26 มิถุนายน 2550 19:49 น.
กุหลาบน้ำตา
***ถ้วนดิถีวาระฤกษ์เบิกสวัสดิ์
น้อมนมัสครูกวีศรีสยาม
รัตนกวีสี่แผ่นดินระบินทร์นาม
ทั่วเขตคามไทยถ้วนล้วนบูชา***
***พระสุนทรโวหาร"ภู่"วิญญูปราชญ์
รังสรรค์สร้างวรรณศาสตร์สารภาษา
เรียบเรียงร้อยลายลักษณ์อักษรา
สุนทรียรสพจนาภาษากานท์***
***กาพย์โคลงกลอนฉันท์ร่ายท่านจารึก
จินต์ต่างตรึกผนึกผูกสู่ลูกหลาน
ชนทั่วหล้าราษฎร์ทั่วโลกชมผลงาน
อัจฉริยะล้ำลือตำนานด้านกวี***
***ยี่สิบหกมิถุนามาบรรจบ
ต่างนอบนบน้อมประณตบทศรี
ร่วมแซ่ซร้องสรรเสริญคุณทั่วธาตรี
สดุดีแด่ครูกลอนสุนทรไทย***
***************************************
18 มิถุนายน 2550 21:26 น.
กุหลาบน้ำตา
***จริตเถื่อนถ้อยวาทะละเลงลั่น
ชนใดฟังนึกสะพรั่นหวาดหวั่นไหว
เหยียดคำหยาบเย้ยหยันมิยอมใคร
นี่น่ะหรือฤาไทยจึ่งใจทราม
***เพียงเอื้อนโอษฐ์โฉดเฉาด้วยเขลาขลาด
หรือรากเหง้าพลั้งพลาดจึงไต่ถาม
หรือพร่ำเพรื่อพฤติสันดานเฉพาะยาม
นึกประฌามหยามตนจนพ้นดี
***สำรอกร้อยถ้อยแถลงแจกแจงชั่ว
สันดานรั่วดูพิลึกนึกบัดสี
แม้นเสแสร้งพจน์ไพเราะลบราคี
ตกเป็นหนี้อย่างอนาถพลาดวาจา
***เอ่ยเอวังครั้งใดมโนสำนึก
เลวระลึกนึกสันดานพาลกถา
ทุกอย่างย้ำพร่ำอย่างไพร่ไตร่ตีตรา
สถุลถ้อยต่ำช้าวจีอุบาย
*************************************************
3 มิถุนายน 2550 19:28 น.
กุหลาบน้ำตา
เมื่อยามสองครองจินต์ด้วยสิ้นรัก
ไร้ซึ่งเสียงมาทายทักใจชักเหงา
ภมรสัตว์สงัดเพรียบจึงเงียบเพรา
ด้วยสองเราหักร้างบนทางจร
จะเยื้องย่างยุรยาตรเหมือนขาดจิตร
เพ่งพินิจพรรณพฤกษ์นึกสังหรณ์
สายลมพัดผ่านยอดมิเอนงอน
ฤาเหนื่อยล้าหลับนอนเจ้าผ่อนกาย
เพ่งพิเคราะห์สายวารีเจ้าหรี่หลบ
ธารสงบท่าสงัดหยุดหลั่งสาย
ฤาเจ้าอยากพรากให้ข้าเอกากาย
จินต์เจ้าด่วนเดียวดายเมื่อชายลา
นกเขาคูเคียงคู่พธูสอง
แม้นมุ่งมาดหมายมองต้องอิจฉา
ช่างเย้ายั่วหยอกล้อต่อสายตา
ฤาเจ้าแสร้งแกล้งให้ข้าระอาใจ
ใยเรื่องรักเจ้าจึงจบเพราะลาจาก
ต้องพลัดพรากใจระสั่นด้วยหวั่นไหว
ฤาเจ้าคิดอาฆาตข้าต้องอาลัย
ตัวข้าไร้สิ้นแล้วซึ่งวิญญา