24 กันยายน 2547 15:24 น.
กุ้งหนามแดง
สิบเอ็ดเดือนผ่านไปได้กำเนิด
บุตรประเสริฐเศรษฐีที่เกรงขาม
บ้านศิริวัฒกะในเนื้อความ
ในเขตคามตะวันออกมิถิลา (๙)
ตอนที่คลอดถือยาออกมาช่วย
อาการป่วยของบิดายารักษา
ปวดศรีษะเจ็ดปีแต่ก่อนมา
หายทันตาเพราะโอสถหมดอาการ (๑๐)
มโหสถจึงเป็นชื่อคือสาเหตุ
ท่านมีเจตน์การุณย์บุญประสาน
ปันตัวยาช่วยเหลือและเจือจาน
แก่ชาวบ้านคลายทุกข์สุขทั่วกัน (๑๒)
แล้วถามสืบลูกหลานหมู่บ้านนี้
ใครที่มีวันเกิดตรงกับลูกฉัน
อุปถัมภ์เลี้ยงดูไว้คู่กัน
เด็กตั้งพันร่วมวันเดือนเพื่อนบุตรชาย (๑๓)
..
24 กันยายน 2547 09:53 น.
กุ้งหนามแดง
...
คนเหงาเหงาเฝ้าคิดไม่ผิดหรอก
อยากบอกบอกให้ฟังอย่ากังขา
เรื่องร้อนร้อนเย็นเย็นเป็นธรรมดา
นั่งมองมองท้องฟ้าระอาคน
มานั่งนั่งหน้าจอหรือรอเพื่อน
ยิ้มเปื้อนเปื้อนบนหน้าทุกคราหน
อยู่ข้างข้างคราเหงาจับเจ่าปน
ยังวนวนตามข่าวทุกคราวมา
ใครบ่นบ่นปล่อยวางจะห่างทุกข์
เรื่องสุขสุขอยู่ที่ใจจงใฝ่หา
คนเคยเคยโลเลทุกเวลา
อย่าช้าช้าเดี๋ยวไม่ทันปันให้ใคร
ใบห่อห่อรอเติมช่วยเพิ่มปุ๋ย
ดินซุยซุยรีบพรวนด่วนได้ไหม
มัวคิดคิดรอฝนฟ้ากล้าช้ำใจ
น้ำใสใสร่วงหล่นทุกข์ล้นใบ
..
หมายเหตุ....บังคับพิเศษ..1. ซ้ำคำที่ 2 และ 3 ในแต่ละวรรค
2. .ซ้ำคำแรกของวรรคสดับกับคำสุดท้ายของวรรค
..
23 กันยายน 2547 16:39 น.
กุ้งหนามแดง
กาลครั้งหนึ่งวิเทหะองค์กษัตริย์
ครองสมบัติมิถิลาสง่าศรี
พระองค์มีที่ปรึกษาคู่ธานี
ราชบัณฑิตทั้งสี่ชี้นามา (๑)
เสนกะ ปุกกุสะ กามินทะ
เทวินทะ สี่สหายคลายปัญหา
ภาระกิจบ้านเมืองเรื่องพารา
พระราชาวางใจเรียกใช้งาน (๒)
ในวันหนึ่งทรงสุบินเห็นนิมิต
มุมพระลานสี่ทิศไฟติดฉาน
ไฟตรงกลางกองเล็กแท้แต่ไม่นาน
กลับสว่างตระการกว่ากองใด (๓)
ประชาชนรุมล้อมนบน้อมไหว้
บูชาไฟกองกลางสว่างไสว
ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนกับฟอนไฟ
ตกพระทัยกลัวภัยนัยอัคคี (๔)
พอรุ่งเช้าพระองค์ทรงตรัสถาม
จงจับยามสามตาดูราศี
ว่านิมิตทั้งหลายร้ายหรือดี
ตอบมาทีสี่ท่านอย่าผ่านเลย (๕)
เหล่าบัณฑิตคิดอ่านว่าผ่านฟ้า
อัคคีห้าคือบัณฑิตจิตเปิดเผย
มุมทั้งสี่คือพวกเราเอาเปรียบเปรย
และเฉลยอัคคีกลางสว่างเย็น (๖)
บัณฑิตใหม่จะเกิดล้ำเลิศนัก
เป็นที่รักช่วยประชาคราทุกข์เข็ญ
ใช้ปัญญาแก้ไขในประเด็น
จะรุ่งโรจน์โดดเด่นเห็นตรงกัน (๗)
ถ้ายังไม่กำเนิดเป็นทารก
ก็คงตกในครรภ์แน่มิแปรผัน
วิเทหะตรัสให้ไปสืบพลัน
จงแยกกันคนละทิศช่วยติดตาม (๘)
..
21 กันยายน 2547 16:55 น.
กุ้งหนามแดง
ขอน้อมนำธรรมะมาสาธก
เรื่องทิศหกรอบกายขยายผล
เพื่อเป็นหลักปฏิบัติพิพัฒน์พล
จะนำผลสงบสุขทุกเวลา
ทิศเบื้องหน้าคือพ่อแม่แน่ที่สุด
หน้าที่บุตรดูแลแย่รักษา
ภาระกิจแบ่งเบาเอาตำรา
สืบพงศาเสริมส่งวงศ์ตระกูล
ประพฤติตนเหมาะสมดำรงทรัพย์
และเมื่อท่านล่วงลับดับสิ้นสูญ
หมั่นทำบุญอุทิศจิตเกื้อกูล
จึงสมบูรณ์ครบชุดเป็นบุตรดี
พ่อและแม่มีหน้าที่ชี้นำลูก
แนะทางถูกให้เดินเจริญศรี
ละเว้นชั่วมัวหมองครองความดี
วิชามีติดตัวทั่วทุกคน
แนะนำคู่สู่สมภิรมย์รัก
และมอบหลักทรัพย์ให้ไม่ขัดสน
เป็นเงินทุนรองรังเพื่อสร้างตน
เป็นเบื้องต้นพื้นฐานงานครอบครัว
ทิศเบื้องขวาครูอาจารย์เชื่ยวชาญวิทย์
สอนลูกศิษย์รู้กลพ้นปวดหัว
ทางเจริญเดินหน้าบอกอย่ากลัว
ยกย่องทั่วกับมิตรศิษย์อาจารย์
เป็นลูกศิษย์เชื่อฟังคำสั่งสอน
รู้บทตอนปรนนิบัติไม่ขัดขาน
เรียนวิชาด้วยเคารพนบน้อมการ
เมื่อท่านวานสิ่งใดทำให้งาม
ทิศเบื้องหลังคือบุตรภริยา
ต้องยกย่องแก้วตาอย่าเหยียดหยาม
ให้เป็นใหญ่ในบ้านคู่ความงาม
ไม่นอกใจให้ตามยามครองเรือน
ภริยาตอบแทนไม่แคลนขาด
ตามสามารถของเธอเสมอเหมือน
ไม่นอกใจสามีหนีแชเชือน
งานการเกลื่อนจัดสรรขยันทำ
รักษาทรัพย์คงอยู่รู้จักใช้
สงเคราะห์ให้ญาติสามีที่ถลำ
ทั้งถ้อยทีถ้อยอาศัยใจเป็นธรรม
บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นอบอุ่นทรวง
ทิศเบื้องซ้ายคู่คิดมิตรสหาย
มิตรทั้งหลายรู้แบ่งปันไม่กันหวง
เจรจาตามจริงทิ้งเรื่องลวง
กิจทั้งปวงเสมอต้นเสมอปลาย
มิตรย่อมตอบแทนค่ารักษาทรัพย์
ไม่ทิ้งขว้างร้างลับจับมิตรขาย
เป็นที่พึ่งยามยากลำบากกาย
ญาติทั้งหลายของมิตรจิตผูกพัน
ทิศเบื้องต่ำคือบ่าวและลูกจ้าง
เป็นนายจ้างจัดแบ่งด้วยแข็งขัน
ยามเจ็บไข้รักษาไม่ว่ากัน
ให้รางวัลตามควรเสสรวลมี
ฝ่ายลูกจ้างทำงานประสานผล
หน้าที่ตนทำไปไม่หน่ายหนี
เข้างานก่อนเลิกทีหลังระวังมี
คุณความดีของนายขยายความ
ทิศเบื้องบนคือพราหมณ์สมณะ
เราพึงปฏิบัติจัดหมวดสาม
กายกรรมวจีกรรมมโนตาม
อามิสทานแก่พราหมณ์ตามศรัทธา
สมณะพราหมณ์ย่อมอนุเคราะห์
แนะสิ่งเหมาะควรให้ไขปริศนา
ทางสวรรค์แนะนำสอนธรรมา
ด้วยเมตตาการุณย์ท่านจุนเจือ
ทุกย่างก้าวงดงามตามความคิด
ใช้เข็มทิศนำทางกระจ่างเหลือ
ไม่หลงทิศผิดกาลทั้งว่านเครือ
ทิศหกเพื่อสันติสุขทุกสังคม..
..
19 กันยายน 2547 18:53 น.
กุ้งหนามแดง
ถ้าวันนี้ มีเธอ ให้เพ้อถึง
เธอผู้ซึ่ง อยู่ใน ใจเสมอ
จะยืนยัน คำภักดิ์ ฉันรักเธอ
เพราะมันเอ่อ ท่วมท้น แทบล้นทรวง
ถ้าวันนี้ รีรอ คำขอโทษ
ขอให้โจทก์ ขังแขวน ในแดนสรวง
งดอุทธรณ์ ฏีกา ตุลาลวง
ผิดทั้งปวง รับไว้ ที่ใจนาง
แม้ชายอื่น หมื่นพัน หาหวั่นไหว
เทียบคนไกล เคยครอง แม้หมองหมาง
ยังคงอยู่ นอกใจ ใช่ตรงกลาง
และไม่เหลือ ที่ว่าง เพื่อวางใคร
ยังห่วงหา อาทร เหมือนก่อนจาก
อยากถามฝาก คำหนึ่ง คิดถึงไหม
ทุกคืนวัน อ้างว้าง เมื่อร้างไป
รอเวลา เมื่อไร อภัยกัน...
..