10 เมษายน 2548 13:02 น.

นิราศเมืองเหนือ

กุ้งหนามแดง

....................................
ต้นเมษารวมพวกพ้องต้องผายผัน
เหมารถตู้เจ้าเดิมรู้จักกัน
จุดหมายนั้นลำปางจำร้างลา (๑)

ห่างหายพี่หนีหน้าครานี้แล้ว
ใจน้องแก้วคร่ำครวญรัญจวนหา
ปางจะแหลกจะยับลงกับตา
จนปัญญาจะเคียงคู่สู่เขลางค์ (๒)

ออกเดินทางจากปิ่นเกล้าหงอยเหงาจิต
ปิ่นชีวิตติดงานมิผ่านขวาง
ต้องโดดเดี่ยวแม้ยามอยู่ท่ามกลาง
คนเคียงข้างหรือมีที่รู้ใจ (๓)

ผ่านเข้าสู่อยุธยา, บางประหัน
ต้องเหหันจากรักดังผลักไส
เห็นผักตบในคลองยังหมองไป
สีม่วงไพล่คิดพลางแม่ร้างเรา (๔)

ครั้นเข้าสู่อ่างทองลองนึกบ้าง
จะอ้างว้างอย่างไรไม่มีเขา
แม้กองทองท่วมหัวกับตัวเรา
จะเลือกเหมากาญจนาหรือยาใจ (๕)

สองข้างทางกระถินและมะขาม
ระบือนามสิงห์บุรีที่ยิ่งใหญ่
บางระจันสู้ศึกระลึกไป
ช่างกระไรศึกระแวงแฝงในกาย (๖)

เมืองแม่ลาปลาช่อนแดดร้อนนัก
ชาวบ้านหมักปลากับเกลือเหลือมาขาย
แหหลายปากเลือกซื้อตามสบาย
ฝาชีหลายสวยสานงานฝีมือ (๗)

เขตชัยนาทป้ายชี้มีสวนนก
ยังวิตกนกเดียวแน่นเหนียวหรือ
หญิงหงอยเหงาเฝ้าตรึกนกถึกทือ
ชายคงชื่อนกปรอดกกกอดใคร (๘)

เห็นกระจับแขวนราวถุงขาวแบ่ง
มีบางแหล่งบางฤดูคู่ส้มใหญ่
จอดรถถามลำปางยังห่างไกล
ส้มโอใบซื้อมาค่าถามทาง (๙)

เข้าอุทัยธานีมีแต่ทุ่ง
ยังยากยุ่งหัวใจให้หมองหมาง
เป็นนาแล้ง, นารักเราพักวาง
ดังนาร้าง, ขื่นขมถมอาดูร (๑๐)

นครสวรรค์แม่เอยเคยฝันใฝ่
สองหทัยรักเลื่อมมิเสื่อมสูญ
สร้างสวรรค์แดนใจให้เพิ่มพูน
ทวีคูณสร้างสรวงมิลวงคำ (๑๑)

รถแล่นสู่กำแพงเพชรเหตุต้องผ่าน
อยากจะทุบปราการแห่งความช้ำ
เปิดรับเรื่องสุขีเป็นประจำ
ทุกข์กระหน่ำอย่างกรายหมายมายัง (๑๒)

สลกบาตรผ่านเห็นโรงเบียร์ช้าง
มีผุดบ้างโรงมันสำปะหลัง
ไม้กวาดอ่อนเปลไม้ไผ่เปลใหญ่จัง
เคยเอนหลังใครแกล้งแกว่งเปลไกว (๑๓)

ทำให้เคลิ้มกับภาพในครานั้น
จึงหลับฝันพับไปถึงพักใหญ่
ครั้นลืมตาเห็นชามจึงย่ามใจ
เป็นชามไก่ก็รู้ได้ว่าถึงเมือง (๑๔)

ณ.นครเขลางค์ลำปางนี้
เซรามิคของดีที่ลือเลื่อง
พระธาตุล้ำตำนานอันรุ่งเรือง
ทั้งฟูเฟื่องแหล่งลิกไนต์ทำไฟฟ้า (๑๕)

อีกรถม้ารับจ้างข้างทางมาก
ไม่ค่อยอยากโดยสารสงสารหนา
หน้าที่ม้าลากจูงต้องปิดตา
เหมือนกานดาห่างเร้นมิเห็นชาย (๑๖)

ถึงโรงแรมตอนเย็นสี่โมงกว่า
หมดเวลาไปวันถึงที่หมาย
จึงเข้าพักอาบน้ำตามสบาย
พอผ่อนคลายทานอาหารผ่านเข้านอน (๑๗)

ครั้นรุ่งเช้าลำพูนที่หมายมาด
แวะพระธาตุหริภุญชัยให้หลอกหลอน
เห็นสิงห์คู่หน้านั้นใจสั่นคลอน
เราไร้คอนแรมร้างแตกต่างกัน (๑๘)

จุดธูปไหว้ได้เพียงแต่ภายนอก
ป้ายชี้บอกห้ามหญิงเข้าเราโศกศัลย์
แดนศักดิ์สิทธิ์หวงห้ามปรามไว้พลัน
อภิวันท์ตั้งจิตตะมิละเลย (๑๙)

มีโอกาสได้พบผู้อาวุโส
เป็นผู้ใหญ่ใจโตเกินเพิกเฉย
ซื้อข้ามหลามมาฝากมานักเอย
ไม่คุ้นเคยแต่หลังยังอารี (๒๐)

ร้านไส้อั่วของฝากมากคุณค่า
หลากตัวยาสมุนไพรไส้อั่วนี่
มีตะไคร้ใบมะกรูดย่างข่ามี 
ปิ้งพอดีหอมห่มเพราะรมควัน (๒๑)

แวะกูบช้างกูบม้าพาหนะ
สักการะจามเทวีศรีเขตขัณฑ์
ตำนานเก่าเล่าขานผ่านป้ายปัน
ครั้งกระนั้นคงยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน (๒๒)

ต้องไปรับพี่สาวตามสมทบ
พร้อมหน้าครบที่เชียงใหม่ใจโผผิน
อยากจะเจอผู้ใดในสนามบิน
ความหวังสิ้นฝันค้างนงคราญครวญ (๒๓)

จึงมุ่งหน้ากลับที่สู่ที่พัก
คิดถึงนักเพลาค่ำยิ่งกำสรวญ
ป่านฉะนี้ชายเชื้อห่างเนื้อนวล
จะเรรวนหรือเปล่าหนาวเนื้อนาง (๒๔)

เริ่มวันใหม่ไปพระธาตุดอยเต้า
รวมอัฐิพระพุทธเจ้าปูเล่าถาง
สี่พระองค์นำทาง..ทางสายกลาง
อยากปล่อยวางตามคำสอนของพุทธองค์ (๒๕)

ที่ด้านข้างมีรอกขึงดึงถังน้ำ
เพื่อสรงน้ำพระธาตุตามประสงค์
ลอยมะลิในถังน้อยค่อยบรรจง
สาวถังส่งถึงที่หมายน้ำไหลเท (๒๖)

ขออำนาจคุณพระคุ้มครองด้วย
โปรดอำนวยความสุขทุกข์หักเห
รักมั่นคงครบถ้วนอย่ารวนเร
สุขภาพอย่าเซเป๋ก่อนวัย (๒๗)

แวะโรงงานเซรามิคอยากหยิกเนื้อ
ใจนึกเอื้อแต่เขาเราผิดไหม
แวะซื้อกาน้ำชามาหนึ่งใบ
ลายดอกไม้ที่ชอบปลอบคนดี (๒๘)

ดอยแม่ปั่งวัดเก่าเรายังแวะ
ขี้ตาแฉะหัวฟูรู้จึงหวี
หลวงปู่แหวนพระเก่าเหรียญเรามี
มาทั้งทีนมัสการก่อนผ่านไป (๒๙)

เดินไปสู่มณฑปพบปู่แหวน
มีป้ายแขวนเตือนสติบนไม้ใหญ่
กิเลสมารตัดให้สิ้นก่อนสิ้นใจ
ปฏิบัติกันไปให้รู้ทัน (๓๐)

อนาคตอดีตขีดความเขลา
อย่ามัวเมามายาพาเสียขวัญ
รักษากายพ่อแม่ให้ใส่ปัจจุบัน
รักษ์ศีลมั่นประกอบแต่กรรมดี (๓๑)

ครั้นเห็นรูปขี้ผึ้งของหลวงปู่
พระผู้รู้ไตรลักษณ์เป็นสักขี
อยู่ในตู้กระจกกันธุลี
เครื่องใช้มีนำแสดงแจ้งเคยใช้ (๓๒)

ผ้าสบงจีวรยังมิเก่า
อีกไม้เท้าตะเกียงมีดพับได้
หมวกไหมพรมแว่นตาและตะไกร
เข็มและด้ายซ่อมผ้าคราชำรุด (๓๓)

ทุกสิ่งล้วนจำเป็นดำรงวัตร
ปฏิบัติธรรมเลิศประเสริฐสุด
ศีล-สมาธิ-ปัญญา เป็นอาวุธ
สังขารแม้สิ้นสุดคำสอนยัง (๓๔)

แลอัฐิแปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุ
เพียงหนึ่งหยาดหยดไว้ในความขลัง
ให้กราบไหว้บูชาสรณัง*
เราผู้พลั้งหลงผิดยังคิดทวน (๓๕)

สมถะดำเนินอาจเผินผิว
เดินตัวปลิวคลายห่วงใยให้คิดหวน
ผลจากเหตุนั่นประไรลองใคร่ครวญ
ทุกอย่างล้วนตามกรรมกระทำเอง (๓๖)

เมื่อคิดได้ก่อนกลับรำงับโศก
ดังเป็นโชคยิ่งใหญ่, ไร้ข่มเหง
ไม่มีใครรังแกใคร, ใจตัวเอง
ตามบรรเลงปรุงแต่งแกล้งตัวตน (๓๗)

นิราศเมืองทั้งสามงดงามพบ
เพลิดเพลินครบรวมบุญหนุนกุศล
ขออำนาจพระอริยะบันดาลดล
ให้ทุกคนสุขล้อมพร้อมหน้าเอย (๓๘)

..				
4 เมษายน 2548 08:43 น.

คืนคอน : กลบทเลวงวางตรวจ

กุ้งหนามแดง

เพราะพลัดพรากจากกันเนิ่นนานนัก
ลืมรสรักหมดสิ้นผกผินผัน
อีกไออุ่นสัมผัสขัดเขินครัน
ฟื้นฟูฝันให้กระจ่างมากหมางเมิน

เพลงเพราะพริ้งเคยขับขานแว่วหวานวับ
หนึ่งนั้นนับเริ่มใหม่ให้ห่างเหิน
คิดคืนคอนกลับรังชังเชื้อเชิญ
กลับกลายเกินรื้อฟื้นหยิบยื่นย้ำ

ใคร่ครวญคิดลมลวงบางบ่วงบาศก์
ผิดพลั้งพลาดหลงปลื้มได้ดื่มด่ำ
รอยรักร้าวแบบเดิมแค่เคลิ้มคำ
จึงจดจำสอนใจหวั่นไหววาง

..
กลบท: เลวงวางตรวจ
รูปแบบ: xxx00yyy				
3 เมษายน 2548 16:11 น.

ปากแข็ง

กุ้งหนามแดง

ใครว่ารักเธอ....เพียงฉันพลั้งเผลอ....ละเมอชั่วคราว
เพราะความชิดใกล้....หทัยเคยร้าว....เยียวยาเรื่องราว....สามเส้าตามมา

มาก่อนหรือหลัง....ความรักหรือยั้ง....ประดังเจตนา
ปากแข็งใจอ่อน....ซับซ้อนมายา....เสแสร้งออกหน้า....น้ำตาตกใน

ในสามมีสอง....จึงถูกครรลอง....ตระกองหมองไหม้
ไม่เคยยอมรับ....คู่กับปราชัย....ค่าเพียงอะไหล่....ฝันไปให้เป็น

เป็นเพียงผู้หญิง....อาจดูเย่อหยิ่ง....ความจริงที่เห็น
ระทมจมปลัก....หลบรักซ่อนเร้น....ลำบากยากเย็น....เคี่ยวเข็ญลืมใคร

..				
1 เมษายน 2548 12:20 น.

หน้า..

กุ้งหนามแดง

สืบเชื้อสายอสุราทศพักตร์
ถอดรูปยักษ์ไว้ที่บ้านปานพระสังข์
ทิ้งอีโต้ของคู่กายไว้ในลัง
หน้าม้ายังนำมาหาเลี้ยงกาย

เป็นแม่สื่อแม่ชักรักอาชีพ
เป็นประทีปดับอ้างว้างคนทั้งหลาย
เป็นที่พึ่งของแม่ร้างบ้างพ่อหม้าย
คอยเร่ขายความสัมพันธ์ทุกวันไป

เพียงสองมือปฏิบัติช่วยจัดสรร
สองชีวันห่างไกลพบกันได้
ตีสองหน้าเขาตีตราน่าน้อยใจ
หน้าอะไหล่ยังเหลือเพื่อด้านชา

..				
31 มีนาคม 2548 12:16 น.

ไฟ

กุ้งหนามแดง


ฝนทิ้งช่วงห่างหายสายน้ำลด
ความแห้งแล้งปรากฎแผ่ขยาย
คลื่นความร้อนมิลดละแผ่กระจาย
เสียงตามสายประกาศน้ำขาดแคลน

ทำนาปรังไม่ได้น้ำไม่เหลือ
ถ้าไม่เชื่อจะขาดทุนเป็นเรือนแสน
เกษตรไทยอาศัยฝนทุกดินแดน
คอยแต่แหงนดูฟ้าจะปรานี

ธรรมชาติแปรปรวนเปลี่ยนมวลโลก
วิปโยคก็โทษฟ้าเปลี่ยนราศี
แท้สร้างสมปัญหาเก่าเราเคยมี
ผลาญป่าดงพงพีแต่ก่อนกาล

จึงต้องรับผลกรรมกระหน่ำใส่
มิเลือกใครคนก่อ-ต่อ-ประสาน
ให้ระอุทั่วทุกชั้นความกันดาร
เผาสามานย์ให้เป็นเถ้า..เท่าเทียมกัน..
..
				
Calendar
Lovings  กุ้งหนามแดง เลิฟ 56 คน

วฤก

โคลอน

หมอกจาง

เชษฐภัทร วิสัยจร

เพียงพลิ้ว

อัลมิตรา

ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

พี่ดอกแก้ว

แทนคุณแทนไท

แก้วประเสริฐ

แมงกุ๊ดจี่

ประภัสสุทธ

รการต์

บินเดี่ยวหมื่นลี้

ร้อยฝัน

หิ่งห้อยน้อยใจ

ลักษมณ์

ผู้หญิงช่างฝัน

ก้าวที่...กล้า

กวีปกรณ์

-ร้อยแปดพันเก้า-

เพรง.พเยีย

เฌอมาลย์

ครูพิม

คอนพูทน

ก่องกิก

ลานเทวา

อินสวน

พิมญดา

ยาแก้ปวด

กันนาเทวี

กิ่งโศก

ครูกระดาษทราย

แก้วประภัสสร

KIRATI

virismara

แกงเขียวหวาน

คนกรุงศรี

มวลภมร

ดาวศรัทธา

cicada

เปลวเพลิง

หญิงบ้า

เ ที ย น ห ย ด

din

สีเมจิก

นักสืบไร้ชื่อ

ชากร

บุญพร้อม

แย้ม ไกลวันเกิน

พระจันทร์แสงนวล

Jackie

ไผ่ลู่ลมม

ศรีปาด เฟสเก่าโดนระบบลบเฉยเลย

Prayad

Parinya

Lovers  1 คน เลิฟกุ้งหนามแดง
Lovings  กุ้งหนามแดง เลิฟ 3 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกุ้งหนามแดง