23 มกราคม 2550 14:40 น.
กุมภ์
หวลคำนึงถึงตัวฉันตอนเป็นเด็ก
ได้เพียงตุ๊กตาตัวเล็กมีความหมาย
จินตนาการก่อกว้างดั่งเลทราย
และเร่าร้อนดั่งกองไฟก่อไฟฟืน
เป็นเส้นทางจินตนามีตรงอ้อม
ดั่งวงล้อมทางม้าเหล็กใช่ทางอื่น
ถูกกำหนดไปตามทางเหมือนกลมกลืน
มิอาจฝืนไปทางอื่นคือรถไฟ
หวลคำนึงถึงตัวฉันตอนจากบ้าน
ต้องซมซานสู่กรุงเทพตามฝันไฝ่
เก็บเรี่องราวข่าวบ้านนอกไว้ในใจ
ปลดปล่อยไปตามแต่ใจจะนำพา
หากเปรียบเมืองศิวิไลดั่งเรือรถ
ฉันคงหมดโอกาสนั่งวางทีท่า
เป็นได้เพียงเกวียนเทียมควายไร้ราคา
ทางข้างหน้านั้นยากกว่าจะก้าวเดิน
เป็นส่วนเกินอยู่ก้นบึ้งตกผลึก
จิตสำนึกรับไม่ได้มันขัดเขิน
หลายเส้นทางอยู่ตรงหน้าให้เลือกเดิน
แต่ฉันกลับเป็นส่วนเกินของสังคม
หวลคำนึงถึงตอนนี้ไม่ใช่เด็ก
ค่าตุ๊กตาตัวเล็กเล็กไร้ความหมาย
เดินทางผ่านทางรถเรืออย่างมากมาย
ทั้งเพื่อนฝูงยังล้มตายตามเวลา
ภาพตุ๊กตาในมือเด็กแต่ครั้งก่อน
บทเรียนสอนเป็นความจริงให้ค้นหา
ดั่งถูกเชือกสนตะพายแต่ก่อนมา
วันเวลากำหนดตัวดั่ง" วัวงาน"
17 มกราคม 2550 00:02 น.
กุมภ์
ชีวิตเอยเลยล่วงผ่านห้วงฝัน
ย้อนคืนวันมองไปไร้ความหมาย
เป็นชีวิตที่เรียนรู้ทั้งใจกาย
เพียงเพื่อได้เพื่อนเกลอคือหัวใจ
ความเปลี่ยวเหงาในชีวิตล้วนเคยผ่าน
เกินทัดทานตัวของเราใจอยู่ไหน
ความโหดร้ายในชีวิตต้องทำใจ
เพียงเพราะเหตุตัวกับใจไม่ตรงกัน
บางค่ำคืนหัวใจพ่ายสังขาร
บางวันการกลับเปลี่ยนไปใจยังฝัน
เพราะแสงสีมากมายมีสารพัน
คอยผลักดันให้หลงทางไม่ยากเลย
ฝันยังคอยติดตามทุกคืนค่ำ
ฝันดื่มด่ำลวงใจมิอาจเผย
ดั่งนกน้อยบินเหลิงลมเหมือนไม่เคย
พลันล่วงเลยตกลงกลาง" ทะเลใจ"
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นจุดหมาย
หากร่างกายที่ห่อใจกลับหาใช่
ลึกแค่คืบเที่ยวสืบค้นเพราะเหตุได
เพียงหาใจในใจเจอก็สุขงาม
15 มกราคม 2550 15:48 น.
กุมภ์
สุดสายตาเบื้องบนคือแผ่นฟ้า
พสุธาเบื้องล่างธารน้ำใส
ตัวฉันมีกาน้ำเพียงหนึ่งใบ
กับกองฟืนไว้ก่อไฟวางรายเรียง
พำนักอยู่นานทีหลายปีผ่าน
เรื่องเล่าขานวันเก่าไร้สุ้มเสียง
ผ่านวันเก่าเข้าวันใหม่ลำพังเพียง
แม้ไร้เสียงแต่อบอุ่นลมหายใจ
ไม่เคยคิดถึงเรื่องไดไกลสุดฟ้า
เพียงผ่านมาพบกันใต้ฟ้าใส
แสงตะวันรอนรอนอาบพงไพร
ราตรีไดหนอจะได้กล่อมนางนอน
ยามพบกันเราพากันไปตัดไม้
มาก่อไฟต้มน้ำสุมฟืนขอน
พอน้ำเดือดรินแบ่งกันไม่ขาดตอน
พอไม้ขอนฟืนหมดไปหากัน
บางคนว่าตัวฉันเหมือนคนบ้า
บ้างก็ว่าสติไม่เข้าขั้น
เหมือนผิดหวังบางอย่างมาสากรรจ์
เลยโจษจันท์หาว่าบ้าช่างน่าอาย
บางเรื่องราวบาดร้าวจำเก็บไว้
บอกไม่ได้ดูคล้ายจะหล่นหาย
เป็นความหลังของชีวิตลูกผู้ชาย
ค้นความหมายคำคม" คนเก็บฟืน"
14 มกราคม 2550 13:29 น.
กุมภ์
จิตเป็นนายกายเป็นบ่าวโบราณว่า
ภาพตรงหน้าแค่สายตาไปสอดเห็น
แค่รู้เท่าทันสายตาไม่ยากเย็น
อาจลำเค็ญเพราะปรุงแต่งแย่งกันดู
หูมีสองคอยหาเหตุมาให้คิด
เหตุเพียงนิดกลายเป็นใหญ่ร้ายจริงหู
ยิ่งหูคบหากับตายุ่งน่าดู
อยู่เป็นคู่ตากับหูไม่สู้ดี
เรื่องหอมเหม็นจมูกเป็นผู้แยกแยะ
ถูกปรุงแปะว่าให้หอมดั่งย้องสี
ถึงคราวเหม็นหนีหน้าเร้นในทันที
จมูกนี้คือฆานะสัมผัสกาย
ยามลิ้มรสอาหารหรูว่าถูกลิ้น
ปรุงแต่งสิ้นสาดชูรสได้ดั่งหมาย
หวานมันเปรี้ยวเคี้ยวเข็ดฟันกันลืมตาย
แค่ความหมายให้ถูกลิ้นคิดกันดู
พอตาหูจมูกลิ้นเข้าปรุงแต่ง
ยากจะแบ่งความถูกผิดน่าอดสู
กายเป็นบ่าวสัมผัสสี่นี้ตัวกู
กว่าจะรู้ย่อมเดือดร้อนหม่นหมองตัว
เพียงสัมผัสอย่างหยาบหยาบประสาโลก
หากเกลียดโกรธพึงระวังจะเจ็บหัว
สื่อสัมผัสพึงระมัดระวังตัว
ทั้งดีชั่วหัวใจเราดั่งเจ้าเรือน
กำหนดจิตเปลี่ยนความคิดสักนิดหน่อย
รู้วางปล่อยเรื่องดีร้ายแค่คล้ายเหมือน
รู้เท่าทันมายาหยาบภาพบิดเบือน
อย่าแชเชือนต้องคอยเตือนเรื่องความคิด
เปลี่ยนความคิดจากด้านลบเป็นด้านบวก
คบเป็นพวกเอาด้านบวกไม่มีผิด
ทำง่ายง่ายแต่ค่าหมายยิ่งชีวิต
สุจริตตามความคิดที่ตรึกตรอง
คิดด้านบวกก็แค่รับตามสภาพ
แล้วรับทราบความเป็นจริงแม้หม่นหมอง
หมั่นฝึกฝนทันจริตตามครรลอง
ให้ถือครองจิตเป็นนายไม่ขายกิน
อักษรสรรจำนรรมาใช่สั่งสอน
คนเดือดร้อนเพราะตาหูจมูกลิ้น
เตือนกายไว้ใจคือนายเป็นอาจิณ
ระวังสิ้นลิ้นหูตาอย่าละเลย
12 มกราคม 2550 00:17 น.
กุมภ์
เสาร์สิบสามมกราปีหมูบ้า
ภาวนาอย่าเกิดเหตุสยองขวัญ
เหมือนอย่างคืนสามสิบเอ็ดที่รู้กัน
ตูมสนั่นเสียงระเบิดเกิดจากใคร??
นายกบอกเหตุเกิดจากอำนาจเก่า
ก่อการเขลาเป็นภัยร้ายรูปแบบใหม่
คนวางบอมเป็นพม่าใช่คนไทย
นำบอมใส่ไว้ในถังเทศบาล
มีเงินโอนกว่าพันล้านผ่านเครือข่าย
บ่อนทำลายหมายก่อกวนไม่สงสาร
วันสิ้นปีทุกท้องที่สุขสำราญ
กลับทำการก่อการร้ายทำลายคน
เงินก่อการหกร้อยล้านหว่านมาให้
น่าเจ็บใจเป็นคนไทยที่ฉ้อฉน
เป็นเงินเถื่อนนอกระบบไร้ตัวตน
ยากสืบค้นให้รู้แจ้งแหล่งที่มา
เงินก้อนนี้ทำลายล้างชาติ,ชีวิต
วิปริตผิดอาเพศเป็นบาปหนา
เห็นแก่ตัวไม่กลัวกรรมไม่นำพา
ช่างชั่วช้าเกินวาจามาประนาม
คลื่นใต้น้ำคลื่นบนน้ำทั้งเครือข่าย
คนล้มตายเพราะเหตุไดขอไต่ถาม
เพียงพวกคุณเสียประโยชน์ช่างต่ำทราม
ทำการหยามก่อนพ่อหลวงประทานพร
ช่างสิ้นคิดทำสิ่งผิดอัปยศ
เกมส์คนคดทรยศคำพ่อสอน
ช่างกล้าทำเรื่องระยำหวังสั่นคลอน
ขอวิงวอนเห็นแก่ชาติบ้านเมืองเรา
ตัวหัวหน้าเหมือนคนบ้าเที่ยวร่อนเร่
ทำเป็นเท่เปเศษเงินให้คนเขลา
ประกาศก้องจะก่อการไม่มีเบา
เป็นร้อยเท่ากว่าครั้งก่อนตอนสิ้นปี
ทำใบปลิวขู่อาฆาตช่างใจร้าย
หมายทำลายงานวันเด็กให้ป่นปี้
เด็กได้เล่นเพียงหนึ่งวันในรอบปี
คุณไม่มีลูกหลานกันหรืออย่างไร!!!
เหตุผู้ใหญ่ขัดแย้งกันพลันเกิดเรื่อง
ความขุ่นเคืองเรื่องของเด็กเสียที่ไหน
ผู้ปกครองพ่อแม่เด็กเขาห่วงใย
หวั่นเกิดภัยกับลูกหลานต้องตามดู
เสาร์สิบสามมกราปีห้าศูนย์
สุดอาดูรสงสารเด็กอยากเล่นอยู่
เหตูการณ์นี้ต้องจดจำไว้เป็นครู
พวกหนูหนูจงจำไว้เป็นบทเรียน