24 สิงหาคม 2547 15:56 น.
กุ้งหนามแดง
เคยคาดหวังครั้งคาดไหวใจระส่ำ
จึงระกำจำละไกลมิได้หวน
เหลือน้ำตาลาน้ำตกอกเซซวน
ต้องโศกครวญตรวนโศกคำชอกช้ำจริง
เพียงเหตุผลพ้นเหตุพาลหวานกลายขม
หอมลั่นทมห่มลั่นธารทุกข์พาลสิง
แกล้งให้รักกักให้หลงคงชังชิง
จวนจะทิ้งจริงระทมเกินข่มใน
ชินความมืดชืดความหมองลองความเงียบ
ปริ่มท่าเทียบเปรียบท่าท้ายวายความไหว
รอวันเปลี่ยนเรียนวันปลงเคยหลงไป
หยุดหวั่นไหวใยหวั่นหวามยามเดียวดาย
ทุกข์ผ่านกรรมธรรมผ่านกรายหายไม่ช้า
เลิกแวะมาลาแวะกันแผลพลันหาย
เพียงรับรู้ผู้รับร้าวก้าวระคาย
เลิกงมงายลายงมงามข้ามพ้นมา..
23 สิงหาคม 2547 17:08 น.
กุ้งหนามแดง
.
.
.
.
หน้านี้จะเป็นการรวม Link ของเรื่องทศชาติทั้งหมดเพื่อความสะดวกในการค้นหา และรวบรวมสำหรับการเลือกเก็บไว้ที่หน้าส่วนตัว (สำหรับผู้ที่ต้องการรวมชุด)
จะได้มีที่เหลือสำหรับบทกลอนที่ชื่นชอบ ของนักเขียนท่านอื่นค่ะ...
หน้ารวมเรื่องทศชาติ...
http://www.thaipoem.com/web/poemcontentgen.php?cidx=&pageno=&keyword=เล่าเรื่องทศชาติ
หน้ารวมเรื่องมโหสถบัณฑิต..
http://www.thaipoem.com/web/poemcontentgen.php?cidx=&pageno=&keyword=มโหสถบัณฑิต
กุ้งหนามแดง
22 สิงหาคม 2547 19:14 น.
กุ้งหนามแดง
๑) แต่ก่อนกาลพาราณสีธานีใหญ่
เจ้ากรุงไกรกาสิกราชร้อนอาสน์รุ่ม
เรียกสนมมเหสีที่ประชุม
มีเรื่องกลุ้มขาดทายาทสืบศักดา
๒) ทำพิธีบวงสรวงปวงเทพไท้
บันดาลให้จันทเทวีมีครรภ์หนา
ลุเก้าเดือนประสูติกุมารา
พระบิดาดีพระทัยหาใดปาน
๓) จัดสมโภชน์ทันทีดนตรีเสนาะ
ฝนแปะเปาะทั่วนครดังพรขาน
พระนามาเตมีย์ศรีกุมาร
พระโปรดปรานโอรสยศไกร
๔) อุ้มออกว่าราชการผสานผล
หวังฝึกฝนกลการสานสมัย
วันข้างหน้าด้วยหวังบัลลังค์ชัย
สืบต่อไปเตมีย์ศรีแผ่นดิน
๕) แล้ววันหนึ่งถึงกิจวินิจฉัย
นำโจรไพรสี่นายหมายตัดสิน
ลงอาญาในความตามกระบิล
ลงโทษสิ้นมรณังบ้างขังคุม
๖) พระกุมารเห็นแล้วไม่แคล้วบาป
ด้วยทรงทราบภาพหลังครั้งไฟสุม
ตกนรกแน่นอนต้องร้อนรุม
ยามเมื่อหนุ่มสืบสานงานบุรี
๗) เทพธิดาอารักษ์เขตเศวตฉัตร
แนะปฏิบัติทางปลีกเพื่อหลีกหนี
สามประการกำหนดหมดราคี
พระเตมีย์ฟังคำนางจำนรรจ์
๘) จงเป็นง่อยปล่อยองค์ปลงสังขาร
เรียกไม่ขานหูดับสรรพสิ่งสรร
จงเป็นใบ้ไร้เสียงหลบเลี่ยงพลัน
ไอศวรรย์จะพ้นอดทนเอย
๙) นับแต่นั้นปฏิบัติขัตติยะ
ทุกกาละผละทิ้งอยู่นิ่งเฉย
งดพูดจาปรารมภ์หมดชมเชย
ช่างเฉยเมยเลยลิ้นคำยินยล
๑๐)พระชนกตกพระทัยให้แสนห่วง
เชิญหมอหลวงตรวจอาการวานบอกผล
ปกติทุกอย่างปรางกมล
จึงนึกกลอุบายให้หายดี
๑๑)ทดลองจุดเพลิงพรายหมายจะเผา
มิร้อนเร่าหลบละผละวิถี
คชสารไล่ล่าคุมท่าที
จรลีสักนิดไม่คิดทำ
๑๒)อสรพิษคิดร้ายหมายกัดขบ
ยังสงบกลบปิดมิคิดขำ
มโหรีปี่ล้อมพร้อมนางรำ
มิถลำรู้เหตุเจตนา
๑๓)ครบเจ็ดปีเสนีย์และอำมาตย์
ไม่สามารถแก้ไของค์พระพงศา
เจริญวัยใคร่ลวงบ่วงกามา
ไร้ที่ท่าตอบสนองประคองโลม
๑๔)ล่วงสิบหกชันษาหาเคลื่อนไหว
เสนาในอำมาตย์ปราชญ์หักโหม
แกล้งทำเสียงอึกทึกครึกครึกโครม
พระทรงโฉมหาตกใจมิใยดี
๑๕)จึงกราบทูลทรงธรรม์ด้วยหวั่นไหว
กาลกิณีเกินใครให้หมองศรี
จะเป็นภัยในฉัตรปฐพี
พระเตมีย์มีกรรมกำจัดไกล
๑๖)กาสิกราชเห็นดีมีดำรัส
จงขจัดโพยภัยไม่สงสัย
นำกุมารไปฝังยังพงไพร
ขืนทรงไว้อันตรายวายวงศ์วาร
๑๗)จันทเทวีอัครมเหสี
พระปรานีในบุตรสุดสงสาร
จึงร้องขอพรเดิมเสริมประทาน
ให้กุมารครองราชย์มาตรเจ็ดวัน
๑๘)แล้วให้ครองฉลององค์ทรงกษัตริย์
ใต้ร่มฉัตรจัดเสด็จทุกเขตขัณฑ์
ทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินยลยิลกัน
มิแปรผันในองค์ทรงระวัง
๑๙)พระชนนีกำสรดหมดวาระ
สุนันทะนำพระจะไปฝัง
รถมงคลนำเทียบเลียบหลังวัง
ป่าช้ายังที่หมายกลายอีกครา
๒๐)ลุไพรวัลย์สุนันทะผละจอดรถ
พระทรงกลดขยับกายทั้งซ้ายขวา
สารถีขุดคร่าวกว้างยาววา
รอเวลาปลิดปลงองค์ภูมี
๒๑)พระหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์รู้ชัดแจ้ง
มิสิ้นแรงกำลังดังราชสีห์
ยกรถทรงกวัดแกว่งแฝงฤทธี
พระเตมีย์ศรีชาติช่างอาจอง
๒๒)สารถีเร่งรุดขุดหลุมลึก
มิคิดนึกการใดช่างไหลหลง
พระตรัสถามทำการใดให้บรรจง
สุนันทะดังลืมหลงความทรงจำ
๒๓)คิดว่าคนเดินทางผ่านมาเห็น
ตอบแค่เป็นพิธีมิถลำ
ข้าขุดหลุมฝังคนมิพ้นคำ
พระถามย้ำฝังใครใคร่ชี้แจง
๒๔) *ลูกเจ้าเมือง*เคืองนักมาซักไซ้
ทั้งเป็นใบ้หูดับจับแสลง
ไม่เคลื่อนไหวในองค์ทรงแสดง
ล้วนเคลือบแคลงคงแรงกาลกิณี
๒๕) แล้วขยายหลายกลแต่หนหลัง
แก้ไขยังไม่หายต้องหน่ายหนี
พระบิดาเกรงภัยกรุงไกรมี
จึงได้มีราชโองการผลาญให้ตาย
๒๖) พระเตมีย์ว่าสุนันท์ฉันโอรส
มิปรากฎดังเจ้าเล่าถวาย
สารถีดูพระประพิมประพาย
มองยิ่งคล้ายร่างทุกข์บรรทุกมา
๒๗) อัศจรรย์เหลือเกินดำเนินได้
ไม่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแกร่งหนักหนา
สิบหกปีงดเคลื่อนไหวในกายา
มิเฉื่อยชาพูดคล่องมิพร่องเลย
๒๘) แล้วชวนองค์ตรงกลับทรัพย์สถาน
ช่วยสืบสานงานเมืองเฟื่องเฉลย
ข้าฯ จะได้อามิสที่คิดเคย
พระตรัสเปรยเอ่ยว่าเราละวาง
๒๙) บำเพ็ญเพียรสิบปีพลีเพื่อพ้น
ประพฤติตนปล่อยปละละขนาง
เครื่องร้อยรัดให้มัวหมองบ่อนกั้นกลาง
ควรเหินห่างขว้างทิ้งไม่ยินดี
๓๐) เราจะบวชรักษ์ศีลเลิกปีนทุกข์
หยุดล้มลุกในวัฏฏะผละหลีกหนี
ท่านจงกลับรับสารไปในบุรี
บอกความนี้แก่องค์พระทรงธรรม์
๓๑) เผื่อกลับองค์หลงผิดจะคิดได้
ดำรงไว้เนื้อบุญหนุนไอศวรรย์
อีกอาชาราชรถหมดหนี้กัน
คืนโดยพลันสุนันท์ท่านรับไป
๓๒) สุนันทะบอกองค์คงอยู่ที่
สารถีรีบรี่มิไถล
เผื่อบิดาเสด็จมามิช้าไกล
ว่ามิได้ข้าปดลดมลทิน
๓๓) พระรับคำอำลาสารถี
ตั้งจิตตีดำรงคงรักษ์ศิล
สุนันทะถึงพาราน้ำตาริน
กราบทูลสิ้นสององค์สิ้นสงกา
๓๔) จากกำสรวลซวนโทรมโทมนัส
ตาลปัตรแปรผันเป็นหรรษา
ทั้งชื่นชมโสมนัสขัตติยา
อยากเห็นหน้าลูกยามาทันที
๓๕) แล้วทูลว่าหากไปคงได้เห็น
พระบำเพ็ญในพรตบทศรี
ให้ชื่นจิตบิตุรงค์ทรงเปรมปรีด์
พระชนนีก็เป็นเช่นเดียวกัน
๓๖) มีดำรัสจัดพหลพลทหาร
ดำเนินการเร่งรุดไปในไพรสันต์
ทิศปราจีนมุ่งหน้ามิช้าวัน
ถึงที่มั่นกันแสงแรงยินดี
๓๗) เมื่อพบกันวันนี้พ่อมีกิจ
จงสานกิจการเมืองรุ่งเรืองศรี
เบญจราชกุธภัณฑ์นั่นพร้อมมี
เตรียมมานี้รับเจ้าเข้านคร
๓๘) สืบสมบัติขัตติยะไม่สิ้นสูญ
สืบตระกูลเราไว้ไม่ถอดถอน
เพื่อประโยชน์คนหมู่มากอย่าจากจร
พระสั่งสอนวอนเว้าให้เข้าใจ
๓๙) พระเตมีย์ว่าบวชต้องกวดขัน
ควรจะบรรพชามิสาไถย
สังขาระไม่เที่ยงจงเลี่ยงภัย
ตายเมื่อไรไม่รู้คิดดูเอย
๔๐) อย่าประมาทขลาดเขลาจงเข้าจิต
เพราะชีวิตแสนสั้นทรงธรรม์เอ๋ย
ยกเนื้อความธรรมะอย่าละเลย
ด้วยเปิดเผยวิถีทางที่ควร
๔๑) พระราชาเห็นชอบจึงตอบรับ
ด้วยสดับความจริงทุกสิ่งสรวล
ขอผนวชโดยตรงมิหลงรวน
ตีฆ้องชวนประชามาบวชกัน
๔๒) สิบสองคลังเปิดไว้ให้สะดวก
เชิญพรรคพวกขนไปให้สุขสันต์
ทั้งจารึกข้อความตามเสาพลัน
เชิญแบ่งปันทรัพย์นั่นตามสบาย
๔๓) เหล่าประชาตามบวชกันเป็นแถว
ละทิ้งแล้วบ้านเมืองเรื่องค้าขาย
เป็นดาบสดาบสินีมิวุ่นวาย
และช้างม้าวัวควายปล่อยมันไป
๔๔) พระราชาต่างถิ่นได้ยินเล่า
จะยึดเอานครอมรไสว
เห็นข้อความตามเสาไม่เข้าใจ
เหตุอันใดทิ้งเมืองอันเลื่องลือ
๔๕) ตรงเข้าป่าพบราชาปะฤษี
พระเตมีย์ให้โอวาทปราศยึดถือ
จึงเลื่อมใสในธรรมที่ร่ำลือ
พลิกฝ่ามือถือบวชในรวดเดียว
๔๖) บำเพ็ญฌาณสมาบัติขจัดทุกข์
ดำรงสุขแดนสงบดังหลบเหลียว
เมื่อตายไปเทวโลกล้วนโลกเดียว
เพราะกลมเกลียวในธรรมที่ทำมา
๔๗) เรื่องนี้ให้อะไรใช่สอนสั่ง
เห็นพลังความเพียรมีเปลี่ยนหนา
ความตั้งใจมิไหวหวั่นมั่นวิริยา
จะนำมาซึ่งสำเร็จเสร็จสมบูรณ์
๔๘) จึงจบเรื่องพระเตมีย์ศรีสถิตย์
น้อมดวงจิตเขียนไว้มีให้สูญ
หากผิดตกรกเรื้อจงเกื้อกูล
หวังเพิ่มพูนเรื่องดีเป็นศรีเอย..
จบเรื่องเตมีย์ใบ้...แต่เพียงนี้..
20 สิงหาคม 2547 09:27 น.
กุ้งหนามแดง
www.matichon.co.th/olympic2004/program.php
...........................................................................
โอลิมปิคสองพันสี่ที่แข่งขัน
เขาประชันเรื่องใดใคร่จะถาม
อยากจะรู้สักหนค้นหาความ
เขาว่าสามสิบสี่ชนิดไม่ปิดบัง
หนึ่ง..กรีฑาทั้งลานผสานลู่
สอง..ตีคู่ว่ายน้ำจ้ำลืมหลัง
สาม..กระโดดน้ำย้ำน่าดูจัง
สี่..โปโลน้ำยังแข่งแบ่งหญิงชาย
ห้า..ระบำใต้น้ำงามแพลงพลิก
หก..ยิมนาสติคสากลฉงนฉงาย
เจ็ด..ยิมนาสติกลีลาดูสบาย
แปด..ทรัมพอลลีนเป็นไงยังงงงง
เก้า..ยิงปืนเป้าบินและเป้านิ่ง
สิบ..นั้นยิงธนูคู่คันส่ง
สิบเอ็ด..ยกน้ำหนักสมัครลง
สิบสองคง..เรือพายแบบกรรเชียง
สิบสามนั้น..เรือใบในวินด์เซริฟ
สิบสี่..เลิศเรือแคนนูพายเฉียงเฉียง
สิบห้า..มวยสากลชายลำเลียง
สิบหก..เลี่ยงมาดูคู่ยูโด
สิบเจ็ด..นั้นเทควันโดโก้หนักหนา
สิบแปด..มามวยปล้ำน้ำหนักโข
สิบเก้า..ฟันดาบก๊องแก๊งแสดงโชว์
ยี่สิบ..โอ้บาสเกตบอลหย่อนห่วงกัน
ยี่สิบเอ็ด..วอลเล่ย์บอลไม่มีพลาด
ยี่สิบสอง..วอลเล่ย์บอลชายหาดสวรรค์
ยี่สิบสาม..ฟุตบอลเตะก่อนยัน
ยี่สิบสี่..ฮอกกี้นั้นสนุกดี
ยี่สิบห้า..แฮนด์บอลก่อนหยิบยก
ยี่สิบหก..เบสบอลโยนก่อนนี่
ยี่สิบเจ็ด..ซอฟบอลก็เข้าที
ยี่สิบแปด..แบดบินตันตีไปมา
ยี่สิบเก้า..เทนนิสกลัวติดเน๊ต
สาบสิบ..เสร็จปิงปองประลองหนา
สามสิบเอ็ด..จักรยานปั่นตามมา
สามสิบสอง..ขี่ม้าไม่ลาไป
สามสิบสาม..ไตรกีฬาน่าขยัน
สามสิบสี่..ปัญจกีฬาสมัยใหม่
หมดเท่านี้เข้าพิธีปิดทันใด
พบกันใหม่อีกสี่ปีน้องพี่เอย..
20 สิงหาคม 2547 09:14 น.
กุ้งหนามแดง
ตำราว่าไว้ใจมิตร
ผ่องพิศคิดครวญถ้วนถี่
แวดล้อมหน้าหลังยังมี
คนดีนี้สานพาลละ
มิตรแท้สี่ทำจำพวก
ผลบวกคบไปไม่ผละ
หนึ่งมีอุปการะ
ลักษณะมีสี่ประการ
ป้องกันเพื่อนผู้ประมาท
มิขาดดูแลทรัพย์สถาน
มีภัยพี่งได้ไหว้วาน
เจือจานเกินอยู่ดูดาย
สองร่วมสุขทุกข์คลุกเคล้า
รากเหง้าสี่อย่างวางหมาย
เปิดเผยลับตนกลกราย
มิพรายลับเพื่อนเกลื่อนไป
วิบัติจัดแจงแบ่งกิจ
ชีวิตสละแทนให้ได้
สามแนะประโยชน์โทษภัย
หัวใจสี่ดวงควงชม
คอยปรามยามจิตคิดชั่ว
ตั้งตัวความดีมีถม
เล่าสู่รู้ความงามคม
ทางพรหมสมจิตน์ลิ้นนำ
สี่รักภักดีมีมอบ
ชื่นชอบสี่แรงแบ่งหนำ
ร่วมทุกข์คลุกคลีชี้ธรรม
สุขสำราญล้อมพร้อมเดิน
ใครติเพื่อนเราเฝ้าแก้
ดีแท้ยืนยันสรรเสริญ
มิตรแท้ดังคำจำเริญ
เพลิดเพลินคบหาพาที
หากได้ใจเพื่อนเหมือนหมาย
ใจสบายหายห่วงดวงฉวี
รักษาหาไว้ไมตรี
สามัคคีดีถนอมยอมอภัย
....
เพื่อนแท้มีน้อยคนนัก..
..