1 มิถุนายน 2547 22:43 น.
กุ้งหนามแดง
ในวัยเยาว์จำได้ไปบ้านนอก
ยินแม่บอกเยี่ยมยายคลายถวิล
จัดกระเป๋าสัมภาระกะของกิน
น้ำท่ารินใส่ขวดมีลวดลาย
นอนไม่หลับกลางคืนมันตื่นเต้น
เดินทางเป็นครั้งแรกแปลกที่หมาย
แม่ห่มผ้าให้หน่อยค่อยสบาย
จึงผ่อนคลายกังวลจนหลับไป
ตื่น ตื่น ตื่น เช้าแน่แค่ตีห้า
ไม่รอช้าปลุกอาบน้ำฟอกซ้ำได้
แล้วแต่งตัวปะแป้งแจ้งผ้าใบ
ใส่หมวกให้ดูเท่เก๋ไม่เบา
แล้วพาขึ้นรถเมล์วิ่งเป๋ปัด
แทบจะพลัดตกม้าคว้าเอาเสา
ถึงซะทีหัวลำโพงนั่งโยงเรา
แม่ไปเข้าคิวซื้อถือตั๋วมา
เห็นผู้คนมากมายทั้งชายหญิง
อยากรู้จริงเขาจะไปไหนกันหนา
จะเหมือนเราหรือเปล่าไปเฝ้าตา
หรือแวะมาดูรถไฟใช่ไหมเอย
บ้างหิ้วลังแม่โขงนุ่งโจงรั้ง
หกล้มพลั้งวิ่งยืนสะอื้นเฉย
บ้างร้องขายเปาหมึกพิมพ์เรายิ้มเลย
เพราะไม่เคยฟังย่อหัวร่อดัง
แม่พาเดินชานชาลามารอรถ
แล้วก็ปลดข้าวของกองข้างหลัง
ขบวนรถที่หมายคล้ายว่ายัง
ไม่ถึงดังกำหนดที่กฎเกณฑ์
ระหว่างรอนั่งมองทั้งสองด้าน
ไม่เหมือนบ้านเราเลยที่เคยเห็น
ดูหลังคาโปร่งโล่งส่วนโค้งเป็น
โครงเหล็กเน้นสังกะสีทาสีเงิน
ปู๊น ปู๊น ปู๊น แล่นมาเข้าท่าแล้ว
วิ่งเป็นแนวตรงมาเหมือนว่าเหิน
จอดสนิทเทียบตรงคนลงเดิน
เพียงมองเพลินแม่เร่งคนเก่งเร็ว..
(ยังมีต่อ..)
30 พฤษภาคม 2547 20:53 น.
กุ้งหนามแดง
น้ำตาร่วงร้าวรอนอุทรแม่
นับตั้งแต่ลืมตาร้องจ้าขอ
โอกาสรักครั้งแรกเข้าแทรกกอ
นับวันรอเก้าเดือนเพื่อเคลื่อนมา
ตั้งแต่อยู่ในครรภ์สัมพันธ์แรก
มิได้แตกต่างอื่นล้วนชื่นหนา
แต่พอคลอดออกมาเห็นกายา
ชะงักชาหน้าแตกด้วยแปลกพันธ์
ตีหน้ายักษ์หนักข้อชลอรัก
ข้อหาหนักมีชู้ช่างตู่สรร
พยาบาลหยิบผิดผลิตภัณฑ์
พิสูจน์ฉันตรวจทีดีเอ็นเอ
ไม่รักฉันแล้วใยให้ฉันเกิด
รักประเสริฐขาดพลันวันหันเห
ฟ้องเอาผิดกับแม่แท้เกเร
เคยขี้เหร่หลอกลวงติดบ่วงใจ
แม่เคยไปศัลยกรรมทำหน้าสวย
หลงสำรวยงามเลิศจึงเกิดได้
แล้วตัวฉันไร้สิทธิ์ผิดอย่างไร
ให้อภัยที่ฉันแค่เหมือนแม่เอย..
30 พฤษภาคม 2547 20:39 น.
กุ้งหนามแดง
ตะวันพลบหลบฟ้าจันทรารับ
ดาววิบวับจับตาพนาไหว
แว่วยินเสียงจักจั่นสนั่นไพร
คืนยาวไกลหมายวอนมิร้อนรน
ก่อกองไฟไม้ดุนรุนกระดาษ
ไม้ขีดพาดเป็นประกายขยายผล
นำส่งเปลวร้อนแรงแสดงตน
ควันปะปนคละคลุ้งพวยพุ่งไป
ลมโชยพัดเพียงเบาเคล้าปะทุ
เปลวไฟคุลุกโร่โผล่แนวไผ่
คอยหยอกเย้ายั่วเล่นเป็นนัยนัย
ดังดวงใจเคยล้อเคล้าคลอกัน
หมอกคลุมครอบระบับดังกับม่าน
เงาพาดผ่านซึมซาบดังอาบฝัน
ใยเจ้าจึงแอบแฝงใต้แสงจันทร์
แกล้งขบขันยิ้มย่องประลองใจ
เพลิงลุกลามยามลาถึงครามอด
อยากสวมกอดกานดาอัชฌาสัย
ควันสีขาวเบาบางเจ้าพรางใคร
บดบังไปทุกอย่างมิพร่างพราย
เสียงกรอบแกรบเพียงเบากระเซ้าหลบ
ออกมาพบหน้ากันน่ะจันทร์ฉาย
อย่าปล่อยให้สับสนทุรนทุราย
เยื้องย่างกรายเคียงใกล้คนใจเดิม
บรรยากาศรอบตัวอาจมัวนัก
แต่ความรักสว่างกระจ่างเสริม
มีแต่ใจภักดีที่เพิ่มเติม
ตั้งแต่เริ่มรู้จักประจักษ์จริง
เธอคนดีคนนี้วจีเรียก
หัวใจเพรียกร่ำร้องหาน้องหญิง
เป็นเงาใจเคียงแนบหวังแอบอิง
อย่าได้ทิ้งให้หนาวแสนร้าวใจ..
..
28 พฤษภาคม 2547 10:39 น.
กุ้งหนามแดง
รองเท้าแก้วหลุดหล่นร้อนรนรีบ
ชุดอัดกลีบรถฟักทองตระกองหาย
เวลาแห่งความสุขสนุกคลาย
หันหลังบ่ายหลบเลี่ยงไม่เสี่ยงรอ
คือนิทานตอนเด็กยังเล็กอ่าน
จากหลักฐานนำสืบคืบหน้าขอ
พบนางซินเดอเรลล่าเบอร์ห้ารอ
พอดีหนอลองใส่ก็ใช่เธอ
เห็นรองเท้าริมถนนระคนคิด
หนังชีวิตมิเหมือนเงื่อนเสนอ
โชคชะตาไม่ประสบพบเลิศเลอ
เรื่องเผลอเรอประมาทพลาดถึงตาย
ไม่เห็นใครนำส่งตรงเจ้าทรัพย์
รองเท้ากับลมปรานสะท้านหลาย
ใช้ชีวิตคู่สติมิงมงาย
มิวอดวายก่อนวันอันสมควร..
..
27 พฤษภาคม 2547 17:07 น.
กุ้งหนามแดง
..
ความร้าวราน..มาเยือนสะเทือนหล้า
ความแกล้วกล้า..หมดแรงจะแข็งขืน
ความอ่อนแอ..ถาถมล้มทั้งยืน
ความขมขื่น..ครอบงำระกำรัก
ความเชื่อมั่น..ในตนแทบป่นปี้
ความเซ้าซี้..แยกทางร้างจมปลัก
ความจำยอม..ทำไปอาลัยนัก
ความประจักษ์..แก่ใจไม่รักกัน
ความหดหู่..ตามต้อยคอยกระทบ
ความเศร้าซบ..สิงสู่เป็นคู่ฉัน
ความมัวเมา..ห่างหายมลายพลัน
ความใฝ่ฝัน..ล้มครืนสะอื้นครวญ
ความแตกแยก..ทำใจให้อ้างว้าง
ความเหินห่าง..ทำใจให้กำสรวญ
ความมืดมิด..ปกคลุมดังหลุมมวล
ความเรรวน..มาเกี่ยวจึงเดียวดาย
..