๏ เหมือนตกฟากประจักนำโดยกำหนดกำเนิดดวงรันทดยิ่งถดถอยพระศุกร์เข้าพระเสาร์ล่มระทมลอยชะตาซ้ำด้ำพลอยคล้ายลอยแพ ๚ะ๛๏ ตกฟากวิบากพื้น........กำหนดเลขทุรธึกทด ...................ทับแจ้งเงาอัปลักษณ์จักจรด .........เจียดจับ ร่างเนอภูตภาคถากแถแสร้ง .........กำเนิดเชื้อทุรชน๏ หนก่อนบาปเก่ากล้ำ ....บุญเดิมต่อต่ำย่ำเตี้ยเติม ............ ตกใต้สกนธ์เกลือกกลั้วเสริม......แทรกก่อออ-ปริยีเย้ยไซร้ ..............สำทับถ้วมเทินหัว๏ รั้วบ้านรานแบะร้าว ...ล่มเมืองใต้บาทอสูรเนือง- ...........แน่นห้อมเปรตตะปบขบเฟือง ....... ฝังแผ่น- ดินนาฉีกละเลงเขย่งล้อม ........ ปลิ้นปล้อนตาถลน๏ ไฟพะเนียงเสี่ยงชิ้น ....กระเซ็นกาลกิณีเล็งเห็น .............ฮึ่มฮ้องสิ้นศักดิ์เสื่อมกระเด็น ..... ดารดาษ ดื่นเฮยคืนค่ำคาดชาดคล้อง...... แสยะเขี้ยวเคี้ยวกิน๏ แผ่นดินสิ้นดับด้วย ... เดียรถีย์นรชาติชนอัปรีย์ .............เถื่อนถ้วนเหลิงโดยโลดฤทธี ........ ลุบ่อน ทำลายเนอเนรคุณดินล้วน ............. พินาศแล้วอบาย๏ อัปลักษณ์รูปแล้ว..... พอทนขุนกลับงับหางตน .........แตกหวิ้นสั่งไพร่โห่แหนพล ........ ขู่ข่มไฟจ่อรอสั่งสิ้น ............ ซุกเชื้อ-ย่างเมือง๏ ดวงเมืองหรี่มอดแล้ว .... เมลืองโรจน์มารขบข่มคว่ำโชติ ...... ดับซ้ำกาลกิณีโฉด............... ชั่วยิ่ง เยงนาโลหิตฉานนองน้ำ ........ ท่วมพื้นนาคร๏ เหิมแหวกฟ้าข่มพื้น ...ปัถพีบังอาจวาดป้ายสี ....... ใส่ใคร้บ่เจียมชาติทรพี ........ พองศักดิ์ตัวต่ำนรกใต้ ............. เทียบฟ้าได้ฤา๏ ประณตกรกราบไหว้..... ภาวนาเทวะเทพรักษา .......... ช่วยฟื้นป้องปกปักประชา ..... พสก ถ้วนนอขจัดปัดภัยปื้น ......... ครอบเข้าถือครอง ๚ะ๛+ กิ่งโศก +๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖
๏กล่าวซึ่งกึ่งสากระสือ
เห็นลือฮือลั่นหันเหล่
ครั้นเนิ่นเขินนับขับเน-
-ติเหเตร่ให้ไต่ฮาม ๚ะ๛
๏กระสือสื่อพร้องเยี่ยง เพียงหญิง
พิงอยู่สู่แนบสิง นิ่งซ้อน
นอนซุกลุกไหวติง วิ่งต่าง
วางติดจิตสะท้อน ซ่อนทั้งร่างเดียว
๏ เรืองเขียวเปลววาบฟุ้ง วุ้งฝาย
ว่ายฝ่าหาพลิกหงาย ผ่ายแง้ม
แพลมงับจับสัตว์ปลาย ใส่ปาก
ซากเปล่าคาวเปรอะแต้ม ประแหล่มต้องชิวหา
๏ชะหิวริ้วตับไส้ ไตซาก
ตากซ่อนร่อนเทียวลาก ถาก-ลิ้ม
ทิ่ม-รกจกกระชาก กากเสพ
เก็บเศษเช็ดเปื้อนยิ้ม ปริ่มย้อมแสยะหยัน
๏ยังเล่ากล่าวฝากไว้ ใฝ่หวาด
ฝาดว่าฆ่าพิฆาต พาธเข้า
เผาขุดกุดมิขาด มาตรฆ่า
มาขุกทุกข์ปิ่มเศร้า เปล่าสิ้นตาย
๏สายตกผกผ่านเข้า เผาคอย
ผล็อยคว่ำค่ำคืนถอย ค่อยทึ้ง
ขึงทอดกอดลูกพลอย รอยพล่าน
รานพ่ายป่ายผ่าวอึ้ง พึ่งอ้อมอกมารดา
๏อาโดยโชยผ่านเชื้อ เพื่อสาย
พรายสืบหนืบน้ำลาย หน่ายล้อ
หน่อหลุดผลุดเหล่าพราย หลายเพาะ
เลาะผ่านขานต่อข้อ ต่อข้างสืบพันธุ์ ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
๏ ยุคกระเบื้องลอยนองฟูฟ่องน้ำ
ฟ่องเหนือห่าสาระยำย่ำแสยง
สยายมือมืดดำเดชสำแดง
สำเดชอวดกำแหงผ่าแล่งเฮือน ๚ะ๛
๏ ยุคกระเบื้องบุบเบี้ยว ฟูลอยฟูล่องฟ่องพรายฝอย ผิดเพี้ยน
ผิดพร้องผิว์เช่นพลอย ดีพ่าย
ดีพราก-ลากแหล่งเหี้ยน หดเร้นหลบหัว
๏ หลบหายพ่ายเหล่าผู้ แสยะ สยองนาสยบกลบกัดแซะ ฉีกดิ้น
ฉีกดุจกุดลูกแกะ งอก่อง
งอก่อระย่อสิ้น ซบก้มโน้มคอ
๏ โน้มคราวน้าวข้อนั่น บ่งนัยบ่งเนื่องเบื้องสมัย เปลี่ยนหน้า
เปลี่ยนน้ำถ่ายเนื้อไถ เถือแก่น
เถือแกว่งกานบั่นอ้า บากเอื้อมบ่ถึง
๏ บ่ทานต้านทัพฮ้อง โหมฮือโหมหักปรักแปฤา ขื่อบ้าน
ขื่อบนล่างร้างหรือ จึงข่ม
จึงคร่าพร่าทุกด้าน ดะเข้าระดม
๏ ระด่าวร้าวรุกด้วย ทุรชนทุรชาติเชื้อฉล อสุเรศร้าย
อสุระล่อรานจน ป่นแหลก
ป่นร่วงป่วงบิดใบ้ บดสิ้นสรรพสา
๏ สรรพสิ้นวิ่นแหว่งแล้ว เลี่ยงรูปเลี่ยงร่างก้างแกล้งซูบ กร่อนเชื้อ
กร่อนส่อก่อสุมสูบ เฉาเหี่ยว
เฉาห่อนซ่อนสายเอื้อ หน่ายโอ้อาดูร
๏ อาดั่งจักวักฟ้า พลิกดินพลิกดะระนาบติณ แหลกตั้ง
แหลกต้องต่างพังภินท์ พินาศ แน่เนอ
พินิจจิตยอยั้ง บ่ยื้อถือยัน ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖