5 ตุลาคม 2547 21:10 น.
กุ้งหนามแดง
เป็นเรื่องราวของนายเตี้ยมีเมียสวย
เขาไปช่วยทำกินต่างถิ่นฐาน
เลยได้เมียมาคู่เชิดชูกาล
คิดถึงบ้านเอามากจากเจ็ดปี (๙๗)
อยากไปเยี่ยมพ่อแม่คงแก่เฒ่า
นางเมียเล่าบอกรอก่อนยังร้อนนี่
ไม่มีข่าวให้รู้คงอยู่ดี
สามัคคีทำงานฟุ้งซ่านไป (๙๘)
อีกครั้งหนึ่งรบเร้าเธอเฝ้าค้าน
ยังรำคาญมีปากเสียงหลบเลี่ยงไหว
เลยรอก่อนอีกหนึ่งคราไม่ว่าไร
ครั้งที่สามสมใจไม่ทัดทาน (๙๙)
เขาบอกเมียจัดขนมสมใจนึก
หอบเป็นปึกไปฝากแม่แกชอบหวาน
เราไม่มีทรัพย์สินศฤงคาร
ไปเยี่ยมบ้านมือเปล่าไม่เข้าที (๑๐๐)
ทั้งสองคนเดินทางห่างหมู่บ้าน
แม่น้ำผ่านขวางไว้ในวิถี
ไม่รู้ตื้นหรือลึกตรึกตรองดี
ทั้งเรือแพไม่มีปลอดผู้คน (๑๐๑)
จนปัญญาข้ามชลพ้นกระแส
เลยนั่งแลริมฝั่งยังหวังผล
จะสอบถามซักไซ้ใครสักคน
ข้ามสายชลแห่งนี้วิธีใด (๑๐๒)
ชายสูงโปร่งตรงมาหาทั้งสอง
นายเตี้ยลองถามดูรู้บ้างไหม
แม่น้ำนี้จะข้ามทำอย่างไร
นายสูงนึกในใจไม่พูดมา (๑๐๓)
สองคนนี้ต่างถิ่นหาชินไม่
ทางตรงไหนตื้นเขินเดินพอขา
ทั้งเมียมันยังสวยด้วยละวา
ลวงไปเสียดีกว่าอย่าช้าเลย (๑๐๔)
นายสูงจึงบอกว่าข้ารู้แน่
แต่เรื่องแย่ต้องเจอนะเกลอเอ๋ย
จระเข้ชุกชุมเป็นกลุ่มเลย
ถ้าไม่เคยรอดยากมากอันตราย (๑๐๕)
แต่ถ้าน้องจะไปพี่จะช่วย
ถึงฝั่งด้วยทั้งคู่สู่ที่หมาย
นายเตี้ยว่าไม่กลัวหรือพี่ชาย
นายสูงบอกสบายเรารู้ทาง (๑๐๖)
จระเข้ทั้งหลายคุ้นกายกลิ่น
อย่าได้หมิ่นน้ำใจให้ขนาง
ผู้หญิงก่อนขึ้นบ่ามาเถิดนาง
ห่อผ้าวางบนหัวกลัวเปียกกัน (๑๐๖)
แล้วจะกลับมารับนายในรอบหน้า
ไม่ทันช้าขี่คอขมีขมัน
ย่างลงน้ำย่อตัวให้กลัวกัน
ทำเหมือนมันลึกมากยากข้ามไป (๑๐๗)
สองหนุ่มสาวหัวร่อต่อกระซิก
ระรี้ริกหยอกล้อพอสดใส
นายสูงว่าเห็นเธอเผลอมีใจ
นางสวยไม่ยอมตัวผัวเรามี (๑๐๘)
นายสูงบอกในน้ำหลามตะเข้
เดี๋ยวจะเททิ้งลงคงสุขขี
นางสวยบอกอย่าทำฉันยอมพลี
อยากตายดีกว่านี้น่ะพี่ชาย (๑๐๙)
พอถึงฝั่งยังฝากรักดูต่อหน้า
ทั้งคู่บอกว่าลาลับตาหาย
เตี้ยสุดแค้นในอกแทบตกตาย
ยังระคายแต่ไม่กล้าธาราริน (๑๑๐)
คิดยิ่งแค้นแสนรักเมียหนักหนา
อยากจะได้คืนมาเกรงกระสินธุ์
ตายเป็นตายต้องข้ามไปหลังได้ยิน
ก็รู้สิ้นตื้นเขินเดินข้ามมา (๑๑๑)
ฝ่ายข้าวใหม่ปลามันนั้นทอดน่อง
เราไม่ต้องรีบร้อนชมก่อนหนา
นั่นก็นกนี่ก็ไม้ค่อยไคลคลา
เตี้ยวิ่งมาถึงแล้วที่แนวไพร (๑๑๒)
เฮ้ย! ไอ้โจร คืนเมียเรามาน่ะ
สูงว่าชะ ไอ้เตี้ย ดึงเมียใกล้
ไหนเมียเอ็งเพ่งพิศผิดแล้วไง
เตี้ยบอกใช่คนนี้นี่เมียเรา (๑๑๓)
นายพาข้ามแม่น้ำตามมาถึง
แต่ตะลึงเมียว่าอย่ามาเหมา
ฉันเป็นเมียนายสูงจูงมือเบา
อย่ามาเข้าตีสนิทจะผิดความ (๑๑๔)
เตี้ยไม่ยอมตามตื้อเธอคือคู่
สูงบอกอย่ามาตู่บู๊ทั้งสาม
ชาวประชาผ่านสลดไม่งดงาม
คนทั้งสามตีกันนั้นเรื่องเมีย (๑๑๕)
เลยแนะนำไปหามโหสถ
จะได้หมดเรื่องวุ่นกลัวสูญเสีย
สูงไม่ยอมเสียเวลาพาอ่อนเพลีย
เตี้ยบอกเมียพี่จริงยิ่งต้องไป (๑๑๖)
แล้วสามคนตรงไปศาลาน้อย
เริ่มเรียงร้อยถ้อยความสว่างไสว
มโหสถเรียกความตามกันไป
ชื่ออะไรกันบ้างช่วยอ้างที (๑๑๗)
เตี้ยบอกชื่อโคฬกาฬอยู่บ้านนอก
ตกแต่งออกเรือนมาไม่ช้านี่
ภรรยาคือนางสวยสำรวยดี
พยานมีมากมายหลายคนเอย (๑๑๘)
มโหสถให้เตี้ยออกไปก่อน
แล้วจึงย้อนถามสูงมุ่งเฉลย
เมียของเจ้าแต่เมื่อไรไม่รู้เลย
จงเปิดเผยวันแต่งแบ่งกันฟัง (๑๑๙)
นายสูงพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
นางเป็นลูกใครก็ตามแค่ความหลัง
เราได้เสียกันเองเร่งปิดบัง
แล้วมานั่งเหงื่อซกตกม้าตาย (๑๒๐)
แล้วจึงเรียกนางเมียมาซักถาม
จงตอบตามความจริงสิ่งที่หมาย
ให้เวลานงรามตามสบาย
บอกไม่อายนายสูงเป็นสามี (๑๒๑)
แล้วเขาเป็นลูกใครจงขยาย
นางงมงายบอกไปไม่รู้นี่
แล้วพยานมีไหมใจไม่ดี
ตอบทันทีโดนข่มขู่ต้องอยู่เคียง (๑๒๒)
แม้ไม่ยอมเขาคงทิ้งกลิ้งจมน้ำ
ถูกตะเข้ขย้ำซ้ำขึ้นเขียง
ไม่อยากมีหรอกผัวน้อยค่อยเรียบเรียง
แต่บ่ายเบี่ยงไม่ได้กลัวตายเอย (๑๒๓)
มโหสถบอกสูงต้องจูงสาว
เพราะถึงคราวคืนเมียเสียแล้วเหวย
ประชาชนด่าดังไม่ยั้งเลย
ไม่อาจเฉยลงมือถือกำลัง (๑๒๔)
ราชบุรุษรายงานผ่านเมืองหลวง
เรื่องทั้งปวงสุจริตไม่ผิดหวัง
ปัญญาดีอยากชุบเลี้ยงสู่เวียงวัง
สี่ปราชญ์ยังให้รอดูต่อไป (๑๒๕)
..
5 ตุลาคม 2547 21:02 น.
กุ้งหนามแดง
จะขึ้นเหนือล่องใต้ไม่ลำบาก
แม้ทางยากยังปีนป่ายตะกายถึง
เคยบุกป่าฝ่าน้ำตามเข้าบึง
ทะเลขึงภูเขากั้นไม่หวั่นเลย
นักเดินทางอาศัยหัวใจกล้า
กับเวลาท้าทายจุดหมายเผย
ภาพทุกอย่างกระจ่างทางคุ้นเคย
โจทย์เฉลยเห็นชัดตัดสายตา
แต่ยังมีที่เดียวเที่ยวไม่ถึง
เป็นที่หนึ่งลัดเลาะคอยเสาะหา
คือที่ว่างในหัวใจของพี่ยา
ปรารถนาอย่างยิ่งไม่กริ่งเกรง
อุปสรรคจะสู้ไม่อยู่นิ่ง
จะไม่ทิ้งอุดมการณ์สานตรงเผง
ขอเข้าไปพักใจเท่านั้นเอง
อย่าข่มเหงนักเดินทางอ้างว้างเอย..
..
4 ตุลาคม 2547 14:34 น.
กุ้งหนามแดง
..
หญิงลูกอ่อนเดินทางช่างเหนื่อยนัก
จึงแวะพักริมสระตามประสงค์
วางลูกไว้ขอบบ่อพอบรรจง
แล้วมุ่งตรงลงท่าล้างหน้าพอ (๗๙)
ยักษิณีตนหนึ่งมาถึงสระ
มองเด็กน้อยไม่ละตะกละหนอ
เนื้อคงหวานกรอบกรุบกระดูกคอ
จีบปากต่อไม่หยุดบุตรน่าชัง (๘๐)
นางในสระบอกลูกหนูช่วยดูด้วย
ยักษ์บอกช่วยอุ้มไหมเอาใส่หลัง
แม่บอกดีไม่น้อยคอยระวัง
เกรงพลาดพลั้งตกน้ำกำลังซน (๘๑)
นางยักษ์ร้ายเห่กล่อมยอมให้อุ้ม
ถือโอกาสเดินดุ่มได้คุ้มผล
แม่เด็กเรียกหยุดก่อนด้วยร้อนรน
สำนึกตนจะเสียลูกรีบลุกมา (๘๒)
ฝ่ายนางยักษ์บอกลูกข้าอย่ามาแย่ง
ทั้งแข็งแกร่งแรงผลักของยักษา
หกล้มลุกคลุกฝุ่นวุ่นกายา
เห็นน้ำตาอาบแก้มแกมอ้อนวอน (๘๓)
ประชาชนเห็นสองนางวางมวยแล้ว
คงไม่แคล้วตีกันมั่นสมร
จึงบอกให้หยุดก่อนย้อนบทตอน
แม่บอกก่อนเดินทางวางบุตรไว้ (๘๔)
หญิงแปลกหน้าอุ้มเดินเมินหนีหน้า
ข้าจึงกล้าเข้าแย่งแถลงไข
นางยักษีบอกเดินมาบ้าแล้วไง
ขึ้นจากสระตู่ได้ไม่อายเลย (๘๕)
ประชาชนแนะว่าอย่าช้าแม่
มโหสถจะแก้แน่เปิดเผย
ทั้งสองนางเห็นดีตามนี้เลย
ความเฉลยเที่ยงแท้ใครแม่จริง (๘๖)
มโหสถสอบถามทั้งคนยักษ์
เจ้าสมัครใจหรือไม่ใจสองหญิง
นางทั้งสองบอกยินดีงดตีชิง
จะได้ทิ้งข้อพิพาทวิวาทกัน (๘๗)
มโหสถผู้มีบุญคุณวิเศษ
ดูยิ่งแจ้งในเหตุเนตรสวรรค์
หนึ่งยักษีหนึ่งแม่แก้ให้ทัน
พิศดังนั้นขีดเส้นตรงลงพื้นดิน (๘๘)
นำเด็กน้อยวางกลางระหว่างเส้น
สองนางเป็นมารดาอย่าผกผิน
คนละทางต่างจับขยับยิน
ดึงสู่ถิ่นข้างตัวจับหัวเท้า (๘๙)
วิธีการชักคะเย่อเธอจงใช้
แม้เด็กอยู่ฝ่ายใดใจหมดเขลา
สองนางดึงเด็กร้องลั่นไม่ทันเบา
แม่เด็กเฝ้าฟูมฟายคลายมือพลัน (๙๐)
สงสารลูกหนักหนาข้าต้องปล่อย
ยักษ์ฝันหวานคงอร่อยไม่น้อยนั่น
มโหสถบอกชนะละประชัน
คนไหนกันใจอ่อนแท้แม่หรือใคร (๙๑)
สาธุชนบอกแม่แน่ที่สุด
ต้องรักบุตรมั่นคงตรงใช่ไหม
เห็นลูกเจ็บต้องปล่อยค่อยเข้าใจ
มอบให้ไปลูกนางอย่างสมควร (๙๒)
นางยักษีบอกลูกฉันมันไม่ลด
มโหสถบอกหมดความอย่าตามหวน
อย่าให้ถึงกฎเมืองเลื่องกระบวน
ประชาชนจ้องล้วนชวนต่อยตี (๙๓)
นางจึงยอมละเว้นเห็นเหมาะสม
จะระบมถ้าตะแบงแบ่งเกศี
สารภาพแย่งมาอาหารดี
มโหสถชวนชี้ศีลธรรม (๙๔)
จงตั้งอยู่ในศีลสุจริต
และจงปิดทุจริตคิดถลำ
จงกลัวเกรงแม่บทกฎแห่งกรรม
ให้จดจำทำดีย่อมได้ดี (๙๕)
แล้วจึงปล่อยผู้พลั้งหลังโอวาท
บุรุษราชรายงานผ่านกรุงศรี
พระราชาอยากรับมาคู่ธานี
บัณฑิตสี่บอกรอก่อนอย่าร้อนการ (๙๖)
..
4 ตุลาคม 2547 10:21 น.
กุ้งหนามแดง
หนึ่งตัวตนเกิดก่อพอปีกกล้า
มีสองขาค่อยย่างบ้างถอยหลัง
พร้อมสติปัญญาเสริมเติมพลัง
เป็นความหวังพ่อแม่แลครอบครัว
ไม่เคยสร้างปัญหาศึกษามุ่ง
หมายผดุงฐานะละสลัว
พ้นสภาพถูกเหยียดหยามความมืดมัว
ตามติดตัวเป็นเงาแต่เยาว์วัย
ใกล้ถึงวันสำเร็จของเพชรน้อย
เพียงเคลื่อนคล้อยกระพริบกลับวิบไหว
มัจจุราชกระชากพรากเจ้าไป
สุดอาลัยเห็นร่างที่ร้างลม
แสงโชติช่วงดับวูบลูบแขนขา
เช็ดน้ำตามิจางช่างขื่นขม
มือของแม่มอบดอกไม้ใจตรอมตรม
หวังชื่นชมกลับกลายส่งท้ายวิญญ์
บัณฑิตน้อยของแม่แลเห็นเจ้า
กลับต้องเศร้าผูกกายด้ายสายสิญจน์
หลับเถอะน่ะลูกรักพักยลยิน
กลับคืนถิ่นเจ้ามาอย่าอาลัย
ขอส่งเจ้าตรงนี้ไปดีเถิด
ให้เจ้าเกิดเป็นลูกแม่อีกได้ไหม
ปริญญาความรักถักจากใจ
แม่มอบให้เจ้าถือคือเบิกทาง..
..
3 ตุลาคม 2547 18:22 น.
กุ้งหนามแดง
เมื่อเธอล้ม ฉันพร้อม ยื่นมือให้
เมื่อเธอพ่าย อยู่ใกล้ ปลอบใจเสมอ
เมื่อเธอสุข ยินดียิ่ง สิ่งที่เจอ
เมื่อเธอเผลอ คอยเตือน เราเพื่อนกัน
เธอรู้ไหม คนเคียงข้าง ยังว่างอยู่
เธอรู้ไหม คนเคียงคู่ เขาไหวหวั่น
เธอรู้ไหม คนเคียงใกล้ คิดไปวัน
เธอรู้ไหม คนเคียงจันทร์ นั้นระทม
อยากบอกรัก ออกไป ยังไม่กล้า
อยากบอกรัก เกรงว่า เป็นยาขม
อยากบอกรัก กลัวเจ็บ เก็บยิ่งตรม
อยากบอกรัก พร่างพรม ใช่ลมลวง
ขอเธอเก็บ ความหมาย จากใจฉัน
เป็นเงาจันทร์ นอกใจ ใต้แดนสรวง
รู้ตัวดี แค่เพื่อน ไม่เลื่อนควง
ขอแค่ห่วง หวงเธอ เพ้อต่อไป