26 ตุลาคม 2547 10:25 น.
กุ้งหนามแดง
เขียนเขียนกลัวถูกอุ้มยังกลุ้มจิต
แอบแอบก็ไม่มิดเฝ้าคิดเขียน
คอยคอยมองดูซิใครติเตียน
เปลี่ยนเปลี่ยนเป็นสาระวาระคอย
บ่อยบ่อยจับภาษามาใส่แบบ
นึกนึกยังคับแคบแอบฝึกบ่อย
มองมองฉันทลักษณ์ไม่ผลักลอย
คำคำนำใช้สอยไม่ปล่อยมอง
หมองหมองเป็นเพียงครั้งรั้งเอาไว้
คิดคิดขัดเกลาไปไล่หม่นหมอง
วันวันยังต้องผ่านการกลั่นกรอง
ลบลบผิดครรลองร้องไปวัน
หวั่นหวั่นพาดพิงใครใจขอโทษ
ขอขออย่าขึ้งโกรธโสตไหวหวั่น
ใจใจติเพื่อก่อล้อเท่านั้น
แค่แค่เปิดเผยกันหวังเข้าใจ
.
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
กลบท: ธงนำริ้ว
รูปแบบ..
XX000000
ซ้ำ ๒ คำ ต้นวรรค เปลี่ยนกระทู้ทุกวรรค
..
25 ตุลาคม 2547 18:49 น.
กุ้งหนามแดง
เสนกะข้าราชปราชญ์วังหลวง
ทราบทั้งปวงถ่วงเวลาหาได้ไม่
พระราชาทรงแน่วแน่ในพระทัย
มโหสถอย่างไรได้เข้าวัง (๒๓๖)
จึงทูลว่าหากองค์พระทรงยศ
อยากจะให้มโหสถเฝ้าดังหวัง
ตั้งปัญหาอาชาไนยไม่ปิดบัง
ส่งไปยังเศรษฐีและลูกชาย (๒๓๗)
ในสารว่าวันก่อนย้อนเรื่องว่า
พระราชาจะทรงม้าในยามสาย
กีบเท้าม้ามาแตกแหลกทำลาย
ให้ระคายพระทัยกระไรเลย (๒๓๘)
จงหาม้าอาชาไนยไปน้อมเกล้า
ถวายแทนตัวเก่าเฝ้าเฉลย
พาบิดามาน้อมพร้อมกันเลย
และดังเคยถ้าไม่มาอาชญามี (๒๓๙)
ท่านเศรษฐีศิริวัฒกะ
รับภาระหาอาชาขมันขมี
มโหสถแย้งท่านในทันที
พระทรงมีบัญชาหาสองเรา (๒๔๐)
พ่อพร้อมด้วยบริวารอีกพันหนึ่ง
นำหน้าบึ่งตามดำรัสจัดกระเป๋า
อย่าลืมของติดมือจงถือเอา
ธรรมเนียมไทยครั้งเก่าเอามาอิง (๒๔๑)
หาเจ้านายหาอาจารย์กราบกรานพระ
หรือพบปะพ่อแม่ของฝ่ายหญิง
มีของฝากไว้มั่งไม่ชังชิง
กลับจะยิ่งเอ็นดูเชิดชูใจ (๒๔๒)
เมื่อพ่อไปพบองค์พระทรงเดช
ถ้ามีเจตจำนงนั่งตรงไหน
ดูกาลเทศะกระทำไป
ไม่ทันไรลูกตามหลังอย่ารั้งรอ (๒๔๓)
จงสบตาแล้วบอกลูกนั่งแทนที่
เพียงแค่นี้จบแน่แค่ที่ขอ
ท่านรับคำล่วงหน้าไปจนไกลพอ
มโหสถตามพ่อพร้อมเพื่อนพัน (๒๔๔)
ระหว่างทางมโหสถเจอลาน้อย
ตัวกระจ้อยจึงจับไว้เอาให้มั่น
นำเสื่อห่อมิดชิดปิดบังกัน
บริวารแบกมันร่วมทางไป (๒๔๕)
เป็นไปดังดำริมิผิดพลาด
ฝ่าพระบาทดำรัสตรัสเรียกให้
มโหสถเจ้าจงนั่งลงตามใจ
เศรษฐีให้มานั่งแทนที่ตน (๒๔๖)
สี่ปราชญ์เห็นทำตัวหัวเราะเยาะ
นี่หรือเหมาะคำบัณฑิตติดตามผล
ที่ของพ่อลูกมานั่งยังพิกล
ทั่วทุกคนยิ้มด้วยปากถากด้วยตา (๒๔๗)
มโหสถไม่ตะหนกถามปกเกล้า
เสียพระทัยหรือเปล่าพระเจ้าข้า
พระราชาแม้ทรงมีพระเมตตา
ยังตอบว่าหมดเลื่อมใสไม่สมควร (๒๔๘)
ข้าได้ยินว่าปัญญาสง่าสม
เห็นแล้วจะเป็นลมบ่มกำสรวญ
พฤติกรรมเกินรับปรับกระบวน
คิดทบทวนนี่หรือปราชญ์ราษฏร์เลื่องลือ (๒๔๙)
มโหสถถามย้อนก่อนเตลิด
พ่อประเสริฐกว่าบุตรทุกกาลหรือ
พระราชาพยักหน้าตอบว่าอือ
มโหสถให้ถือลาออกมา (๒๕๐)
จงตีค่าราคาของลานี้
ท่านพาทีค่าด้อยน้อยหนักหนา
ถ้าเทียบกับอาชาไนยดูสักครา
พระราชาตอบว่าช่างห่างไกล (๒๕๑)
มโหสถจึงว่าถ้าอย่างนั้น
พระทรงธรรม์จงรับลาอย่าผลักไส
ถ้าบิดาประเสริฐกว่าทุกคราไป
จงรับไว้บิดาข้าพระองค์ (๒๕๒)
แต่ถ้าบุตรประเสริฐเหลือของเหนือหัว
จงรับตัวหม่อมฉันมั่นประสงค์
พระราชาถามปราชญ์สี่วจีตรง
เป็นมั่นคงกล่าวถูกต้องเห็นพ้องกัน (๒๕๓)
พระราชาวิเทหะโสมนัส
มีดำรัสเรียกเศรษฐีพิถีพิถัน
หยิบคณทีหลั่งน้ำลงตรงมือพลัน
มอบหมายมั่นจงปกครองปราจีนคาม (๒๕๔)
ส่วนลูกเจ้าข้าจะเลี้ยงเยี่ยงลูกข้า
ช่วยรักษาสมเกียรติมิเหยียดหยาม
พระราชทานแพรพรรณอันงดงาม
ฝากให้ตามสมควรแก่มารดา (๒๕๕)
ท่านเศรษฐีว่าบุตรสุดที่รัก
ยังเล็กนักไม่รู้ประสีประสา
พระราชาบอกเลี้ยงได้ใจเมตตา
กลับเถิดหนาอย่าห่วงจะล่วงคืน (๒๕๖)
ท่านเศรษฐีสวมสอดกอดบุตรไว้
ด้วยจนใจเหนี่ยวรั้งเกินขังขืน
จึงได้แต่สอนสั่งสุดกล้ำกลืน
ทุกวันคืนอย่าประมาทมากห่วงใย (๒๕๗)
มโหสถรับคำย้ำไม่พลาด
ไม่ประมาททุกคราอย่าหวั่นไหว
รักษาตัวให้รอดและปลอดภัย
พ่อลาไกลกลับพร้อมบริวาร (๒๕๘)
พระราชาถามสิทธิ์บัณฑิตใหม่
เจ้าพอใจอย่างไรในสถาน
ข้าหลวงนอกหรือในถวายงาน
อยู่เรือนนอกสมกาลขานทันที (๒๕๙)
พระดำรัสจัดที่ทางและวางกฎ
บริวารทั้งหมดอยู่ในที่
มโหสถเข้าเฝ้าข้าหน้าที่มี
เริ่มชีวีข้าหลวงวันล่วงเลย (๒๖๐)
..
22 ตุลาคม 2547 09:48 น.
กุ้งหนามแดง
ถึงไม่คิด ยังมีสิทธิ์ คิดไม่ถึง
สลายใจ เพราะคนหนึ่ง ใจสลาย
มากมายทำ ทุ่มเท ทำมากมาย
พังทลาย หักครืน ทลายพัง
ก่อด้วยมือ ประสาน มือด้วยก่อ
หวังร่วมสร้าง รังรอ สร้างร่วมหวัง
ชังชิงชิด เบือนบิด ชิดชิงชัง
รอนร้าวรัก ฤายั้ง รักร้าวรอน
โศกเศร้าเพียง ลำพัง เพียงเศร้าโศก
ถอนพิษรัก วิโยค รักพิษถอน
ตอนสุดท้าย กล้ำกลืน ท้ายสุดตอน
ทนขื่นขม ลาก่อน ขมขื่นทน
ผิดทางแท้ หลงเดิน แท้ทางผิด
ผลตามติด คร่ำครวญ ติดตามผล
ตนเรียนรู้ พ่ายแพ้ รู้เรียนตน
วางปล่อยไว้ ใจหม่น ไว้ปล่อยวาง
....................................................................................................................
กลบทฉัตรสามชั้น คือ การนำคำต้นวรรคสามคำมาสลับไว้ท้ายสุดของแต่ละวรรค เช่น
ถึงไม่คิด จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น คิดไม่ถึง
สลายใจ จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น ใจสลาย
มากมายทำ จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น ทำมากมาย
พังทลาย จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น ทลายพัง
เป็นต้น
..
22 ตุลาคม 2547 08:48 น.
กุ้งหนามแดง
คราครั้งหนึ่งมิถิลาเกิดพายุ
กว่าจะลุผ่านล่วงก็เสียหาย
ทั้งบ้านเรือนพืชไร่ให้ล้มตาย
มิสบายพระทัยให้บรรเทา (๒๒๗)
สละทรัพย์ส่วนพระองค์ทรงเกื้อหนุน
พระกรุณาธิคุณใดเทียมเท่า
ราชกิจสะสางจนบางเบา
ท่านจึงเข้าพักผ่อนอุทยาน (๒๒๘)
เห็นสภาพไม้ไร่ได้หักโค่น
บ้างแห้งโกร๋นวาตะมาประหาร
จึงคิดในอารมณ์สมเหตุการณ์
บอกชาวบ้านส่งสวนมาอย่ารอรี (๒๒๙)
ในเจ็ดวันอุทยานต้องมาถึง
ไม่มาพึงระวังยังปรับนี่
มโหสถทราบความตามสารมี
ตอบทันทีขอพระองค์ส่งราชยาน (๒๓๐)
มาบรรทุกอุทยานเตรียมไว้พร้อม
ยังนอบน้อมตามดำรัสไม่ขัดขาน
พระราชาพอพระทัยหาไหนปาน
ทุกเหตุการณ์แก้ไขใช้ปัญญา (๒๓๑)
ราชรถไหนหนอจึงพอใช้
ขนพืชไพรเหล่าแมลงแหล่งบุปผา
ความอุดมสมบูรณ์หนุนธารา
พระราชายอมความเลิกตามเอย (๒๓๒)
ทรงตัดสินพระทัยในครั้งนี้
จัดม้าดีรับบัณฑิตจิตเปิดเผย
ยังไม่ถึงวาระกระนั้นเลย
ม้าตัวเอ่ยกีบเท้าแตกน่าแปลกใจ (๒๓๓)
ทั้งสี่ปราชญ์บอกห้ามแล้วยังไม่เชื่อ
เป็นบุญเหลือม้ารับกรรมผิดคำไหม
บอกต้องรอไปก่อนอย่าร้อนใจ
ถ้าออกไปมีเคราะห์ไม่เหมาะเอย (๒๓๔)
พระราชาจึงต้องยอมอีกวาระ
อยากพบปะต้องระงับอับเฉาเหวย
เหตุการณ์ก่อดังเตือนต้องเลื่อนเลย
ต้องอยู่เฉยไปก่อนคงผ่อนภัย (๒๓๕)
21 ตุลาคม 2547 09:32 น.
กุ้งหนามแดง
พระราชาทรงมีพระประสงค์
จะลงสรงในสระบัวห้าสี
จึงได้มีพระดำรัสในทันที
ส่งสระทีต้องการผ่านเข้าวัง (๒๑๕)
ถ้าทำได้พระองค์จะทรงโปรด
จะทำโทษถ้าแย้งแจ้งปรับขัง
เร่งจัดหาอย่าช้าละล้าละลัง
ตามลำพังหรือช่วยคิดสิทธิ์ประชา (๒๑๖)
ท่านเศรษฐีบอกลูกชายหมายปรากฏ
มโหสถบอกชัดพ่อจัดหา
ชายฉกรรจ์สี่ห้าคนตามเข้ามา
แล้วพูดจาสั่งการงานประชุม (๒๑๗)
กลุ่มตัวแทนตามเกณฑ์ลงเล่นน้ำ
ตาแดงช้ำเปียกปอนผ้าผ่อนชุ่ม
เข้าในเขตราชฐานทหารรุม
ชาวบ้านกุมเชือกมาด้วยบอกช่วยที (๒๑๘)
พวกท่านมาจากไหนทหารถาม
ปาจีนวมัชฌคามดังคำศรี
ใบเบิกทางเปิดให้ไม่รอรี
ยังพาทีหยอกเย้าพะเน้าพะนอ (๒๑๙)
ได้รางวัลแบ่งบ้างอย่าห่างหาย
ถ้าได้หวายจะแบ่งให้ตามที่ขอ
ต่อความยาวสาวความยืดเลยฝืดคอ
เลิกแววอปล่อยชาวบ้านผ่านเข้าไป (๒๒๐)
พระราชาเห็นชาวบ้านมาเข้าเฝ้า
เห็นผมเผ้าเปียกปอนผ้าผ่อนใส่
จึงสอบถามตามเห็นเป็นอะไร
สระอยู่ไหนหรือยอมรับให้ปรับเอย (๒๒๑)
พวกตัวแทนจึงว่าสระเป็นเหตุ
จึงทุเรศไปตามกันฉันขอเผย
เดินทางมาพร้อมสระใช่ละเลย
สระไม่เคยเข้าเมืองเลยหนีไป (๒๒๒)
แม้โบยตีเท่าไรก็ไม่กลับ
หลุดจากเชือกเกินรับให้กลับได้
เพราะสระนั้นเคยอยู่แต่พงไพร
เป็นไปได้ขอพระองค์ทรงประทาน (๒๒๓)
ยืมสระหลวงเจรจาวิสาสะ
สักวาระรับรองปรองสมาน
พระราชาหัวเราะร่าหน้าชื่นบาน
สระต่อสระผลงานของผู้ใด (๒๒๔)
พวกตัวแทนบอกความคิดมโหสถ
บ้าไปหมดพระดำรัสตรัสเสียงใส
ความสามารถชลอสระจงละไป
ไม่มีใครทำได้เข้าใจดี (๒๒๕)
พระราชทานรางวัลให้ชาวบ้าน
แล้วก็ผ่านถามไถ่บัณฑิตสี่
ความเห็นท่านเป็นอย่างไรให้ตอบที
เหล็กเนื้อดีตีนานขานระคาย (๒๒๖)