22 พฤศจิกายน 2547 12:01 น.

ซบ..

กุ้งหนามแดง

กลอนแปด...
ขอซบไหล่ได้ไหมขอไออุ่น
ขอไหล่คุณพักพิงอิงอกไหว
อยากได้ยินจังหวะหนึ่งของหัวใจ
ว่าหวั่นไหวหรือเปล่าคราวใกล้กัน

เตรียมเดินทางร่วมกันทั้งชีวิต
รู้ถูกผิดร่วมทุกข์และสุขสันต์
ต่อแต่นี้ไม่ทอดทิ้งยิ่งแบ่งปัน
สร้างสวรรค์บนแดนดินก่อนสิ้นลม

..

กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
ขอนั่งแนบชิด....อิงซบไหล่นิด....ติดตามพัวพัน
จังหวะหัวใจ....หวั่นไหวสุขสันต์....อยากร่วมแบ่งปัน....สร้างวันของเรา

อนุญาติไหม....เดินทางร่วมไป....เรียนรู้สุขเศร้า
ขอเพียงเราสอง....ประคองบรรเทา....รับรองไม่เหงา....รักเรายืนยง

				
22 พฤศจิกายน 2547 09:37 น.

เล่าเรื่องทศชาติ ....พระภูริทัต (ตอน ๑)

กุ้งหนามแดง

~ แต่ก่อนกาลย้อนความตามเล่าเรื่อง
พรหมทัตครองเมืองพาราณสี
มเหสีปรากฏโอรสมี
ตำแหน่งศรีอุปราชพระราชทาน (๑)

ครั้นโอรสเติบใหญ่จึงไหวหวั่น
กลัวลูกนั้นยึดอำนาจศาสตร์ทหาร
ต้องตัดไฟแต่ต้นลมเหมาะสมการ
คำริผ่านดำรัสตรัสในพลัน (๒)

เจ้าจงไปประพาสตามปรารถนา
ตามเวลาจนพ่อลับดับสิ้นขันธ์
ค่อยกลับมาสืบวงศ์เผ่าพงษ์พันธ์
อภิวันท์รับคำก่อนอำลา (๓)

โอรสนั้นมีใจใฝ่ธรรมะ
คิดจะผละในเหตุกิเลสหนา
ดำเนินออกนอกวังยังพนา
เจตนาถือพรตเพื่อลดกรรม (๔)	

จนมาถึงบรรณศาลาคราสงัด
ภูมิทัศน์ภูงามแม่น้ำต่ำ
บำเพ็ญเพียรเจริญสติบริกรรม
เป็นประจำทุกคราสมาทาน (๕)

~ จะกล่าวฝ่ายนาคสาวแสนร้าวจิต
เพราะชีวิตไร้คู่รักสมัครสมาน
จำแลงร่างเป็นมนุษย์สุดสะคราญ
จากบาดาลสู่ริมฝั่งยมนา (๖)

ทั้งสองคนพบกันสวรรค์ส่ง
รักมั่นคงสุจริตสิเน่หา
ให้กำเนิดบุตรหนึ่งกุมารา
พระนามาสาครพรหมทัต (๗)

บุตรอีกหนึ่งเกิดตามงามหนักหนา
สมุทรชาคือธิดาตามดำรัส
ทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกผูกพันชัด
ปฏิบัติตนชอบทั้งครอบครัว (๘)

~ เมื่อพระเจ้าพรหมทัตสวรรคต
ราชโอรสอยู่ไหนให้ปวดหัว
เตรียมพิธีเสี่ยงราชรถเพื่อหาตัว
ผู้มีบุญในทั่วปฐพี (๙)

พรานผู้หนึ่งเคยประสบพบโอรส
จึงรู้หมดที่อาศัยในวิถี
นำอำมาตย์ไปเชิญท่านในทันที
เลิกพิธีเสี่ยงทายไม่จำเป็น (๑๐)

เมื่อมาถึงจึงอัญเชิญสู่เมืองหลวง
กิจทั้งปวงรอรับดับทุกข์เข็ญ
เสวยราชสมบัติฉัตรร่มเย็น
โอรสเห็นสมควรชวนกันไป (๑๑)

ฝ่ายนางนาคบอกยากใช้ชีวิต
หากโกรธาพ่นพิษจะผิดได้
หมดบุญกันเถิดหนาขอลาไกล
พาลูกไปอยู่ด้วยช่วยปรองดอง (๑๒)

พระโอรสสั่งขุดเรือเพื่อนาคน้อย
ใส่น้ำค่อยเต็มลำนำทั้งสอง
มาลงเล่นในน้ำตามทำนอง
ประคับประคองเดินทางไปในเร็ววัน (๑๓)

เมื่อถึงวังยังให้ขุดสระสรง
นาคสององค์ลงแช่มิแปรผัน
จนวันหนึ่งมีสัตว์หนึ่งเข้าพัวพัน
ในสระนั้นแต่เมื่อไรไม่ทราบเลย (๑๔)

ระหว่างสองนาคน้อยลงเล่นน้ำ
โผล่หัวดำตามัวน่ากลัวเหวย
ตัวอะไรในสระใสไม่คุ้นเคย
ร้องลั่นเลยตกใจหลายลักขณา (๑๕)

จึงใช้แหและอวนมากวนลาก
มิลำบากเห็นเป็นเต่าเจ้าสี่ขา
คิดทำโทษใส่ครกตำฉ่ำอุรา
ปิ้งดีกว่าเอาเนื้อแกงว่าแรงดี (๑๖)

บ้างบอกเอาไม้พาดหม้อรอน้ำอุ่น	
มันมีลุ้นตายเป็นเล่นปาหี่
อีกคนว่าทิ้งน้ำวนชลธี
กระดองนี้จะแตกลงคงทรมาน (๑๗)

เต่าเจ้าเล่ห์เห็นทางรอดจึงสอดขึ้น
คงจะมึนก่อนตายทั้งกายฐาน
ถ้าทิ้งน้ำทุกข์ล้นจนวายปราน
ขอพวกท่านเมตตาฆ่าทันที (๑๘)

เหล่าข้าราชบริพารมินานคิด
เห็นตรงจิตทิ้งน้ำวนทนทุกข์นี่ 
เต่าหล่นตูมมิตายในวารี
นาคเด็กมีเห็นเต่าเข้าจับโยน (๑๙)

เจ้าเต่าน้อยเปลี่ยนมาดเป็นอาจหาญ
บอกพวกท่านได้โปรดหยุดโลดโผน
เราขอพบเจ้าบาดาลพาลตะโกน
อย่าหยาบโลนกับเราเต่าวางโต (๒๐)

(ยังมีต่อ...)				
19 พฤศจิกายน 2547 11:53 น.

เธอเห็นอะไร...ใต้ผ้าห่ม..

กุ้งหนามแดง

ใจหายวาบภาพย้ำกระหน่ำโศก
บริโภคไม่ได้กระส่ายกระสับ
หลับตาเห็นเรื่องร้ายมิหายวับ
ใครจะซับน้ำตาให้ตอบใจที

ก็ของรักของหวงดังบ่วงคล้อง
จะเรียกร้องคืนครองยังหมองศรี
แสนเสียดายหนักหนาคู่นารี
เกินวจีเอื้อเอ่ยเผยออกมา

เมื่อยังอยู่คู่กายดังหน่ายรัก
จำเจนักหลากหลายทั้งซ้ายขวา
ความคุ้นเคยใกล้ชิดยามนิทรา
ปรารถนาเมื่อใดหยิบใส่พลัน

ฟูมฟายอยู่หลายเพลาจนตาช้ำ
ทุกข์กระหน่ำทำโทษดังโกรธฉัน
ใต้ผ้าห่มเย็นเยียบในเงียบนั้น
สัมผัสอันเคยคุ้นละมุนนัก

จึงจับต้องจองจำด้วยฉ่ำหวาน
วันเบิกบานกลับมาค่าตระหนัก
กำไลทองวงเดียวเกี่ยวความรัก
ซาบซึ้งนักของหายแล้วได้คืน..				
19 พฤศจิกายน 2547 09:24 น.

เล็ก..แต่ลึก

กุ้งหนามแดง


ฉันเหนื่อย..
กับปัญหามากมาย
ที่ต้องแก้ด้วยแรงกาย
กว่าจะคลายสลายปม

ฉันท้อ..
กับเรื่องรอสะสางสม
ที่ต้องรองรับอารมณ์
ต้องขื่นขมตลอดมา

ฉันทำ..
เป็นประจำตามหน้าที่
กับเวลาที่พอมี
ไร้บ่วงหนี้ติดค้างใคร

ฉันทิ้ง..
เพียงความจริงอันยิ่งใหญ่
ว่าตรงนี้ไม่เคยมีใคร
ให้หวั่นไหวหรืออ่อนแอ

ฉันรู้..
แค่คัมภีร์นำเผยแผ่
ตนยังอยู่คู่ตาแล
เขลาหรือแท้แค่ที่*รู้*

....				
18 พฤศจิกายน 2547 09:02 น.

นางฟ้าชาเย็น..

กุ้งหนามแดง


เด็กเร่ร่อนมอมแมมตาแต้มโศก
ดูขี้โรคคนนั้นที่ฉันเห็น
สะพานลอยเขานั่งเช้ายันเย็น
ช่างลำเค็ญคับแค้นขาดแคลนนัก

หิวหรือเปล่าเจ้าหนูเคียงคู่ถาม
ไม่ตอบความส่ายหน้าก้มหาตัก
กินข้าวไหมพยักตามเพราะถามซัก
รอสักพักจะหาข้าวให้เจ้ากิน

พอกลับมาที่เดิมคิดเสริมสร้าง
ที่กลับร้างไร้เงาของเจ้าถิ่น
คงเคยถูกทอดทิ้งเป็นอาจินต์
ไม่เคยชินกับคำมั่นหมดวันรอ

เช้ารุ่งขึ้นผ่านทางเห็นคางช้ำ
ตัวเป็นจ้ำรอยใหม่นั่งใบ้ขอ
ถามอาการก้มหน้าน้ำตาคลอ
ทุกข์จนท้อชีวิตตัวนิดเดียว

แล้วต่างฝ่ายแยกย้ายหลายวาระ
ได้พบปะโดยบังเอิญคราเดินเที่ยว
สบตาพลันจำได้ไยแขนเดียว
มาเกาะเกี่ยวขอทานย่านชานเมือง

บุญหรือบาปภาพย้ำกระหน่ำจิต
ถูกหรือผิดหรือเราไม่เข้าเรื่อง
ได้สร้างเหยื่อหรือสร้างทานงานประเทือง
โลกรุ่งเรืองหรือนางฟ้าต้องชาเย็น..
..
				
Calendar
Lovings  กุ้งหนามแดง เลิฟ 56 คน

วฤก

โคลอน

หมอกจาง

เชษฐภัทร วิสัยจร

เพียงพลิ้ว

อัลมิตรา

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

พี่ดอกแก้ว

แทนคุณแทนไท

แก้วประเสริฐ

แมงกุ๊ดจี่

ประภัสสุทธ

รการต์

บินเดี่ยวหมื่นลี้

ร้อยฝัน

หิ่งห้อยน้อยใจ

ลักษมณ์

ผู้หญิงช่างฝัน

ก้าวที่...กล้า

กวีปกรณ์

-ร้อยแปดพันเก้า-

เพรง.พเยีย

เฌอมาลย์

ครูพิม

คอนพูทน

ก่องกิก

ลานเทวา

อินสวน

พิมญดา

ยาแก้ปวด

กันนาเทวี

กิ่งโศก

ครูกระดาษทราย

แก้วประภัสสร

KIRATI

virismara

แกงเขียวหวาน

คนกรุงศรี

มวลภมร

ดาวศรัทธา

cicada

เปลวเพลิง

หญิงบ้า

เ ที ย น ห ย ด

din

สีเมจิก

นักสืบไร้ชื่อ

ชากร

บุญพร้อม

แย้ม ไกลวันเกิน

พระจันทร์แสงนวล

Jackie

ไผ่ลู่ลมม

ศรีปาด เฟสเก่าโดนระบบลบเฉยเลย

Prayad

Parinya

Lovers  1 คน เลิฟกุ้งหนามแดง
Lovings  กุ้งหนามแดง เลิฟ 3 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกุ้งหนามแดง