20 ธันวาคม 2550 01:36 น.
กีวี-กี
ณ เขาใหญ่
หยุดสิบวันเดินทางไปเที่ยวป่า มุ่งตรงมาปากช่องเขตเขาใหญ่
ด้วยชื่อเสียงแหล่งท่องเที่ยวระบือไกล ดึงดูดใจพวกเรามาทัศนาดู
ออกจากกรุงมุ่งสู่แดนอีสาน แหล่งตำนานเสียงแคนเสนาะหู
สองแถวใหญ่คืบคลานผ่านคลองคู ไปเป็นหมู่มุ่งยังสู่ที่พัก
เมื่อถึงที่เดินทางอีกหลายเมตร ก่อนเข้าเขตเขาใหญ่ลงปักหลัก
ได้ซาลาเปารสเลิศโอชานัก เป็นพลังแหล่งกักก่อนเที่ยวไป
ถึงยามบ่ายมุ่งตรงสู่ปากช่อง ด้วยเพื่อนพ้องบางคนนั่งรออยู่
รอนานไปน้ำตาอาจพรั่งพรู อาจอุดอู้รี่กลับบ้าน สระบุรี
เมื่อได้พบกว่าจะกลับเริ่มเย็นย่ำ ถึงจะค่ำแต่ในใจก็สุขขี
ด้วยที่พักมีน้ำอุ่นชุบชีวี ก่อนจะชมราตรีกลางแสงดาว
หลังอาหารได้เวลาตามคำขอ บ้างดูหมอบ้างเล่นเกมส์บ้างนอนหาว
ก่อนจะมีงานวันเกิดกลางแสงดาว ของหญิงสาวนาม หรรษา หน้ากลมกลม
ถึงยามหนึ่งได้เวลาเข้าพักผ่อน ต่างเข้านอนด้วยหัวใจที่สุขสม
เสียงธรรมชาติล่องมากับสายลม ความเศร้าตรมไม่มีเหลือจากใจเอย
รุ่งอรุณมุ่งสู่เทือกเขาใหญ่ สู่พงไพรด้วยใจที่ผ่าเผย
ถึงศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ไม่ละเลย มิเฉยเมยนมัสการขอพรพลัน
จากตีนเขามุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยว ทางคดเคี้ยวยังคงคุยขบขัน
สะพานแขวนเหวสุวัตดูสูงชัน มิพรึงพรั่นแปดคนคอยก้าวไป
ถึงยามบ่ายมุ่งตรงสู่เหวนรก แหล่งน้ำตกมีชื่อของเขาใหญ่
เห็นกับตาได้ประจักษ์ในจิตใจ ความสดใสสายธารายากบรรยาย
ไต่ก้อนหินเดินดุ่มยังเบื้องล่าง สู่แนวทางมั่นเหมาะ ณ จุดหมาย
สายน้ำตกกระเซ็นเป็นแพรวพราย วาดลวดลายสีสรรงามเหลือเฟือ
เพื่อนบางคนไม่ถนัดการเดินป่า แต่ยังมาเพราะมีเพื่อนคอยช่วยเหลือ
ทั้งพี่เดียร์น้องดาวช่วยจุนเจือ คอยกูลเกื้อตลอดทางด้วยน้ำใจ
เมื่อเย็นย่ำได้เวลากลับที่พัก แหล่งปักหลัก ณ บ้านไร่อันยิ่งใหญ่
อัสดงสาดแสงสวยสดใส ก่อนลับไปกับทรงจำอันงดงาม
เช้าวันใหม่ได้เวลากลับถิ่นเกิด ที่เพลินเพลิดเก็บไว้เป็นคำถาม
ให้บ่งบอกก่อเกิดเป็นนิยาม ว่าชื่อนาม เขาใหญ่ ใคร่จดจด
นัท-หน่อย-เมี่ยง-อ้อ-ดาว-บี-กี และพี่เดียร์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------.
บทกลอนแปดนี้เขียนขึ้นในค่ำคืนนึงกลางเดือน ธันวาคม พ.ศ.2537 ประมาณ 13 ปีที่แล้ว โดยเขียนเป็นกลอนบรรยายเรื่องราวที่ได้ไปท่องเที่ยวกับเพื่อนสนิท นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ซึ่งเป็นเทอมสุดท้ายก่อนจบการศึกษา โดยใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวเดินทางไป
งานเขียนธรรมดาธรรมดาชิ้นนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นส่วนนึงของงานเขียนในวิชา ศิลปคำประพันธ์ 2 สอนโดยท่าน ศ.ประภาศรี สีหอำไพ อาจารย์ที่สอนให้ลูกศิษย์ทั้งหลายได้เห็นความสวยงามของการใช้ภาษาง่าย ๆ ในการสื่อสาร โดยก่อนหน้านั้นท่านอาจารย์ก็เพิ่งกลับจากพาลูกศิษย์เดินทางไปเรียนรู้ธรรมชาติและฝึกเขียนกลอนเรื่อง"อนุรักษ์เสือเพื่อป่าไทย" ในเดือนพฤศจิกายน 2537 ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี
เวลา 13 ปีที่ผ่านไปเร็วมากมาก เพื่อนเพื่อนแยกย้ายกันไปตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน แต่ความทรงจำที่ดีดีครั้งหนึ่งจากการได้ใช้ชีวิตในรั้วจามจุรีสีชมพูร่วมกันจะคงอยู่ตลอดไป
สำเร็จ แสงธีระปิติกุล -เขียนถึงเพื่อนเพื่อน-