30 มีนาคม 2552 13:44 น.
กุ้งก้ามกราม
เถิดย่ำยีเข้าไปอย่าได้ยั้ง
รวมพลังพี่น้องทั้งสองฝ่าย
ประเทศชาติง่อยเปลี้ยอย่าเสียดาย
เอาให้ตายสักข้างอย่าวางมือ
แผ่นธรรมแผ่นดินทองทั้งผองนี้
เพียงสองสีครองกันเท่านั้นหรือ
คงมองเห็นพวกข้าเช่นกระบือ
สร้างข่าวลือน่าเบื่อให้เชื่อฟัง
ทั้งที่รู้วันนี้ชาติวิกฤต
ยังอวดฤทธิ์ดื้อดึงทำขึงขัง
ถ้อยพาทีกิริยาล้วนน่าชัง
ดันทุรังเข้าไปอย่าไยดี
หยุดพร่ำเพ้อเบื่อนักว่ารักชาติ
ต่างประกาศกล่าวหาก่อนหน้านี้
อีกฝ่ายทำย่อยยับความอัปรีย์
หรือลืมที่กล่าวอ้างเอาอย่างกัน
เมื่อหมุนเวียนเปลี่ยนข้างต่างบทบาท
ช่างสามารถสาธกพลิกผกผัน
ประเทศชาติที่สร้างแต่ปางบรรพ์
ฤๅถึงวันมอดไหม้ด้วยไฟพิษ
ขอประชดประชันเพราะหมั่นไส้
ทั้งตีนงูนมไก่ใครปกปิด
ต่างพรั่งพร้อมยอมพลีด้วยชีวิต
เพื่อลิขิตผลลัพธ์...อัปยศ
....................................
26 มีนาคม 2552 12:11 น.
กุ้งก้ามกราม
เพราะมีพบจึงมีวันที่พราก
เพราะมีจากจึงมีจิตที่คิดถึง
เพราะมีรักจึงห่วงหามั่นตราตรึง
เพราะซาบซึ้งจึงสุดห้ามความห่วงใย
ฝากความรักลอยล่องข้ามท้องฟ้า
ฝากสัญญารักมั่นมิหวั่นไหว
ฝากความรักถ้วนทั่วทั้งหัวใจ
ฝากคนไกลอย่าหวั่นยังมั่นคง
ใจดวงนี้แน่วแน่แม้ไกลห่าง
ใจอ้างว้างปลาบปลื้มมิลืมหลง
ใจดวงนี้แม้นชีวิตจะปลิดปลง
ใจซื่อตรงจะรักมั่นนิรันดร
ไว้พบกันวันหน้านะที่รัก
ไว้ประจักษ์ใจจริงยิ่งกว่าก่อน
ไว้กล่อมใจแก่กันมิสั่นคลอน
ไว้กอดนอนแนบสนิทในนิทรา
กับความรักที่ให้ตรึงใจยิ่ง
กับทุกสิ่งซึ้งนักเกินจักหา
กับคิดถึงห่วงใยที่ให้มา
กับเวลาที่ตระหนักว่ารักกัน
เธอคือลมหายใจให้ชีวิต
เธอคือจิตวิญญาณบันดาลฝัน
เธอคือความมุ่งหวังทั้งชีวัน
เธอจอมขวัญฉันรักมาก...จึงฝากใจ
...................................
25 มีนาคม 2552 16:19 น.
กุ้งก้ามกราม
ขอวิงวอนถึงนายชื่ออ้ายสิน
หากได้ยินโปรดรับตอบกลับด่วน
ต่อแต่นี้ผมขออย่าก่อกวน
คิดอะไรใคร่ครวญอย่าด่วนทำ
โปรดรำลึกความหลังเมื่อยังหวาน
ท่านเจือจานผ่อนปรนจนอิ่มหนำ
มาบัดนี้ไฉนท่านใจดำ
สิ้นดื่มด่ำสับปลับในฉับพลัน
อยากจะมีรถราท่านหาให้
อยากมีบ้านหลังใหญ่ท่านไม่หวั่น
ทั้งตู้เย็นทีวีเครื่องเสียงนั้น
ท่านเร่งรัดจัดสรรแทบทันที
ทั้งที่นอนเตียงตั่งตู้เสื้อผ้า
โต๊ะทานข้าวโซฟาหม้อบะหมี่
ค่าเทอมลูกผ่านมาสิบกว่าปี
เพราะท่านมีเมตตาจิตการุญ
ทั้งแอร์เก่าแอร์ใหม่ท่านไม่ห้าม
ทั้งถ้วยโถโอชามตามเกื้อหนุน
ทั้งเครื่องครัวเครื่องใช้ล้วนใบบุญ
ท่านเจือจุนจัดสรรล้วนชั้นดี
มาบัดนี้ไยหวงคอยทวงถาม
ส่งจดหมายประณามติดตามถี่
ส่งนักเลงแปลกหน้าคอยราวี
ทั้งปืนจี้ตีต่อยหมั่นคอยทวง
ก่อนหน้านี้พูดอะไรสินไยเชื่อ
จึงโอบเอื้อมากมายจนหายห่วง
บัดนี้สินกลับกล่าวหาว่าหลอกลวง
คำประท้วงสินไม่เชื่อเบื่อจริงตู
.................................
22 มีนาคม 2552 20:24 น.
กุ้งก้ามกราม
หยิบดินสอกระดาษเพื่อวาดฝัน
ของวารวันก่อนเก่าเรามีสุข
และเรื่องราววันที่เรามีทุกข์
แม้นฝังซุกซ่อนถึงก้นบึ้งใจ
ภาพความหวัง.............
ในภวังค์เกินเล่ามีเท่าไหน
ที่เจาะจงต้องการมากปานใด
หากวาดไว้บนกระดาษคงขาดเกิน
ภาพฝันหวาน............
ความต้องการมีมากจนยากเกริ่น
เป็นภาพอันบรรเจิดหลงเพลิดเพลิน
งามหรูเกินวาดซ้ำภาพจำลอง
ภาพฝันร้าย.............
มีหลากหลายเรื่องล้นทุกข์หม่นหมอง
กับวันคืนขื่นขมมิสมปอง
สุดขัดข้องเกินสรรคำบรรยาย
ภาพความรัก............
แจ้งประจักษ์รักนี้มิมีหน่าย
เธอกับฉันข้ามขวากตั้งมากมาย
เกินจะร่ายคำคมคารมเน้น
หยิบดินสอกระดาษวาดอดีต
ยากเขียนขีดบรรยายด้วยลายเส้น
ลิขิตถ้อยร้อยคำแสนลำเค็ญ
จึงเพียงเห็นภาพหัวใจที่ให้เธอ
******************
19 มีนาคม 2552 17:15 น.
กุ้งก้ามกราม
บรรดาลิงเกิดมามากสามารถ
ชาญฉลาดนักหนามีจ่าฝูง
บริวารดื้อนักเฝ้าชักจูง
ปีนไม้สูงข้ามห้วยอยู่ด้วยกัน
เดิมภักษาหาได้ลูกไม้ป่า
เมื่อฝนฟ้าแห้งแล้งเกิดแข่งขัน
ลิงหลายฝูงยื้อแย่งเกินแบ่งปัน
จึงหมายมั่นจากมาเพื่อหากิน
พบเรือกสวนไร่นาประสาสัตว์
อัตคัดอดอยากจำจากถิ่น
พบอาหารประทังชีพดั่งเคยชิน
สร้างมลทินมาสู่มิรู้ตัว
ผลหมากรากไม้อยู่ในสวน
เหล่าลิงล้วนลิ้มลองหวังปองถั่ว
มีเผือกมันใต้ดินขุดกินทั่ว
มิเกรงกลัวรุกล้ำเข้าทำลาย
เกษตรกรทุกข์ท้นสุดทนไหว
ปล่อยลิงไพรเข้าริบอาจฉิบหาย
เกิดเหตุการณ์เช่นนี้มิดูดาย
ทั้งขึงข่ายบ่วงคล้องสุดป้องกัน
จึงสร้างกล่องเจาะรูพอมือลิง
ใส่ถั่วทิ้งล่อไว้ด้วยหมายมั่น
จะจับลิงทั้งหลายไปขายมัน
หรือบากบั่นฝึกด้วยเพื่อช่วยงาน
เมื่อฝูงลิงเห็นกล่องรีบย่องมา
เดินนำด้วยหัวหน้าอย่างกล้าหาญ
หวังได้ชิมอิ่มหนำสุขสำราญ
มือล้วงผ่านทันทีไม่มีลาง
รีบล้วงถั่วเต็มกำบีบย้ำแน่น
หมายโลดแล่นแต่ติดหมัดรูขัดขวาง
ดิ้นไม่หลุดสุดจะแก้เพราะแพ้ทาง
ยิ่งดิ้นรนยิ่งพล่านยิ่งพ่ายแพ้
ทั้งที่เพียงใจนิ่งแล้วทิ้งถั่ว
ก็เอาตัวรอดได้ดั่งใจแน่
เหตุเพราะมือกำไว้ไม่ยอมแบ
จึงย่ำแย่เกินฝ่าชะตาตน
..........................................
อ่านนิทานแฝงธรรมลิงกำถั่ว
ทบทวนทั่วด้วยใจใฝ่กุศล
จึงเขียนกลอนหวังได้ปลอบใจคน
เผื่อหลุดพ้นสิ่งใดเพราะไม่กำ