23 มกราคม 2550 20:48 น.
กุหลาบน้ำตา
ดำรงตน ณ สังคมนิยมเพื่อน
ไม่จางเจือนเจอประสบพบความเหงา
สังคมดีคบเพื่อนดีที่ตัวเรา
มิมีเศร้าโศกสลดหมดกำลัง
............................................................................
คำว่าเพื่อนเพื่อนคือเพื่อนคอยเตือนจิต
คำว่าเพื่อนพลาดพลั้งผิดมิคิดหนี
คำว่าเพื่อนเพื่อนรักเพื่อนนั่นแหละดี
คำว่าเพื่อนจากวจีมีตัวตน
...............................................................................
เพื่อนร่วมกินร่วมหรรษาหาได้ง่าย
เพื่อนติดกายยามเรามีดีหนักหนา
ยามเราหมดทรัพย์และสินล้วนชินชา
เพื่อนหมดเงินเพื่อนหมดค่าราคาลง
..................................................................................
เพื่อนที่แท้แน่จริงสิ่งหายาก
เพื่อนหมู่มากยากประสบพบความหวัง
หาเพื่อนใจให้ชีวิตปิดกำบัง
หาเพื่อนพลั้งผิดค่าเพื่อนคอยเตือนตน
....................................................................................
คบเพื่อนดีเป็นศรีแก่ผู้คบ
เมื่อเพื่อนจบจากกันจิตหวั่นไหว
มีเพื่อนชั่วละเลงช้ำกระหน่ำใจ
เพื่อนจากไวใจจากจบพบความดี
.......................................................................................
23 มกราคม 2550 20:28 น.
กุหลาบน้ำตา
ต้นชีวิตเจริญวัยเพราะใจช่วย
มนุษย์ม้วยมรณังเพราะสังขาร
มนษย์เลวเหลวแหลกเพราะสันดาน
มนุษย์ผลาญเผาเรือนร่างเพราะสร่างโทรม
..................................................................................
รากหยั่งลึกลงชั้นดินดินเข้าช่วย
รากจะสวยงอกสาขาธาราสรง
รากยึดติดมิดพ้นให้ต้นทรง
ใบปรกปรงงามประดับระยับตา
..............................................................................
กระทำชั่วเพราะกลัวบาปทาบตามติด
กระทำผิดติดที่ใจไม่ปรารถนา
กระทำดีมีแต่ได้ไร้นินทา
กระทำช้าเพระกลัวช้ำกระหน่ำทรวง
..............................................................................
มนุษย์เราเจริญวัยเพราะนมแม่
รักที่แท้ที่แม่มอบตอบความหมาย
จากมนุษย์กินนมสัตว์จัดวุ่นวาย
ใจจึงคล้ายเดรัจฉานประมาณตน
.................................................................................
บรรพชนคนรุ่นหลังรักษาชาติ
มิพลั้งพลาดหลงมัวเมาเอาชาติขาย
ปุถุชนคนรุ่นใหม่ไม่ละอาย
หมดความหมายในเชื้อชาติอาจลืมเลือน
................................................................................
องค์สมเด็จพระปิยะละเลิกทาส
ไทยผงาดได้เปนไทสมศักดิ์ศรี
ไทสมัยปัจจุบันบั่นราคี
ยอมผิดผีเผลอเป็นทาสชาติต่างแดน
..............................................................................
การเปนไทสมค่าไทยได้เป็นชาติ
ป่าวประกาศว่าชาติตนพ้นบัดสี
ยิ้มระเริงรื่นระรนอ้างตนดี
ไร้ราคีร้างราคะสละเลือน
............................................................................
ชื่อว่าคนตนมั่นใจว่าจะเรียก
จงสำเหนียกต่างตระหนักอย่าพักถอน
การเป็นคนสมค่าคนหรือแน่นอน
จงอาวรณ์เวียนวินิจพิจารณา
..........................................................................
21 มกราคม 2550 19:56 น.
กุหลาบน้ำตา
มองรากเหง้าชาวมนุษย์แล้วหยุดคิด
ว่าคุณผิดมามากแล้วนั้นถูกไหม
มองจากตัวจรดตีนแล้วตั้งใจ
วินิจฉัยค่ามนุษย์ที่เกิดมา
...........................................................................
เป็นมนุษย์อย่าเป็นได้แค่เพียงชื่อ
หัดหารือกับรากเหง้าเข้าปัญหา
อย่าโอ้อวดสำรวจตนพ้นอัตรา
มองเห็นค่าแล้วจึงหยุดยุติการ<
......................................................................../font>
21 มกราคม 2550 19:48 น.
กุหลาบน้ำตา
แรงแห่งรักร้อนรุมจิตริษยา
รักมายาลวงหลอกนอกความเห็น
รักหยาบหยามเกิดยามร้ายตายทั้งเป็น
นอกประเด็นนอกเรื่องรักมักชิงชัง
..............................................................................
หญิงใจร้ายพยาบาทอาฆาตรัก
โดนหามหักจนรักบิ่นสิ้นความหวัง
รักมากไปใจสลายมลายพัง
จนรักพลั้งพลาดผิดมาติดตัว
...............................................................................
รักสะอื้นกลืนน้ำตาประดาเลือด
น้ำรักเหือดแห้งหดหมดความหมาย
ยื่นรักตอบตราแทนแผนมลาย
รักจึงหมายร้ายเล่ห์รักมาหักลง
....................................................................................
ทนยืนกรานมารยาหญิงที่หยิ่งหยาบ
ตรารักบาปตราบชีพจนถีบถอย
รักที่แน่แท้ที่รักมักตรารอย
รักเพียงน้อยก็คือรักจักแสดง
......................................................................................
กลกามรักหักเหด้วยเล่ห์รัก
รักมาหักห้ามใจไร้ราศี
เสน่ห์รักหักสะบั้นลงทันที
ด้วยวจีหยามเหยียดกระเดียดตน
..........................................................................................
20 มกราคม 2550 22:22 น.
กุหลาบน้ำตา
วิถีรักนำพารักจนเกิดรัก
รักประจักษ์แจ้งแก่จิตวินิจฉัย
นิราศลาร้างรักนิราศใจ
นิราศใหม่แทรกร้างรักมักยาวไกล
.......................................................................
ดำเนินรักด้วยความหวังว่าจะรอด
รักกลับจอดติดกันแจยากแก้ไข
ดำเนินเรื่องเบื้องหลังรักชักเจ็บใจ
รักมากไปจนมากรักมักชินชา
.........................................................................
เหตุแห่งรักก่อกำเนิดเปิดแผนรัก
รักสลักรอยช้ำเจ็บเหน็บเป็นแผล
หากต้องการรักแซ่สร้องต้องดูแล
ค่ารักแท้จึงหายากมากคนจอง
............................................................................
ตอนแรกรักน้ำต้มผักยังมักหวาน
รักล่วงผ่านอุปสรรครักขื่นขม
ค่าความรักที่พานพบเพียงสายลม
ไร้คำชมต่างแรกรักมักตรอมตรม
................................................................................
รักจารึกผนึกค่าภาษารัก
รักแน่นหนักด้วยรักแท้มิแปรแผน
นิจจารักมิวายห่วงล่วงจากแกน
จารึกแทนรอยรักเดิมเริ่มช้ำทรวง
................................................................................