีการกระจายรายได้สู่ชนบทตามนโยบายกันเป็นหย่อมๆ ตามความชอบ..
5 โมงเย็น ทางคณะเดินทาง ได้แก่รถตู้ 2 คัน, รถปิ๊กอัพ 2 คัน, รถเก๋งอีก 2 คัน (แหะ แหะ พึ่งจะมาบอกว่ามีกี่คัน) ต่างขึ้นรถ ต่างอำลา และแยกย้ายกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ...ถึงที่หมายเลยเวลาที่คาดการณ์ไว้นิดนึง เพื่อแบ่งปันเวลาให้กันและกันอย่างเต็มอิ่ม ทุกคนก็มีความสุข.. ไม่มีใครบ่นใคร...แล้วเราจะไปกันอีกนั่นคืออีกสิ่งที่เราคิดเหมือนกัน...บ๊ายบาย..
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ...ทุกน้ำใจที่มีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน..
คณะครู-อาจารย์ บ้านโนนโพธิ์บะก่ามวิทยา
ชาวบ้านที่เลี้ยงต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น
รอยยิ้มของเด็กๆ ที่เพิ่มพูนกำลังใจ..ของพวกเรา
คุณทักทาย สำหรับอาหารและมิตรภาพที่มีมานานแสนนาน
ผู้ดูแลอุทยาน ที่ดูแลธรรมชาติให้สวยงาม
และเพื่อนร่วมทางที่น่ารักทุกท่าน (รับประกันว่าพูดจริง อิอิ)
ฯลฯ
และ...ไม่รู้หวังมากไปไหม....อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสดีๆ ร่วมกันสักครั้ง....
บันทึกที่กรุงเทพฯ 25/6/2550 10.00 น
กุ้งหนามแดง
16 ตุลาคม 2549 21:36 น.
กุ้งหนามแดง
หลายๆ คนคงเคยถูกจับ...บางคนอยากให้จับ...แต่บางคนไม่คิดว่าจะถูกจับ...ก็โดนจับ...อิอิ
555..ไม่ได้แวะมาประเจิดประเจ้อ หรือประดักประเดิด เรื่องจับๆ ต้องๆ หรอก ที่พูดนี่คือถูกตำรวจจับนั่นเอง...เคยหรือเปล่า.. ถ้าไม่เคยจะเล่าให้ฟัง...อิอิ
สุดสัปดาห์ของวันนั้น กุ้งมีโอกาสได้ขับรถออกนอกเส้นทางประจำ ซึ่งเส้นทางนี้คือพญาไท มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป้าหมายถนนวิภาวดีรังสิต..ไปทำอะไรอย่ารู้เลยเพราะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอันใด...ที่จะเป็นเหตุให้ต้องโดน..จนต้องมาเล่าสู่....
ถ้าใครเคยผ่านแถวๆ นั้น โดยการขับรถไปโปรดระวัง!!...นอกจากระวังรถรา ผู้คนที่ขวักไขว่แล้ว พึงมีตาที่สามด้วยก็จะดี....ไม่งั้นอาจเป็นเช่นนี้
สภาพทางภูมิศาสตร์ อนุสาวรีย์ชัยก็เหมือนวงเวียนนั่นแหละ ต้องให้รถทางซ้ายไปก่อน...แต่ที่มันแปลกกว่าที่อื่นเรื่องทางสัญจรของยานพาหนะ เพราะมันมีวงใน...(ที่อยู่ด้านในติดรูปปั้นทหารล้อมเจ้าเหล็กขูดชาร์ป) และวงนอก (ที่ให้รถเมล์วิ่งไง) จากนั้นก็เป็นทางคนเดิน (ฟุตบาท) นอกจากนี้ท่านยังเพลิดเพลินด้วยสะพานลอยที่สร้างได้บรรจบกันสี่ทิศ และรถไฟฟ้าที่มีสถานีใกล้ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยสะพานลอย เริ่มงงแล้วใช่ไหม นั่นแหละคือสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ครั้งนี้
เพราะกุ้งดันขับรถจากวงในจากแยกพญาไท ตอนแรกก็อยู่วงใน ทีนี้กลัวออกไปวงนอกไม่ได้ ระหว่างนั้นรถกำลังรอสัญญาณไฟเขียว หางแถวก็เริ่มยาวแทบชนแยก (เอาว่ะ เพื่อความไม่ประมาทขับตามรถเมล์ ดีกว่า ยังไงต้องออกได้อยู่แล้วรถเมล์สายนี้มีจุดหมายไปทางเดียวกับเราเลย) แล้วยังไง...เลยเจอท่านเจ้า(หน้า)ที่ เรียกซะ....
เจ้า(หน้า)ที่: คุณขับรถผิดช่องจราจร ขับตามรถเมล์ทำไมครับ ขอดูใบขับขี่หน่อย....(หยุดหายใจ) สังเกตเห็นชุดที่ฟิตเปรี๊ยะกระเพื่อมขึ้นลง ทางแยกโน้นเขาวอ.แจ้งมาให้จับครับ
กุ้ง: ยกมือไหว้ทีนึง...(ตามประสาคนบ้านนอก) ขอโทษคะพอดีเพิ่งเคยมา...(ข้างเบาะยังมีแผนที่แบบแผ่นพับแบไว้เลย...ที่นี่มันหลายแยก งงจริงๆ น่ะ) ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ ไม่ได้มีเจตนาลักไก่น่ะ เพิ่งมาครั้งแรก กุ้งพยายามแถลงไปตามความจริง
เจ้า(หน้า)ที่: มองหน้า (อ่านในใจว่าอย่ามาปดผมเลย) ผมเขียนใบสั่งน่ะ เสียงเข้มยิ่งกว่าเบอร์ดี้กาแฟเย็นในช่องแช่แข็งซะอีก..
กุ้ง: ทำไมต้องขออนุญาตด้วย (คิดในใจ), ผิดครั้งแรกเขาไม่ตักเตือนก่อนหรือ (คิดในใจต่อ) ผิดตรงไหนเนี่ย เฮ้อ! เสียเวลาชะมัดเลย ถ้าเขียนเรียบร้อยแล้ว ช่วยเขียนแผนที่ให้ด้วยว่าต้องไปเสียค่าปรับที่ไหน...เพราะไม่เคยมา.. คล้ายๆ ข่มขู่แต่จริงๆ คือไม่รู้ทาง แหะ แหะ..
เจ้า(หน้า)ที่: มองหน้า...แล้วก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อ-สกุล เลขทะเบียนรถ และข้อหาที่กระทำผิด....พร้อมทั้งอธิบายว่าต้องไปยังไง (วาดภาพประกอบด้วย) คุณขึ้นทางด่วนไปแล้วไปลงตรงถนนกำแพงเพชร2 เจอแยกเลี้ยวซ้าย ฯลฯ โดยมีเรายืนฟังอย่างงุนงงกับเส้นทางครั้งแรกในชีวิต..อ้อ! มีเจ้า(หน้า)ที่มาช่วยอีก 1 นาย....ช่วยกันแนะนำเส้นทางว่าจะเอาเงินไปเข้าหลวงได้ยังไง....
เอาใบสั่งนี้ไปเสียค่าปรับน่ะครับ ยื่นให้..(ลายมือหวัดๆ )
กุ้ง: แล้วจะไปยังไงค่ะ ต้องวนไปในวงเวียนอีกหรือเปล่า มันคงจะเสียเวลาน่าดูเลยเนอะ การจราจรช่วงเย็นอย่างนี้ด้วยแล้ว
เจ้า(หน้า)ที่: เดี่ยวผมจะกันรถให้.. คุณก็แล่นตัดช่องจราจรได้เลย..
กุ้ง: ไม่ได้ตั้งใจทำผิด (กลับโดนแจ้งข้อหา) แต่ต้องมาทำผิดโดยเจตนา (ก็วิ่งตัดเลนไง) เพื่อแก้ไขให้ถูก....(ไปเสียค่าปรับ) โอ้! ชีวิตของข้าพเจ้า (ช่างสับสนแท้ น้อ..)
แล้วจะขับไปได้ไง ไม่มีใบขับขี่ (เชื่อว่าหลายคนต้องคิดงี้แน่...เอ๊ะ! หรือเพียงเราคนเดียวที่คิดเช่นนี้..)
เจ้า(หน้า)ที่: ก็ใช้ใบสั่งนี่แหละครับแสดง มีผล 7 วัน..
กุ้ง: งั้นเหรอ (คิด) เพราะเป็นความรู้ใหม่ นั่นเอง ถ้าเกิดทำผิดขึ้นมาอีกเขาจะยึดใบสั่งนี้ไหมเนี่ย ยิ่งไม่ชินเส้นทางอยู่ด้วย..ระแวงน่ะ คนมันทำผิดเสียงก็สั่นๆ อีก..(ควบคุมสติ..นิดนึง พร้อมทั้งคิดไปฟังไป)
เจ้า(หน้า)ที่: มองหน้า..(สายตาบอกว่า..มันจะโง่ไปถึงไหน..กันฟ่ะ)
เนื่องจากใบขับขี่ ใบนี้เป็นแบบตลอดชีพ และต้องไปออกที่ต่างจังหวัด ซึ่งถ้าหายไป คงต้องลำบากในการทำเอกสารใหม่มากทีเดียว เพราะปัจจุบันย้ายสำมะโนครัวมาอยู่กรุงเทพฯ แล้ว เมื่อคิดดังนั้นจึงตัดสินใจว่า ควรจะไปเสียค่าปรับซะวันนี้เลย เพื่อตัดความวุ่นวายทั้งหลายที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้..
กุ้ง: เอางี้แล้วกัน ขอฝากรถไว้ที่นี่ เดี่ยวจะหามอเตอร์ไซด์ไปเสียค่าปรับ.... คุณจะอยู่ที่นี่ถึงกี่โมง..สั่งเสียและถามต่อในคราวเดียว
เจ้า(หน้า)ที่: หกโมงครับ ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 17.30 น. (โห! อะไรมันจะเร่งรัดปานนั้น...ท่าน)
กุ้ง: งั้นรออยู่ที่นี่น่ะ ..แป๊บเดียว...
ดังนั้น จึงจอดรถให้ชิดขอบทางเรียบร้อย...ตามที่สั่งทุกประการ ไม่ขัดขวางใครเลย จริงๆ..นอกจากขัดใจผู้ต้องหาเอง (มีบ้างแหละ) ว่าแล้วก็ไปว่าจ้างหนุ่มมอเตอร์ไซด์แถวนั้นให้ บึ่งไปโดยพลัน....ค่าปรับ 400 บาทครบถ้วน บวกกับค่ามอเตอร์ไซด์ อีกครึ่งหนึ่งของข้อหา (ต้องบวกทิปให้บ้างเพราะขับเร็วได้ใจ...ปานนั้น) โอ้โห! เกือบพันน่ะงานนี้....เอาว่ะ ถือว่าซื้อประสบการณ์ ดีกว่าผงซักฟอกซองละสิบบาท อันนั้นมันแค่ชำระคราบสกปรก อันนี้ซักค่าโง่...ต้องแพงหน่อย....สำหรับสาวดิจิตอล (เอ๊ะ! คุ้นๆ น่ะ) กิกิ..
จากนั้นก็กลับไปที่จุดเกิดเหตุ ยื่นใบเสร็จฯ แลกกับบัตรที่มีรูปหน้าตัวเองตอนสาวๆ...ที่บ่งบอกคุณสมบัติว่ามีความสามารถเหนือกว่าการบีบแตร...เล็กน้อย..อิอิ
กุ้ง: คราวหน้าต้องขับมายังไงค่ะ ถึงจะถูกต้อง...จะได้ไม่ต้องเสียอะไรซ้ำๆ ซากๆ..(เติมน้ำมันได้ครึ่งถังเชียวน่ะนั่น) (อันหลังคิดน่ะ เดี่ยวมีการเพิ่มข้อหา หน้าหงิกกับเจ้า(หน้า)ที่.. ก็แหม! หัวเหม็นด้วยหมวกกันน๊อค ไม่รู้ผ่านมากี่กบาลแล้ว. ยี้ๆๆ...ไม่น่าคิดได้เลย..)
เจ้า(หน้า) ที่ คุณก็ขับมาเลนใน ตามลูกศรเห็นไหม....สายตามองไปที่ถนน...ไม่ค่อยมีจุดโฟกัสเท่าไร..คงมึนควันรถมั๊ง (ความจริงก็เห็นใจท่านอยู่เหมือนกัน..น่ะ)
กุ้ง: ตามอย่างรถตู้คันนั้นใช่ไหม (ชี้รถที่วิ่งมาประกอบ)..เข้าใจแล้วค่ะ ขอตัวกลับก่อนน่ะค่ะ
แล้วก็ขับรถกลับบ้านด้วยจิตใจปลอดโปร่ง ประมาณว่าได้ไถ่บาปไปเรียบร้อยแล้ว....
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ต้องไปที่เดิมอีกแล้ว (ก็มันจำเป็นไง) ก็ขับมาเลนในแล้วรถติดไฟแดง (คุ้นๆ น่ะ) ก็ประคองรถมาด้วยความระมัดระวังปนระแวง อิอิ ขับตามอย่างท่านเจ้า(หน้า)ที่ คนนั้นบอกกล่าวทุกประการ แต่ทันใดนั้น เจ้า(หน้า) ที่อีกคน (ไม่รู้เบอร์หมวกอะไร คร้านจะจำซะแล้ว)...ที่อยู่ริมถนน ก็เรียกให้ไปวิ่งเลนนอก ซะงั้น...อ้าว! ไหงเป็นงี้ล่ะ....อ้อ! นึกออกแล้ววันนี้ไม่ได้วิ่งตามรถเมล์ แต่วิ่งในเลนรถเมล์ อ่ะ (คงงั้นมั๊ง.. คิดแบบคนที่ฉลาดแล้วน่ะเนี่ย)
เอวัง......