8 มีนาคม 2552 22:05 น.
กุ้งก้ามกราม
ถ้าหากน้องถนัดเป็นมัจฉา
พี่จะเป็นคงคาให้อาศัย
ถ้าหากน้องบังอรเป็นหนอนรถไฟ
พี่จะเป็นลำไผ่ให้อยู่กิน
ถ้าหากน้องเป็นครกยามตกยาก
พี่จะขอเป็นสากฝากถวิล
ถ้าหากน้องอยากเท่เช่นnawin
พี่จะเป็นtaksinสิ้นลืมเลือน
ถ้าหากน้องเนื้อเย็นเป็นมีดหมอ
พี่จะขอเป็นแผลให้แล่เฉือน
ถ้าหากน้องอยากเด่นเช่นดาวเดือน
พี่จะเหมือนนภายามราตรี
ถ้าหากน้องทะเล้นอยากเป็นหนอง
พี่ขอจองเช้าเย็นจะเป็นฝี
ถ้าหากน้องบำเพ็ญเป็นแม่ชี
พี่ขอเป็นกุฎีให้พิงพัก
ถ้าหากน้องแน่วแน่เป็นแม่นาค
พี่จะเป็นพี่มากยากห้ามหัก
หากถ้าน้องเป็นว่าวจุฬายักษ์
พี่จะเป็นรอกชักผ่อนหนักกัน
ถ้าหากน้องเนื้อแน่นเจ้าเป็นลม
พี่จะเป็นยาดมได้กล่อมขวัญ
ถ้าหากน้องล่วงลับโดยฉับพลัน
พี่จะเป็นผู้เอาประกันชีวิต
6 มีนาคม 2552 22:56 น.
กุ้งก้ามกราม
ฉันก็เป็นเพียงคน...คนคนหนึ่ง
ไม่หวานซึ้งเช่นใคร...ใครใครเขา
บางถ้อยคำแค่อ้าง...อ้างอ้างเอา
หวังเพียงเธอได้เบา...เบาเบาใจ
บางครั้งเธอขุ่นเคือง...เคืองเคืองจิต
ฉันหงุดหงิดจึงง้อ...ง้อง้อให้
เพื่อรักเราจะท้อ...ท้อท้อไย
แม้นเรื่องใดก็ทน...ทนทนเอา
บางครั้งเธอดุด่า...ด่าด่าด่า
ฉันต้องทำใจกล้า...กล้ากล้าเข้า
บางครั้งต้องแสร้งซึม...ซึมซึมเซา
เพื่อรักเราทนอยู่...อยู่อยู่ไป
ฉันก็อยากทำดี...ดีดีบ้าง
ความเลวอยากเหินห่าง...ห่างห่างไว้
ด้วยเพราะรู้เธอรัก...รักรักใคร
ยามหมั่นไส้เพียงบ่น...บ่นบ่นบ่น
ฉันก็เป็นเพียงคน...คนคนหนึ่ง
ไม่หวานซึ้งหลากหลาย...หลายหลายหน
อาจไม่ดีเช่นหลาย...หลายหลายคน
แต่หลากล้นรักจริง...จริงจริงนะ
5 มีนาคม 2552 21:26 น.
กุ้งก้ามกราม
เพราะผมคิดไม่ออกจึงลอกครับ
จะมาจับผิดได้อย่างไรหรือ
อย่าประจานผมจนถูกคนลือ
ผมคนซื่อขอบอกใช่หลอกลวง
พยัญชนะไทยใครเล่าเป็นเจ้าของ
ไยจับจองตีตราทำท่าหวง
แค่ช่วยใช้ยังทำมาย้ำทวง
หรือว่าดวงผมตกจึงอกตรม
พรรคพวกมากลากมาช่วยด่ากราด
ใช่ประหลาดรู้ไหมถูกใจผม
เห็นใครใครคนอื่นต่างชื่นชม
แล้วคุณจะระทมขมขื่นไย
มิออกนามอ้างอิงความจริงนั้น
ก็ผมมันมิกล้าลากมาไว้
เพราะเกรงคุณอึดอัดเคืองขัดใจ
ที่ทำไปใครไม่รู้ผมรู้ดี
ผมมิได้อ้างว่าผมกล้าเก่ง
มาข่มเหงผมได้อย่างไรนี่
คุณต้องไปจัดการคนอ่านซี
เพราะเขาตีความไปเข้าใจเอง
จะตอกย้ำทั้งเดือนขอเตือนนิด
ผมมิผิดรับรองมิร้องเอ๋ง
ถึงรวมพลหญิงชายลายนักเลง
ก็มิเกรงเพราะว่าผมหน้าทน
ให้ผมลอกสักนิดผิดนักหรือ
ผมหัวตื้อสมองตันมาแต่ต้น
เขียนอะไรก็ยากลำบากลำบน
แล้วจะบ่นทำไมก็ไม่รู้
4 มีนาคม 2552 22:46 น.
กุ้งก้ามกราม
วัยมันททสกะ (แรกเกิดถึง ๑๐ ขวบ)
วัยเริ่มจะเรียนรู้ตามผู้สอน
ยืน-นั่ง-เดิน-พูด-เล่น-กินและนอน
ดุจไม้อ่อนดัดง่ายดั่งหมายปอง
วัยขิฑฑาทสกะ (อายุ ๑๐ ปีถึง ๒๐ ปี)
วัยพบปะเคล้าคลุกสนุกสนอง
ชอบร่าเริงเฮฮาคึกคะนอง
อาจลำพองพลาดพลั้งบางครั้งคราว
วัยวัณณทสกะ (อายุ ๒๐ ปีถึง ๓๐ ปี)
วัยจิตร้อนรุ่มทั้งหนุ่มสาว
เพลิดเพลินตามอารมณ์ทุกเรื่องราว
อาจปวดร้าวหากคิดเดินผิดทาง
วัยพลทสกะ (อายุ ๓๐ ปีถึง ๔๐ ปี)
วัยพละเข้มแข็งมีแรงสร้าง
เพื่อหลักฐานอุตสาหมิละวาง
สู่หนทางที่หวังเพื่อตั้งตัว
วัยปัญญาทสกะ (อายุ ๔๐ ปีถึง ๕๐ ปี)
วัยควรจะละวางเส้นทางชั่ว
รู้คุณ-โทษรู้เหตุ-ผลพ้นเมามัว
รอบรู้ทั่วด้วยสติการตริตรอง
วัยหานิทสกะ (อายุ ๕๐ ปีถึง ๖๐ ปี)
วัยพละเสื่อมล้าปัญญาพร่อง
เสื่อมแรงกายแรงใจสู่วัยทอง
ควรประคองอารมณ์เหมาะสมตน
วัยหานิทสกะ (อายุ ๖๐ ปีถึง ๗๐ ปี)
วัยเริ่มจะหลงลืมและสับสน
หูเริ่มตึงตาเริ่มฝ้าล้ากมล
เริ่มวังวนแห่งกรรมความลำบาก
วัยวังกทสกะ (อายุ ๗๐ ปีถึง ๘๐ ปี)
วัยพบปะนิยามความยุ่งยาก
"เท้า ๓ ขา ตา ๒ ชั้น ฟันนอกปาก"
โบราณฝากเอาไว้เพื่อใคร่ครวญ
วัยโมมูหทสกะ (อายุ ๘๐ ปีถึง ๙๐ ปี)
วัยก่อนจะเหี่ยวหดทั้งหมดถ้วน
สูญสติสิ้นจำจดหมดทั้งมวล
ทนอบอวลกลิ่นยาอนาทร
วัยสยนทสกะ (อายุ ๙๐ ปีถึง ๑๐๐ ปี)
วัยใกล้ละสังขารลมปราณอ่อน
ต้องรับแขกกินถ่ายบนที่นอน
เกาะกุมหมอนยิ้มหยันรอวันตาย
ทุกช่วงวัยควรจะไม่ประมาท
ใช้ชีวิตผิดพลาดอาจเสียหาย
เมื่อคิดได้ใจเพลียต้องเสียดาย
รู้ผิดชอบเมื่อสายตายทั้งเป็น
3 มีนาคม 2552 23:25 น.
กุ้งก้ามกราม
แอบคาดหวังมีใครให้คิดถึง
และตราตรึงรักกันมั่นเสมอ
ทุกวันคืนสุขล้นรักปรนเปรอ
ฉันและเธอคู่กันนิรันดร์กาล
แอบคาดหวังมีใครให้ความรัก
ได้ประจักษ์นิยามแห่งความหวาน
คอยห่วงหาห่วงใยไปเนิ่นนาน
ฉันและเธอพบพานประสานใจ
แอบคาดหวังมีคนคู่เคียงข้าง
ร่วมสรรค์สร้างในสิ่งที่ยิ่งใหญ่
คือครอบครัวอบอุ่นละมุนละไม
หวังมีใครเห็นค่าว่าคู่ควร
แอบคาดหวังมีใครเข้าใจกัน
ด้วยศรัทธาเชื่อมั่นมิปั่นป่วน
อยากมีใครคลายช้ำทุกข์คร่ำครวญ
หยอกเย้ายวนให้ยิ้มอย่างพริ้มเพรา
แอบคาดหวังมีใครห่วงใยยิ่ง
มอบรักจริงจากใจให้คลายเศร้า
รักษาใจโศกศัลย์ให้บรรเทา
ไฉนเล่าคลาดหวังทุกครั้งครา