16 กุมภาพันธ์ 2550 21:50 น.

จาก ครรภ์มารดา ถึง เชิงตะกอน

กุหลาบน้ำตา



        " ชีวิตมนุษย์เริ่มต้นด้วยการเกิด ( จากครรภ์มารดา )

และจบสิ้นการเป็นมนุษย์ด้วยการตาย ( เชิงตะกอน ) "
.......................................................................................

         เมื่อกำหนดทศมาศนิราศรัตน์

ปทุมทัดเหลืองละออช่อเกสร

กุมารน้อยกำเนิดนันต์ครรภ์มารดร

อัสดรระดาดับระยับพราว

         บุษบกบุษบงประยงยาตร

ดาราราชบนเด่นดวงบนห้วงหาว

กาลแห่งชีพรชเนื่องยืดเยื้องยาว

ช่อสกาวผกามาศยังยาตรา

         ทินกรอ่อนแสงสำแดงเดช

ปลงสังเวชอนิจจังทั้งทุกขา

มนุษย์ชนระย่นชีพตามเวลา

เมฆเมฆาเมียงขอบรอบเมฆัน

         จันทราทรเพียงเสี้ยวเปลี่ยวสงัด

พระพายพัดโพยมพาดุจอาถรรพณ์

เชิงตะกอนร้อนคลั่งดั่งลงทัณฑ์

ม้วยมหันต์มอดอนาถชีพขาดลง
...........................................................

( ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒ )

        ณ ทศมาศนิราศรัตน์            ปทุดทัดระทานดอก

อรุณหล้าระดาออก                         ระดาดับระยับพราว

        กุมารน้อยคละเคลื่อนคลอด    ระเมียรมอด ณ ห้วงหาว

ณ เบื้องบนสกลกาว                       ชโยลั่นสนั่นไพร

        ระยะกาล ณ ชีพชนม์             ระย่อย่นระคนไหว 

มหันต์ม้วย ณ เลไลย                     ตะกอนเชิงระร้อนแรง
........................................................................

         ครบกำหนดทศมาศ             มณีรัตน์

นมัสน้อมวจีจรัศ                           เรืองศรี

กำเนิดชีพยืนหยัด                        เยื้องสาย  สะดือนา

ม้วยมหันต์ชีพพลี                          พลั้งชนตะเกินเชิง   ชนม์เอย				
16 กุมภาพันธ์ 2550 21:35 น.

นาฎกรรมบนลานกว้าง

กุหลาบน้ำตา



    " ขยายความจากชื่อ "  ...............

       เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ณ สนามหน้าเมือง เบื้องหน้าพระบรมรูป

พระยาศรีธรรมโศกราช ( บริเวณประตูป้อมไชยสิทธิ์ )

จังหวัด นครศรีธรรมราช

         
         ยุทธศาสตร์นาฎกรรมบนลานโศก

ชายธงโบกมิยั้งหยุดยุทธหัตถี

เหล่าทหารนับพันหลายวายฆาตี

อรีราษฎร์อัปยศร่วมอดสู

         ทั้งรบรันฟันประดาเลือดถาโถม

กายเสื่อมโทรมทรุดสลายกายอดสู

ทั้งตัวเล็กเด็กผู้ใหญ่น่าเอ็นดู

เพราะศัตรูเข้ารานผลาญตัวเมือง

          กำแพงเมืองเยื้องสูงดูเด่นโดด

ศัตรูโลดกระโดดข้ามลามเข้าเหมือง

เมืองศรีธรรมศิรินครที่รุ่งเรือง

กลับกระเดื่องดาดับยับเพียงดิน

          นาฎกรรมครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก

ยอดป้อมหักต้นปลายจดหมดความศิลป์

ชาวนครเศร้าละเหี่ยเสียแผ่นดิน

ศาสน์เสื่อมสิ้นมิเหลือซากรากเหง้าเดิม
....................................................................

          นาฎกรรมบนลานกว้าง             กวาดหมด

เหล่าทวยราษฎร์โศกสลด                    เลือนสลาย

ศาสตร์แลศิลป์เปลื้องปลด                    เปลี่ยวเมือง  นครเอย

กำแพงเมืองวอดวาย                            วูบสิ้นถิ่นนคร				
15 กุมภาพันธ์ 2550 21:02 น.

กล้า...ที่จะแตกต่าง

กุหลาบน้ำตา



         อันความคิดของมนุษย์ไม่หยุดนิ่ง

แม้นเกิดสิ่งอุปสรรคไม่อาจขวาง

ค่าความคิดต้องปลดปล่อยตามรอยทาง

คิดทิ้งวางเมื่อวูบสิ้นชีวินตน

        ต่างครอบครัวต่างความคิดต่างแวดล้อม

ต่างความพร้อมต่างชีวิตต่างสับสน

ต่างการสอนต่างปัญญาต่างตัวคน

ต่างฐานะต่างอดทนต่างผลงาน

       กล้าจะทำกล้าจะคิดกล้าจะพูด

กล้าพิสูจน์กล้าลงมือกล้าสื่อสาร

กล้าทดลองกล้าปราดเปลี่ยวกล้าเชี่ยวชาญ

กล้าจัดการกล้าผิดถูกกล้าผูกพัน

       ความแตกต่างบนทางชีพต้องชาญเชี่ยว

กล้าโดดเดี่ยวที่จะต่างกลางแปรผัน

ต่างความถูกต่างความผิดคิดค้ำยัน

กล้าประจัญต่อโลกจริงคือสิ่งดี				
15 กุมภาพันธ์ 2550 20:44 น.

ความรัก หรือ ปลักควาย

กุหลาบน้ำตา



        ค่าความรักจางชืดจืดสนิท

รักพ่ายผิดพลาดหนักหักสลาย

ค่าความรักระยำหนักเช่นปลักควาย

รักเลวร้ายมิลงรอยถอยรักคืน

        รักจมปลักโศกสลดหมดรสชาติ

ข่ายรักขาดเสี้ยวบิ่นสิ้นทนฝืน

อนาถรักดั่งน้ำคลำสุดกล้ำกลืน

ต้องขมขื่นขาดสะบั้นเกือบบรรลัย

        สื่อแห่งรักหักขาดอนาถหนัก

เลือดกระอักพ้นจิตผิดวิสัย

เลือดหล่อร่างสร่างขาดอนาถใจ

เปรียบดั่งไฟบรรลัยโลกต้องโศกตรม

        ควายกระบือยังสื่อรู้ว่าผู้เลี้ยง

เธอกลับเลี่ยงผู้ส่งรักจักขื่นขม

ควายผู้แม่ดูแลลูกด้วยน้ำนม

สุดระทมเธอเลี้ยงรักด้วยรักลวง
...............................................................

        ความรักหรือปลักควาย             รักเลวร้ายเธอลวงหลง

รักหมองต้องปองปลง                         รักจบลงในดงลวง
................................................................

       ความรักหรือปลักควาย             เคว้งคว้าง

รักหม่นหมดหนทาง                         ทิ้งถอน

รักด้อยต้องปล่อยวาง                       หวามวาบ

รักอนาถขาดรานรอน                      เรี่ยราดอนาถตน  รักเอย
..................................................................				
15 กุมภาพันธ์ 2550 20:22 น.

เขียนแผ่นดิน ( ฉบับ กลอนสุภาพ )

กุหลาบน้ำตา



        ณ ผืนแผ่นปฐพีทวิราษฎร์

ซร้องประกาศเกียรติประวัติด้านศักดิ์ศรี

บรรพชนสยามชาติน้อมสดุดี

ป้องธาตรีปกผืนแผ่นดินไทย

        ครั้งสยามเรืองรุ่งรุจีรัตน์

องค์กษัตริย์คุ้มทวยราษฎร์พ้นวิสัย

เหล่าศัตรูอริราษฎร์พ่ายปราชัย

สามัคคีรวมใจไทยป้องแผ่นดิน

        เสียกรุงศรีอยุธยาทวิยับ

ราษฎร์ม้วยดับทรัพย์เปลื้องปลดหมดศาสตร์ศิลป์

อริราษฎร์ผงาดตนบนราคิน

ศาสน์ชาติสิ้นเสื่อมทรุดสุดพรรณนา

         ครั้นแตกกรุงสร้างกรุงใหม่ขึ้นแทนทด

สินทรัพย์ปลดเพื่อสร้างปราชญ์ศาสนา

นามกรุงธนพระเจ้าตากองค์ราชา

ผงาดหน้าเยื้องยืดอกเปนไทชน

          พระยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ก้องประกาศทั่งคามเขตยึดเหตุผล

นามรัตนโกสินทร์กรุงมุ่งสืบตน

เพื่อสร้างชนสยามชาติราษฎร์แห่งไทย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุหลาบน้ำตา
Lovings  กุหลาบน้ำตา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุหลาบน้ำตา
Lovings  กุหลาบน้ำตา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกุหลาบน้ำตา
Lovings  กุหลาบน้ำตา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกุหลาบน้ำตา