18 กรกฎาคม 2549 23:49 น.
กุมภ์
คำปลอบโยนพิสูจน์ได้จากใจฉัน
ทุกคืนวันฉันส่งให้ไมตรีจิตร
ความห่วงใยหาใช่เพียงแค่ฉันมิตร
แต่เป็นจิตรสัมพันธ์กัน..ฉันกับเธอ.............
ฟังเถิดฟังความหวานฉ่ำของน้ำค้าง
มิเคยร้างแรมไกล....ใกล้เสมอ
จนเดือนดับฝนพร่ำตกนกละเมอ
เฝ้าคอยเธอจนเผลอไปในราตรี.................
ฟังเสียงฝนหล่นคราไดให้คิดถึง
เสียงอื้ออึงสะพรึงไกลใช่หน่ายหนี
ส่งสัญญาณจากฟ้าใสไม่รอรี
จากวันนี้คงพบเจอ..เธอคนไกล..................
หากใช่รักขอวางใจไว้ตรงนี้
ไม่ขอลี้หลีกไกล....ไม่ไปไหน
เพราะตอนนี้เจอแล้วที่พำนักใจ
ไม่ขอไกลเธอไปไหน...ให้สัญญา................
อดีตฉันเหมือนดั่งของที่ใช้แล้ว
ไม่เพริดแพร้วเหมือนของใหม่ที่ไฝ่หา
หากรังเกลียดของต่ำต้อยด้อยราคา
ปรารถนาให้เธอรับ...ความเป็นไป
ไม่ได้เป็นของใหม่หมายเลขหนึ่ง
แต่อีกครึ่งยังเพียงพอเหมือนของใหม่
อยู่ที่เธอจะรับได้สักเพียงได
อยู่ที่ใจของเธอ......แต่ผู้เดียว
15 กรกฎาคม 2549 22:12 น.
กุมภ์
ราตรีนี้ฟ้าสีหม่นรินลมเอื่อย
หัวใจเหนื่อยอ่อนล้ามาแต่ไหน
อยากพำนัก..พักพิงแอบ..แนบชิดใคร
ตามหัวใจดูสักหน่อยค่อยผ่อนคลาย..................
ก่อนจะหลับยังนั่งนับดาวบนฟ้า
โชคชะตาฟ้าลิขิตชีวิตหมาย
ขอเพียงแค่สักคนหนึ่งอยู่ข้างกาย
วอนดาวพรายดาระดาษสาดแสงเตือน..............
ช่วยย้ำทีหลายวลีที่พร่ำเอ่ย
อย่าเมินเฉยในน้ำคำยังจำเหมือน
ในคืนหนึ่งที่สองใจไต่แสงเดือน
นภาเกลื่อนดาราเห็นเป็นพยาน.......................
นับจากนี้..ต่อนี้ไป...ยังมีไหม
สองดวงใจ..ผูกพันธ์กัน..ฝันยังหวาน
สานสายใย..สัมพันธ์กัน..ดังวันวาน
เริ่มตำนาน..รักบทหนึ่ง..ตราตรึงใจ..................
ดาวรับรู้กระพริบตอบกระซิบรัก
จงหยุดพักหัวใจไว้ใต้ฟ้าใส
คงผ่านแล้วเมฆหมอกมัวสลัวใจ
ต่อนี้ไปสองดวงใจได้ครอบครอง.......................
กว่าจะถึงวันที่ซึ่งเสาะแสวง
ความเปลี่ยนแปลง..ยังคงอยู่..คู่เราสอง
หากสักวันจำร้างลาน้ำตานอง
ยากสำรองรักที่เหลือ...เผื่อให้ใคร.....................๑๑๑
13 กรกฎาคม 2549 02:08 น.
กุมภ์
วานช่วยหาค่าความหมายของความรัก
ยากยิ่งนักหาความรักที่มั่นหมาย
บ้างเสาะหาค่าแห่งรักจนวันตาย
ไร้ความหมายหาให้ตายได้สักคน.............
หรือว่าคนที่ค้นหาในวันนี้
เป็นสิ่งที่ยากเข้าใจในเหตผล
ความหลายหลากมากมีที่ซุกซน
นำพาใจใครหนึ่งคนให้วนเวียน...............
เพียรเสาะสรรจำนรรค์ความตามประสา
ใช่มายามาหลอกใครให้คลื่นเหียน
เก็บนำความรู้สึกไว้เป็นบทเรียน
ให้คนเรียนรับรู้ได้จากตัวเรา...................
จะเฝ้าคอยเจ้ากลอยใจใครคนหนึ่ง
ความคิดถึงฉุดดึงให้ใจอับเฉา
ถึงเศร้าซมตรมหม่นไปก็ใจเรา
ส่วนใจเขาคงชาชินไม่ยินดี......................
หากจะมีเศษส่วนดีคงน้อยนิด
ใจเฝ้าคิดทบทวนอยู่ไม่รู้หนี
จำไว้หมดครบทุกคำจำนรรมี
การันตีไว้ได้เลยไม่เคยลืม......................
จะเพียงผ่านหรือเพียงแค่มาแวะทัก
อยากพำนักพักพิงได้ใจอย่าฝืน
แค่หยุดใจไว้สักหน่อยค่อยข้ามคืน
แล้วค่อยตื่นมาพร้อมตัวกับหัวใจ...............๑๑๑๑
10 กรกฎาคม 2549 01:16 น.
กุมภ์
ระหว่างเราฉันเข้าใจเพราะฉันรู้
เห็นกันอยู่ว่าความจริงเป็นแบบไหน
เธออกหักโดนเลิกรักแล้วทิ้งไป
ฉันเข้าใจความเศร้าเหงาในใจเธอ..........
แล้ววันคืนที่ล่วงผ่านพาพานพบ
แรกประสบพบกันฉันไม่เผลอ
แต่คืนวันที่เลยผ่านฉันกับเธอ
ต่างก็เผลอตามใจกันฝันร่ำไป...................
กลายเป็นความผูกพันธ์สำคัญหนัก
กลายเป็นรักที่หนักติ้วหิ้วไม่ไหว
กลายเป็นสายสัมพันธ์แน่นลงแก่นใจ
กายกับใจฉันเผลอไผลใคร่อยากลอง.............
รู้ทั้งรู้ว่ารักนี้ไม่ดีแน่
เพราะเพียงแค่เผลอไผลใช่เจ้าของ
พอผิดหวังแทบดาวดิ้นน้ำตานอง
อยากลองของเลยไม่มองของใกล้ตัว................
ต่อนี้ไปต้องระวังให้จงหนัก
อย่าง่ายรักร่ำไปมันเจ็บหัว
อย่าทึกทักว่ารักนี้เป็นของตัว
ต้องหัดกลัวหัวใจคนที่ทนดู.............................
คนที่อยู่ใกล้ตัวเขาไหวหวั่น
กลัวรักนั้นจะทำเอาเราอดสู
เราก็มีอยู่แล้วนี่ยอดพธู
จะขออยู่อย่างรู้กัน.....ฉันกับเธอ........๑
7 กรกฎาคม 2549 01:51 น.
กุมภ์
ผู้คนในบ้านหลังนี้มีหลายหลาก
คนหมู่มากหลากจำนวนชวนค้นหา
แต่ละคนข้ามผ่านธารกาลเวลา
ที่สุดมาเจอประสบ.....พบบ้านนี้...........
บ้านที่มีทั้งความสุขสนุกเศร้า
คลุกคละเคล้าเศร้าสุขไม่ลุกหนี
คือบ้านแห่งมธุรสบทกวี
จำนรรมีหลากอย่างต่างกันไป.............
บ้านที่ใครแต่ละคนฝนทักษะ
ต่างภาวะต่างใจคนอารมณ์ไหว
หลากเรื่องราวเล่าผ่านคนค้นกันไป
แต่ละใจแต่ละทีมีเรื่องราว..................
บ้านที่ดาวหลายหมื่นดวงมารวมอยู่
ฉันเฝ้าดูดาวระยิบกระพริบขาว
รอดาวน้อยระยับยิบกระพริบพราว
ส่งเรื่องราวผ่านแสงใส...ในราตรี..................